กู้เกิน 100% หรือ กู้ให้น้อยที่สุด ตอนซื้ออสังหาฯ

ระหว่างที่กำลังวางแผนอยากซื้อบ้านหรือเป็นเจ้าของคอนโดสักห้อง เราคงต้องตัดสินใจตั้งแต่การเลือกทำเล เลือกโครงการ เลือกธนาคารยื่นสินเชื่อ จนถึงจำนวนเงินที่ต้องการยื่นสินเชื่อ ซึ่งวันนี้เราจะชวนเพื่อน ๆ ทุกคนมาร่วมวงสนทนาในเรื่องจำนวนเงินกู้สินเชื่อบ้านเพื่ออยู่อาศัย ลองชั่งใจระหว่าง ‘ยื่นกู้เกิน 100%’ หรือ ‘กู้น้อยที่สุด’ แบบไหนเหมาะสมกับแผนการเงิน และแผนการซื้ออสังหาฯ ของเพื่อน ๆ มากที่สุด

กู้เกิน 100%

เป็นวิธีการกู้สินเชื่อบ้านใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก มีมาตรการ LTV รองรับเพื่อซัพพอร์ตกลุ่มคนที่อยากซื้อบ้านหลังแรก ซื้อคอนโดเพื่ออนาคต ซึ่งก็ก่อนจะไปดูกันที่ข้อดี-ข้อพึงระวังของการกู้สินเชื่อบ้านแบบ 100% เราลองมาดูมาตรการ LTV ปี 2566 กันให้เข้าใจกันก่อน

ตารางอัปเดต มาตรการ LTV หรือ Loan to Value Ratio
คืออัตราส่วนที่ธนาคารสามารถออกสินเชื่อได้เมื่อเทียบกับราคาบ้าน และจะเป็นการกำหนดเงินดาวน์ขั้นต่ำที่ผู้ขอสินเชื่อบ้านต้องจ่าย

ราคาบ้าน จำนวนสัญญาที่ผ่อนอยู่ วงเงินการให้สินเชื่อ
ไม่เกิน 10 ล้านบาท สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สัญญาที่ 1 (หลังแรก) กู้ได้เต็มมูลค่าหลักประกัน (100%) และกู้เพิ่มได้อีก 10% สำหรับซื้อเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งบ้าน หรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย
สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สัญญาที่ 2 กู้ได้ 90% หากผ่อนสัญญาแรกแล้ว 2 ปีขึ้นไป หรือ
กู้ได้ 80% หากผ่อนสัญญาแรกไม่ถึง 2 ปี
สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สัญญาที่ 3 ขึ้นไป กู้ได้ 70%

ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.bot.or.th/Thai/ConsumerInfo/Topics/Pages/LTV.asp
ข้อสรุปจากมาตรการ LTV คือ ผู้มีสิทธิ์กู้สินเชื่อบ้านแบบ กู้เต็ม100% + 10% ค่าตกแต่ง จะต้องซื้อบ้านหรือคอนโดในราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท และเป็นสัญญาหลังแรกเท่านั้น  ทั้งนี้การพิจารณาวงเงินการให้สินเชื่อก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของธนาคารผู้ปล่อยสินเชื่อด้วยเช่นกัน

โดยข้อดีของการกู้เต็ม 100% + 10% คือ

  • มีเงินก้อนเหลือพอสำหรับตกแต่ง: สามารถนำไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ และสิ่งจำเป็นเพื่อที่อยู่อาศัย
  • ได้รับเงินก้อน: สามารถนำไปชำระหนี้ส่วนบุคคล หรือลดหย่อนภาระทางการเงินได้
  • อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคล: ถ้าเทียบกับสินเชื่อส่วนบุคคลหรือสินเชื่ออื่น ๆ แล้ว สินเชื่อบ้านและคอนโดมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า

และข้อพึงระวังของการกู้เต็ม 100% + 10% คือ

  • ผ่อนหนี้ระยะยาว: แม้เงินส่วนที่กู้เกิน 100% สามารถนำไปลดหย่อนภาระทางการเงินระยะสั้นได้ แต่ทำให้เกิดภาระการผ่อนหนี้ระยะยาวมากขึ้นในแต่ละเดือน ดังนั้นการใช้วิธีกู้เหลือต้องคำนึงถึงความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ในระยะยาวด้วยเช่นกัน
  • ต้องเพิ่มวินัยการเงินสูง: อ้างอิงจากข้อแรก การกู้หนี้ระยะยาว  หากขาดการวางแผนที่ดี ไม่มีเงินสำรอง เมื่อเกิดสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ทำให้เราขาดรายได้ อาจส่งผลให้เราเสียเครดิต เนื่องจากขาดสภาพคล่อง และไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตามปกติ
  • วงเงินกู้มาก ดอกเบี้ยมากตาม: อย่าลืมว่าการคำนวณดอกเบี้ยคิดจาก ‘วงเงินกู้’ หรือเรียกง่ายๆ ว่าเงินต้นนั่นเอง ซึ่งหากเรากู้สินเชื่อบ้านเหลือมาในจำนวนมากก็จะถูกคำนวนดอกเบี้ยเข้าไปด้วยเช่นกัน

เป็นทางเลือกในการกู้สินเชื่อบ้านคอนโดสำหรับผู้ที่มีเงินก้อนสำรอง และต้องเป็นเงินที่ไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายในชีวิตประจำวันจึงสามารถวางเงินดาวน์ได้จำนวนมาก เพื่อยื่นกู้สินเชื่อให้น้อยลง

โดยข้อดีของการวางเงินดาวน์มาก:

  • จำนวนดอกเบี้ยน้อยลง: เราพูดถึงกันที่จำนวนดอกเบี้ยที่จะถูกคิดตามอัตราดอกเบี้ยในการกู้สินเชื่อ เมื่อเราวางเงินดาวน์จำนวนมาก เงินส่วนที่จะนำไปขอสินเชื่อจะลดลงทำให้ดอกเบี้ยลดลงตามเช่นกัน
  • ระยะเวลาผ่อนสั้นลง: ในเมื่อวงเงินกู้ไม่มาก เราสามารถลดระยะเวลาในการผ่อนลงได้ ไม่จำเป็นต้อง 30 -40 ปี
  • ดาวน์เยอะ มีสิทธิ์ผ่านฉลุย: เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เพิ่มความมั่นใจให้กับธนาคารผู้ออกสินเชื่อ อาจมีผลต่อการพิจารณาการออกสินเชื่อง่ายขึ้นเช่นกัน

และข้อพึงระวังของการวางเงินดาวน์มาก:

  • เงินสำรอง หรือเงินลงทุนลดลง: การนำเงินสำรองก้อนใหญ่มาวางเงินดาวน์เพื่อซื้อบ้านหรือคอนโด ต้องมองเผื่อถึงอนาคตยามฉุกเฉิน หรือประเมินความคุ้มค่าหากนำเงินก้อนนั้นไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า
  • อัตราลดหย่อนภาษีลดลง: ในส่วนของบุคคลธรรมดาที่ยื่นภาษีประจำปี อาจมีผลกระทบเล็กน้อยต่ออัตราการลดหย่อยภาษี เพราะในแต่ละปีจะคำนวณจากดอกเบี้ยที่จ่ายตามจริง

สำหรับเพื่อน ๆ  ที่วางแผนจะซื้อบ้านซื้อคอนโดหลังแรก ต้องลองวางแผนทางการเงินให้ชัดเจนและชั่งใจว่าจะเลือกกู้สินเชื่อบ้านแบบไหน ให้ตอบโจทย์ของตัวเองและครอบครัว

  • กู้เกิน 100% เหมาะกับคนวัยเริ่มทำงานที่ต้องการซื้อบ้านซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัย พร้อมต้องการเงินเหลือสำหรับตกแต่ง ที่สำคัญต้องมีการวางแผนทางการเงินในระยะยาว
  • กู้น้อย ดาวน์เยอะ เหมาะสำหรับกลุ่มคนที่มีเงินสำรองก้อนใหญ่ ซื้อเพื่ออาศัยหรือปล่อยเช่า หรือกลุ่มคนอายุ 30 ปีขึ้น ที่ต้องการผ่อนชำระในระยะเวลาที่สั้นลง

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top