สิ้นปี 2563 แล้วเชื่อว่า 1 ปีที่ผ่านมาทุกคนคงจะรู้สึกไม่เหมือนปีก่อนๆ แน่นอน เพราะตั้งแต่ต้นปีที่มีข่าวการแพร่ระบาดของ โคโรน่าไวรัส ทำให้มีผลกระทบตั้งแต่เศรษฐกิจในภาพรวมไปจนถึงการใช้ชีวิตประจำวัน ที่ทำให้มีการจำกัดการเดินทาง Social Distancingการลดการติดต่อต่างๆ ซึ่งต้องยอมรับว่าในช่วงแรกก็เป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ แต่เมื่อมีการปรับตัว ปรับรูปแบบการทำธุรกิจได้แล้ว เศรษฐกิจก็จะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับขึ้นมา
แน่นอนว่าในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤตในครั้งนี้ แต่อย่างที่เคยได้ยินกันมาว่า “ในวิกฤตย่อมมีโอกาสอยู่เสมอ” โพสนี้ REALIST จะพามาไล่เรียงเหตุการณ์กันตลอดทั้งปีว่าเกิดเหตุการณ์สำคัญอะไรบ้างที่กระทบต่อธุรกิจอสังหาฯ และวัคซีนที่ค้นพบและเริ่มผลิตแล้วจะทำให้อสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมมีทิศทางไปทางไหนได้บ้าง
1 ปีที่ผ่านมา..อสังหาฯ เป็นอย่างไรบ้าง?
1 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจในภาพรวมได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะเนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องการเดินทาง การติดต่อสื่อสาร มาตรการ Lock Down ทำให้กระทบต่อการจับจ่ายใช้สอย การจ้างงานลดลง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อรายได้ และกำลังซื้อของประชาชนที่ลดน้อยลงไปด้วย
ในมุมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เมื่อกำลังซื้อ-รายได้ของประชาชนลดลง และไม่สม่ำเสมอเหมือนสภาวะปกติ ก็ทำให้ยอดขายของโครงการต่างๆ ลดตามไปด้วยเพราะผู้ซื้อยังรู้สึกไม่มั่นคง ไม่มั่นใจในการจับจ่ายใช้สอย ยิ่งอสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าที่สูงด้วยแล้วยิ่งตัดสินใจยากขึ้นไปอีก จนทำให้ต้องมีการเลื่อนการตัดสินใจไปก่อน หรือรอให้สถานการณ์ในภาพรวมดีขึ้น และเมื่อ Developer เห็นว่ากำลังซื้อลดลงก็จะชะลอการพัฒนาโครงการใหม่ไว้ก่อน เพื่อรักษาสมดุลของ Demand และ Supply
แล้วถ้ามีวัคซีนสถานการณ์จะดีขึ้นไหม?
แน่นอนว่าเมื่อมีโรคระบาด ความหวังจะถูกตั้งไว้ที่วัคซีน หรือ ยารักษา ซึ่งจะส่งผลกระทบในแง่บวก วัคซีนจะเป็นตัวช่วยยืนยันได้ว่าการระบาดครั้งนี้ไม่น่ากลัว สามารถควบคุม และคาดการณ์ได้ ซึ่งหากมีการพัฒนาวัคซีนจนสามารถใช้งานได้จริงแล้ว เศรษฐกิจในภาพรวมจะสามารถเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้ เริ่มมีการลงทุน – จ้างงาน ทำให้รายได้ของประชาชนเริ่มมั่นคง และกำลังซื้อฟื้นตัวขึ้น ทำให้การตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ไม่มีปัจจัยเรื่องความไม่แน่นอนมาเกี่ยวข้อง และนั้นคือกลไกของตลาดและราคา ซึ่ง Developer ก็จะกลับมาพัฒนาโครงการตามความต้องการของตลาด ลงทุนในทำเล และระดับราคาที่เหมาะสม
ตอนนี้กำลังจะมีวัคซีนแล้ว!!
ข่าวดีในช่วงเวลานี้ของทั่วโลกก็คือ การพัฒนาวัคซีนป้องกัน Covid-19 มีความคืบหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันมีวัคซีนที่ WHO รับรองอยู่ 5 ชนิด ซึ่งมีประสิทธิผลสูงกว่า 50% และเริ่มมีการทดลองกับมนุษย์แล้วด้วย ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีประสิทธิผล และวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน สำหรับคนที่มองว่าคงอีกนานกว่าคนไทยจะได้ฉีด ต้องบอกเลยว่า กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณะสุขได้ทำการสั่งซื้อวัคซีนชุดแรกแล้ว 28 ล้านโดส ซึ่งคาดว่าจะได้ใช้ในช่วง กลางปี 2564 โดยกลุ่มแรกที่จะได้ฉีดจะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเช่น บุคลากรทางการแพทย์ เด็ก และผู้สูงอายุ
12 เดือนจากวิกฤตกลายเป็นโอกาส
TIME LINE 1 ปีที่ผ่านมามีเหตุการณ์สำคัญๆ ทั้งเรื่องที่เป็นปัจจัยบวก และลบตลอดทั้งปี โดยแบ่งเป็น 2 ช่วงหลักๆ
- ช่วง Q1 /2563 วันที่ 11 มกราคม เป็นวันแรกที่ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากประเทศจีน หลังจากนั้นการแพร่ระบาดก็เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น จนถึงวันที่ 22 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงที่สุด คือ 188 คนใน 1 วัน หลังจากนั้นเมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อไม่ได้ลดลง วันที่ 2 เมษายน มีการประกาศเคอร์ฟิว งดการเดินทางออกจากบ้านพัก หรือ Lock Down
- ช่วง Q1-Q3 / 2563 นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญหลังจากมีมาตรการ Lock Down ทำให้หลังจากนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 3 พฤษภาคม ผู้ติดเชื้อในประเทศเป็น 0 คน และเริ่มมาตรการผ่อนปรน เริ่มมีการกลับมาดำเนินชีวิตประจำวันได้ในบางกิจกรรม สถานการณ์ดีขึ้นต่อเนื่องจนถึงวันที่ 9 พฤษจิกายน มีข่าวความคืบหน้าในการวิจัยวัคซีนว่าผลการทดสอบที่พอใจ ปลายเดือนพฤษจิกายนนั้นเองทางการไทยได้สั่งซื้อวัคซีนล่วงหน้าซึ่งจะได้ใช้ในช่วงกลางปี 2564 จากสถานการณ์ที่กำลังดีขึ้น การมีวัคซีนก็ยิ่งสร้างความมั่นใจให้กับทุกภาคส่วนมากยิ่งขึ้นไปอีก
จากสถานการณ์ตลอดทั้งปีมาดูเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในธุรกิจอสังหาฯ ประเภทคอนโดกันบ้าง จะเห็นได้ชัดเลยว่าทั้งปี 2562 ยอดขายโครงการ และจำนวน Supply คอนโดเปิดใหม่นั้นยังมีความปกติ ในขณะที่เมื่อเข้าสู่ปี 2563 ใน Q1-Q2 ช่วงที่มีข่าวการแพร่ระบาด ทั้งยอดขาย และ Supply ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก็เกิดจากความไม่มั่นใจในการจะซื้อ และไม่สามารถคาดการณ์สถานการณ์ได้ จึงส่งผลให้ Developer ไม่กล้าลงทุนโครงการใหม่เพิ่ม
เมื่อผ่านช่วงเวลาวิกฤตมาได้ เริ่มมีการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ สถานการณ์เริ่มดีขึ้นใน Q3/2563 ความเชื่อมั่นกลับมาทำให้ยอดขาย และการเปิดโครงการใหม่เริ่มเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ นอกจากนั้นใน Q4 ยังมีข่าวดีเรื่องการพัฒนาวัคซีนที่ประสบความสำเร็จจึงมีแนวโน้มว่าความมั่นใจในการซื้อและการลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมจะกลับมา
สถานการณ์กำลังดีขึ้น..ถึงเวลาซื้อรึยัง?
ในมุมของคนที่อยากจะ ซื้อคอนโด ตั้งแต่ต้นปี มาถึงตอนนี้ปลายปีแล้วก็คงจะเห็นว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในช่วงที่ยอดขายคอนโดมิเนียมลดลงในช่วง Q1 ทำให้กลุ่ม Developer หลายโครงการเริ่มจูงใจการซื้อด้วยการปรับราคาลดลง จนในช่วง Q2 ที่ราคาลงไปในระดับราคาที่ต่ำที่สุดในรอบ 5 ปีเลยทีเดียว จากนั้นสถานการณ์เริ่มดีขึ้นจึงทำให้ราคาปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อย รวมทั้งใน Q4 ที่การพัฒนาวัคซีนสำเร็จ ยิ่งเป็นข่าวดีที่เชื่อได้ว่าจะทำให้ราคาคอนโดมิเนียมอาจจะปรับตัวสูงขึ้นอีกตามลำดับ
ซื้อคอนโดช่วงเวลานี้ดียังไง?
ในวิกฤตที่ทำราคาคอนโดมิเนียมปรับราคาลงมา สำหรับคนที่ต้องการ ซื้อคอนโดพร้อมอยู่ แล้วนับว่าเป็นโอกาสที่ดีมากๆ เพราะระดับราคาปัจจุบันถือว่าต่ำสุดในรอบ 5 ปี รวมทั้งเป็นช่วงดอกเบี้ยขาลง ทำให้อัตราดอกเบี้ยต่ำการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยก็อาจจะได้ข้อเสนอที่น่าสนใจ รวมทั้งเป็นช่วงที่ Developer ต้องการที่จะขายห้องออกไปให้เร็วที่สุดดังนั้นก็จะมีโปรโมชั่นของแถมอีกมากมาย
ในส่วนของนักลงทุนทั้งลงทุนเก็งกำไร และปล่อยเช่า ช่วงเวลานี้ถ้ามั่นใจว่าสถานการณ์กำลังจะดีขึ้น การจ้างงานเริ่มดีขึ้น ตลาดการเช่าเริ่มฟื้นตัว ข้อดีของการซื้อคอนโด ในช่วงระยะเวลานี้จะได้เปรียบตรงที่ได้ต้นทุนในการลงทุนที่ต่ำ ทำให้ในอนาคตเมื่อมีการขายเก็งกำไร หรือปล่อยเช่าก็จะทำให้มีส่วนต่างกำไรที่มากกว่าช่วงราคาปกติ แต่ต้องย้ำไว้เลยว่าเหมาะสำหรับคนที่มีเงินเย็นอยู่แล้ว และต้องการลงทุนในระยะยาวๆ เท่านั้น
10 โครงการ พร้อมเข้าอยู่ จาก ANANDA ราคาดีส่งท้ายปี
โอกาสดีๆ อย่างนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ ใครพร้อมมีแผนที่จะซื้ออยู่แล้ว อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปจนหมดโปรโมชั่น เดี๋ยวจะตกขบวน Ananda มีโปรฯ โครงการ 10 ทำเลใกล้รถไฟฟ้า พร้อมเข้าอยู่จากแบรนด์ IDEO MOBI, IDEO, ELIO และ UNIO
IDEO MOBI
1.IDEO MOBI สุขุมวิท 66 – 1 ห้องนอนเริ่ม 4.59 ลบ.*
2.IDEO MOBI อโศก – DUPLEX เริ่ม 6.68 ลบ.*
3.IDEO MOBI บางซื่อ แกรนด์ อินเตอร์เชนจ์ – เริ่ม 2.39 ลบ.*
4.IDEO MOBI วงศ์สว่าง อินเตอร์เชนจ์ – เริ่ม 1.89 ลบ.*
IDEO
5.IDEO พระราม 9 ตัดใหม่ – เริ่ม 2.39 ลบ.*
6.IDEO สาทร วงเวียนใหญ่ – เริ่ม 3.33 ลบ.*
UNIO
7.UNIO ราคำแหง เสรีไทย – เริ่ม 1.19 ลบ.*
8.UNIO สุขุมวิท 77 เฟส 2 – เริ่ม 1.49 ลบ.*
9.UNIO เอช ติวานนท์ – เริ่ม 1.69 ลบ.*
ELIO
10.ELIO DEL MOSS – 2 ห้องนอนราคาเดียว 2.99 ลบ.*
สถานการณ์กำลังจะกลับมาดีขึ้น แต่อย่าประมาท!! ช่วงนี้อยากให้ทุกคนการ์ดอย่าตก
เวลาที่ดีของคนอยากซื้อคอนโดกับ PROMOTION จัดเต็มจากอนันดาฯ โครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ที่เลือกโครงการแบบเห็นของจริง ดูได้ก่อนตัดสินใจ
