มารู้จัก “พลูด่าง” ไม้ประดับที่ชาวคอนโด นิยมมากที่สุดในปี 2022

พลูด่าง เป็นหนึ่งในไม้ประดับที่ได้รับความนิยมสูง สำหรับ การปลูกพืชในห้องคอนโด และภายในบ้าน เพราะเป็นไม้ขนาดเล็กที่ไม่ต้องดูแลมากเกินไป พร้อมเหมาะสมต่อการเติบโตภายในภูมิอากาศของประเทศไทย อยู่ได้ทั้งภายในพื้นที่แสงรำไรและแสงปานกลาง ไม่ต้องการน้ำมาก สามารถปลูกได้ทั้งภายในน้ำและภายในดิน พร้อมการเติบโตที่จะไม่แน่นจนเกินไป สามารถปลูกได้ดี ทั้งภายในและภายนอกบ้าน ราคาไม่แพง พร้อมการเป็นไม้ฟอกอากาศ ที่ช่วยทำให้การอยู่ภายในห้องคอนโด จะสร้างประโยชน์ได้เป็นอย่างดี โดยสายพันธุ์ของ พลูด่าง ที่เหมาะสมต่อการปลูกในห้องคอนโด คือ

มารู้จัก "พลูด่าง" ไม้ประดับที่ชาวคอนโด นิยมมากที่สุดในปี 2022

ขอบคุณรูปจาก tipsoftree.com

1.พลูฉลุ

พลูฉลุเป็นหนึ่งในไม้ประดับและไม้ฟอกอากาศ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดภายในกลุ่มของต้นพลู หรือที่ถูกเรียกว่ามอนสเตอร่า โดยมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Monstera obliqua (Miq.) Walp. ‘Expilata’ ถือเป็นไม้ประดับที่มีราคาค่อนข้างสูง เพราะจะต้องนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ในปัจจุบันคนไทยสามารถที่จะเพาะสายพันธุ์ พลูด่าง ของพลูฉลุออกมาได้เป็นจำนวนมาก จึงซื้อได้ในราคาที่ถูกขึ้น พร้อมการได้รับความนิยมสูง เลี้ยงง่าย และขยายสายพันธุ์เพียงแค่การปักชำข้อ สามารถอยู่ได้ทั้งภายในที่แสงน้อยและแสงมาก ถ้าเริ่มเลื้อยออกจากกระถาง สามารถหาไม้มาปักเพื่อค้ำได้ การให้น้ำไม่จำเป็นต้องให้มาก เพราะพลูฉลุจะไม่ชอบความชื้น และเพียงแค่ใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ ใบจะออกมาสวยเลยทีเดียว

2.พลูด่าง ราชินีสีทอง

พลูด่างราชินีสีทอง หรือ พลูทอง จะมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Epipremnum aureum ‘Neon’ ถือเป็นหนึ่งในพลูที่มีใบสวย เลี้ยงง่าย และราคาไม่สูง เมื่อใบโตเต็มวัยแล้วจะออกเป็นสีเขียวอมเหลืองที่จะกลายเป็นสีนีออน โดยใบสีเขียวนี้จะออกมาเป็นรูปทรงหัวใจ จึงได้รับความนิยมปลูกมากพอสมควร พร้อมการมีใบแบบบาง เมื่อกลายเป็นไม้เลื้อยจะออกมาสวยมาก ที่สำคัญคือการเป็นไม้ที่ตายยาก ชอบพื้นที่แสงจำนวนมาก แต่ไม่ควรให้โดนแสงแดดโดยตรง เพราะอาจจะทำให้ใบไหม้ได้ แต่ถ้าแสงดีจะทำให้ใบพลูออกมาเป็นสีทองสวย สามารถปลูกได้ภายในกระถาง เมื่อโตเต็มวัยแล้วสีของใบจะเล่นระดับกันสวยงามมาก

พลูด่าง ราชินีสีทอง

3.พลูฉีก

พลูฉีกหรือชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Epipremnum pinnatum (L.) Engl. โดยจะเป็นพลูคนละตัวกับสายพันธุ์ของมอนสเตร่า โดยจะมีใบออกสีเขียวและเรียวยาว มีใบเต็มสลับกับใบฉีก จึงทำให้มีรูปแบบที่แตกต่างจากพลูทั่วไป ถือเป็นหนึ่งในไม้เลื้อยที่โตเร็ว แตกยอดบ่อยครั้ง และเลี้ยงง่าย สามารถปลูกได้ทั้งภายในดินและในน้ำ อยู่ได้ทั้งในจุดที่มีแสงรำไรและแสงแดดจัด ซึ่งพลูฉีกจะสามารถขยายพันธุ์ได้ง่าย เพียงแค่ตัดออกแล้วปักชำใหม่จะเติบโตได้ทันที สำหรับผู้ที่ไม่เคยปลูกต้นไม้มาก่อน ควรแก่การเลี้ยงพลูฉีกจะดีที่สุด เพราะเลี้ยงแล้วจะตายยากและโตเร็วแน่นอน

4.พลูราชินีหินอ่อน

พลูราชินีหินอ่อนจะมีความโดดเด่นของลายที่ใบ โดยจะมีลายออกเขียวและขาวสลับกัน คล้ายกับลายของหินอ่อน โดยเป็นหนึ่งในสายพันธุ์พลูที่มีความสวยงาม เลี้ยงง่าย และอยู่ในจุดที่แสงสว่างส่องถึง จะเติบโตได้ดี รดน้ำได้ทุกวัน แต่ไม่ควรอยู่ในที่แดดจัดมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้ใบไหม้ได้ สามารถเลี้ยงได้ทั้งภายในบ้านและนอกบ้าน ถ้ามีธุระและไม่มีเวลารดน้ำ สามารถเว้นระยะของการให้น้ำได้ในช่วง 2-3 วัน ต่อการให้น้ำ 1 ครั้ง จึงถือเป็นหนึ่งในไม้ประดับที่ให้ความสวยงามและเลี้ยงได้ง่ายเลยทีเดียว

5.พลูปีกนก

พลูปีกนกหรือที่ถูกเรียกว่าพลูระเบิดและพลูใบย่น จะเป็นหนึ่งในตระกูล พลูด่าง แบบมอนสเตอร่า มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Monstera Karstenianum โดยจะเป็นไม้เลื้อยที่มีลำต้นตรงและรูปทรงกระบอกขนาดเล็ก รากจะเป็นข้อปล้อง จุดเด่นคือใบทรงรีสีเขียวอมเหลืองและปลายใบจะแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบจะมีความหนาและมองเห็นเส้นใบได้ค่อนข้างชัดเจน สามารถออกดอกที่ปลายช่อหรือปลายยอดได้ มือใหม่สามารถปลูกเป็นไม้ประดับภายในบ้านได้ง่าย เพราะดูแลได้ ไม่ยุ่งยาก สามารถปลูกภายในอาคารและกลายเป็นไม้เลื้อยที่มีความสวยงาม ปักชำและขยายพันธุ์ง่าย เติบโตได้ดีภายในดิน ตั้งภายในจุดที่มีแสงแดดรำไรและให้น้ำเป็นประจำทุกวัน จะเติบโตได้เป็นอย่างดี

ขอบคุณรูปจาก kapook.com

6.พลูอินโดหลังแดง

พลูอินโดหลังแดง จะมีจุดเด่นด้วยใบที่มีสีเขียวเข้มด้านบนและด้านหลังจะเป็นสีแดง โดยจะจัดอยู่ในวงศ์พืช Araceae พร้อมการมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Syngonium Erythrophyllum ‘Red Arrow’ ถือเป็นไม้เลื้อยที่มีใบสวยงาม สำหรับต้นที่โตเต็มวัยแล้วจะสูงได้ถึง 2.5 เมตร รูปทรงใบจะเป็นทรงหอกที่มี 2 สี หลังใบจะออกเป็นสีแดงเข้มอมม่วง ซึ่งจะมีลักษณะทางสายพันธุ์ที่แตกต่างจาก พลูด่าง สายพันธุ์อื่น ๆ มากพอสมควร พร้อมการเป็นไม้ประดับและไม้ฟอกอากาศที่สามารถดูแลได้ง่าย มือใหม่ก็ปลูกได้สบาย ใช้ดินร่วนเพื่อการปลูกจะทำให้เติบโตได้ดี เพราะระบายน้ำได้ง่าย ตั้งไว้ในจุดที่มีแสงแดดรำไรจะโตได้สวยงาม เพียงแต่มีข้อจำกัดของการปลูก คือ บ้านที่มีสัตว์เลี้ยงหรือเด็ก ควรปลูกให้ห่างมือหรือห่างจากการกัดกินของสัตว์ เพราะถ้าปนเปื้อนและเข้าสู่ปาก อาจจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้

7.พลูใบเงิน

พลูใบเงินจะมีจุดเด่นในเรื่องของใบสีเขียวที่จะออกไปทางสีเงิน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่าScindapsus treubii ‘Moonlight’ อยู่ภายในวงศ์ ARACEAE ที่จะมีลักษณะของใบค่อนข้างแข็งและหนา การแตกยอดจะแตกสลับกันซ้ายขวา ถือเป็นหนึ่งในไม้ประดับที่กำลังได้รับความนิยมด้วยเช่นกัน เพราะถือเป็นต้นไม้ฟอกอากาศและต้นไม้นำโชคตามความเชื่อ  พร้อมการเป็นต้นไม้ที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มของผู้ที่สะสม พลูด่าง และไม้ใบ แต่จะมีข้อแตกต่างจากพลูสายพันธุ์อื่น คือ ค่อนข้างโตช้า การเลี้ยงทำได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมาก เลี้ยงภายในบ้านได้สบายและมีแสงแดดรำไรเข้าถึง ก็สามารถอยู่และเติบโตได้ตามปกติ

8.พลูงาช้าง

พลูงาช้างจะอยู่ภายในตระกูลอิพิที่มีใบขนาดเล็ก ภายในใบจะเป็นสีเขียวออกแกมขาว คล้ายการระบายสีไว้ภายในใบ  โดยเป็น พลูด่าง ที่มีลักษณะของใบเล็กกว่าพลูในสายพันธุ์อื่น ๆ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Epipremnum aureum “Pearls And Jade” และจะค่อนข้างโตช้ากว่าพลูประเภทอื่น การปลูกจะต้องให้อยู่ในจุดที่มีแสงแดดรำไร ไม่ควรโดนแดดแรงเด็ดขาด เพราะใบจะไม่อาจทำให้ต้นตายง่าย ต้องเลี้ยงในบ้านเท่านั้น รดน้ำเพียงแค่ 2-3 วันต่อครั้ง จะอยู่ได้สบาย ส่วนรากของพลูงาช้างจะเดินช้า ผู้ที่นำไปเลี้ยงอาจจะต้องใจเย็น เพื่อรอให้ต้นโต ซึ่งเมื่อใดที่เติบโตเต็มวัยแล้วจะให้ความสวยงามเป็นอย่างมาก

9.พลูสนิม

พลูสนิมหรือที่ถูกเรียกว่าพลูกำมะหยี่ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Philodendron melanochrysum Linden & André  ถือเป็นหนึ่งใน พลูด่าง ที่มีใบสวย จะออกลักษณะของใบเป็นทรงหัวใจ หน้าของใบจะเป็นสีเขียวออกอมแดงที่มีลักษณะคล้ายกับสีของสนิม และมีความพิเศษด้วยเนื้อใบที่เป็นกำมะหยี่ ให้สัมผัสที่นุ่มมือ ส่วนด้านหลังจะออกเป็นสีแดงเข้มชัดเจน ก้านใบจะสลับกันทั้งสีเขียวและสีแดง การแตกยอดจะไม่เร็วเท่า พลูด่าง สายพันธุ์อื่น ต้นจะมีความแข็งแรงสมบูรณ์พอสมควรและรากจะยาวตามก้าน เป็นหนึ่งในสายพันธุ์พลูที่เลี้ยงได้ไม่ยาก วางไว้ในจุดที่มีแสงแดดรำไรและรดน้ำ 2 วันต่อ 1 ครั้ง จะเติบโตได้ดี สามารถเลี้ยงได้ภายในบ้านอย่างเหมาะสม ขยายสายพันธุ์ได้ง่าย เพียงแค่ตัดบริเวณข้อใบมาชำภายในน้ำ รอให้รากออกจะสามารถนำมาปลูกลงบนดินได้ทันที

10.พลูนางฟ้า

พลูนางฟ้าหรือที่ถูกเรียกว่านางฟ้าจำแลงและดาดตะกั่วเถา มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Cissus discolor Blume โดยเป็นทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ และไม้เลื้อย ที่สามารถอยู่ได้ยาวนานหลายปี ลำต้นจะมีลักษณะเป็นเถาเลื้อยได้และจะออกไปรูปทรงของมือเกาะสองง่าม มีความโดดเด่นด้วยสีของใบที่ออกเป็นสีม่วงอมแดงด้านหลัง และมีรูปทรงใบเป็นรูปหัวใจชัดเจน ส่วนด้านหน้าจะเป็นสีเขียวเข้มสลับกับสีขาว มีลักษณะคล้ายกับใบของ พลูด่าง ทั่วไป มองเห็นเส้นใบได้ชัดเจน จึงให้ทั้งใบและดอกที่มีความสวยงาม ส่วนดอกจะออกที่บริเวณช่อปลายยอด จะมีผลออกมาเป็นทรงกลมสีแดงเข้มและอาจจะเป็นสีม่วงเข้มได้ ภายในจะมีเมล็ดอยู่ 1 เมล็ด สามารถปลูกและขยายพันธุ์ได้ โดยวิธีการปักชำแบบง่าย ๆ ชอบดินที่มีความร่วนและให้น้ำปานกลางไม่ต้องถึงมาก ตั้งไว้ภายในที่แสงแดดรำไรจะเจริญเติบโตได้ดี

11.พลูลงยา

พลูลงยาหรือที่ถูกเรียกว่าพลูนาค โดยจะมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Piper ornatum N.E.Br. และถูกเรียกให้ชื่อสากลว่า Celebes Pepper ถือเป็นไม้แบบเถาเลื้อยที่อายุยืนหลายปีและมีขนาดเล็ก จุดเด่นคือลำต้นที่มีสีน้ำตาลออกแดง และจะมีรากงอกออกมาตามบริเวณข้อใบของพลูประเภทนี้ จะเป็นรูปหัวใจออกเป็นสีเขียวเข้มและปะปนกับลายเส้นสีชมพู ซึ่งถือว่ามีความสวยแปลกตาเป็นอย่างมาก ส่วนขอบของใบจะเป็นขอบเรียบ แผ่นจะมีความบาง สามารถที่จะมองเห็นเส้นใบได้ตลอดทั้งแผ่น เป็นหนึ่งในใบพลูที่มีความแข็งแรง ดูแลได้ไม่ยุ่งยากและเลี้ยงง่าย สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการปักชำและเพียงแค่ปลูกภายในดินร่วน ระบายน้ำได้ดี วางไว้ตรงจุดที่มีแสงแดดรำไรและให้ความชื้นสูง จะสามารถเติบโตอย่างสมบูรณ์แบบและใบออกมาสวยงามอย่างมาก

ขอบคุณรูปจาก kapook.com

12.พลูหัวใจแนบ

พลูหัวใจแนบ หรือพลู Silver และแนบอุรา มีชื่อทางสากลว่า Satin Pothos และ Silver hilodendron พร้อมการมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ Scindapsus pictus Hassk. ‘Argyreus’ ที่ถือเป็นไม้เลี้ยยขนาดเล็กและลำต้นทรงกลม จะมีรากอากาศที่ออกตามบริเวณข้อ จึงสามารถปักชำต้นใหม่ได้ง่าย รูปทรงโดดเด่นด้วยใบที่มีลักษณะเป็นหัวใจและจะเป็น ใบพลูด่าง ที่ออกสีเขียวอมเทา สีเขียวเข้ม และมีลายสีเงินกระจายไปทั่วทั้งใบ แม้จะเป็นพลูที่โตช้า แต่การดูแลไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ใช้ดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดีและให้น้ำในระดับปานกลาง พร้อมตั้งไว้ตรงจุดที่เป็นแสงแดดรำไร จะสามารถเติบโตได้ง่ายและรวดเร็ว โดยผู้คนส่วนใหญ่จะปลูกเป็นไม้เลื้อยเกาะกับผนังหรือแขวนไว้ที่กระถาง จะให้สีเขียวที่สบายตาเป็นอย่างมาก

ถ้าคุณอาศัยอยู่ภายในคอนโดและต้องการปลูกต้นไม้ที่เลี้ยงง่าย ไม่จำเป็นต้องให้น้ำบ่อยครั้ง อยู่ภายในห้องที่รับเพียงแสงแดดรำไรได้ พร้อมให้ความสดชื่นและการเป็นไม้ดูดอากาศกับไม้ประดับ ที่ให้ประโยชน์ต่อผู้อยู่อาศัย ขอแนะนำสายพันธุ์ของ ต้นพลูด่าง ที่กำลังได้รับความนิยมในปี 2022 เชื่อว่าถ้าคุณได้เลี้ยงแล้ว จะรู้สึกถึงการเลี้ยงต้นไม้ที่ง่าย สะดวก และทำให้คุณสดชื่นได้ทุกวันแน่นอน

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top