สังเกตกันมั้ยว่าราคาสินค้าต่างๆพุ่งสูงขึ้นจนน่าตกใจ ตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้คลี่คลาย จู่ๆค่าครองชีพของเราก็กระโดดสูงขึ้น ในขณะที่รายรับไม่ได้ผกผันตามราคาสินค้า หรือซ้ำร้ายหนักบางคนมีรายได้ลดลง ทำให้ต้องแบกรับภาระรายจ่ายที่มากขึ้น แต่จะทำอย่างไรดี เพราะเรายังต้องบริโภคน้ำ ไฟ น้ำมัน ค่าเดินทาง ค่าอาหารที่แข่งกันขึ้นราคา การบริหารจัดสรรเงินในกระเป๋าต้องรัดกุมมากขึ้น สำหรับวันนี้จะมาแชร์วิธีประหยัดกัน แม้เล็กน้อยก็อาจพอช่วยได้เผื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนๆมีเงินพอใช้ทุกเดือน
- เก็บแบงค์ใหม่ เป็นกันมั้ย เวลาได้รับแบงค์ใหม่ๆหอมๆมาก็อยากเก็บไว้ไม่กล้านำออกไปใช้จ่ายต่อ ซึ่งวิธีนี้อาจเป็นแรงจูงใจที่ดีที่ทำให้เราหนักแน่นไม่หยิบแบงค์ใหม่นั้นออกมาใช้
- เก็บแบงค์ 50 วิธียอดนิยมตลอดกาล เนื่องจากแบงค์ 50 หายากกว่าแบงค์มูลค่าอื่นๆ และถือเป็นมูลค่ากลางๆ ไม่มากไปที่ทำให้เราเก็บจนไม่พอใช้จ่าย และก็ไม่น้อยเกินไปที่จะเริ่มการออมอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน
- หยอดกระปุก วิธีนี้ทำให้เราได้ย้อนรำลึกความหลังเหมือนสมัยวัยเยาว์ ที่เป็นจุดเริ่มต้นความเชื่อที่ว่าการออมเป็นเรื่องสนุกและสร้างวินัยที่ดี ถึงโตแล้วเราก็สามารถใช้วิธีนี้ได้อยู่เช่นกัน ชาว Gen C อาจเพิ่มเลเวลแบ่งกระปุกเก็บออมแยกเป็นวัตถุประสงค์ต่างๆได้อีก
- ฝากในบัญชีดอกเบี้ยสูง ปัจจุบันนี้ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์เพื่อจูงใจการฝากให้พวกเราอย่างมากมาย และโดยอย่างยิ่งในยุคดิจิทัลที่มีแอปฝากเงินแบบออนไลน์ โดยไม่ต้องมีเล่มสมุดบัญชีถือเป็นทางเลือกที่สะดวกลดการพกพาสมุดหรือเดินไปหน้าสาขา อีกทั้งให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ที่มากกว่าบัญชีทั่วไปเสียอีก
อย่ามองข้ามค่าใช้จ่ายที่โดนหักไปทุกๆเดือน อาจจะเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นที่แฝงอยู่ในชีวิตประจำวัน ลองมาเช็คดูว่ามีอะไรที่พอจะลดทอนได้บ้าง
- แพ็คเกจอินเตอร์เน็ต / มือถือ ลองดูว่าค่าโทรศัพท์ที่เราใช้โทรออกคุ้มกับที่จ่ายบิลในแต่ละเดือนหรือไม่ เพราะยุคนี้สัญญาณอินเตอร์เน็ตค่อนข้างแรงและเสถียร เราสามารถปรับแพ็คเกจค่าโทรลดลง แล้วใช้เป็นการโทรติดต่อผ่านไลน์ หรือแอปอื่นๆ ก็สามารถเป็นทางเลือกทดแทนได้เหมือนกัน
- Subscription ในแอปต่างๆ เรามันก็สายเอนเตอร์เทนตัวเองเก่งเนอะ สมัครสตรีมมิ่ง ทั้ง เนตฟลิกซ์ VIU Disney+ กันให้ว้าวุ่น นี่ยังไม่รวมแอปฟังเพลงพรีเมียมอีก แต่คิดดูดีๆ แล้วลองเช็คดูว่าเราใช้แอปไหนเยอะที่สุด จากนั้นค่อยตัดแอปที่ไม่ค่อยได้เข้าใช้งานออกไปบ้างจะได้ไม่ต้องเสียค่าบริการรายเดือนไปฟรีๆ แถมยังลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้อีกทาง
- ค่ากาแฟทุกเช้า มนุษย์ออฟฟิศ ชีวิตย่อมขับเคลื่อนด้วยคาเฟอีน ทุกเช้าก่อนเข้างานเดินผ่านร้านกาแฟส่งกลิ่นหอมยั่วยวนชวนเสียเงิน เราลองเปลี่ยนจากการซื้อกาแฟทุกวันเป็นการตั้งโควต้าให้ตัวเองซื้อทานที่ร้านได้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนวันที่เหลือเลือกชงกาแฟจากสวัสดิการของออฟฟิศ ก็จะช่วยประหยัดเงินได้อีกทาง
หากประหยัดแล้วแต่เงินในบัญชีก็ยังตึงๆ ต้องดึงต้องเค้นให้ถึงสิ้นเดือนอยู่ล่ะก็ ลองหารายได้เสริมช่องทางอื่นๆ เพื่อให้สภาพคล่องดีขึ้น
- ขายของออนไลน์ เดี๋ยวนี้ใครๆก็เปิดร้านออนไลน์ได้ แค่เรามีมือถือและอินเตอร์เน็ตก็สามารถเปิดหน้าร้านผ่านแพลตฟอร์มโซเชียล หรือ E-Commerce ต่างๆได้ง่ายดาย หรือหากเพื่อนๆยังไม่แน่ใจว่าจะขายอะไรดี หรือยังไม่มีทุนสต็อกของ ลองหาร้านที่เปิดรับเป็นนายหน้าก็สะดวกเช่นกัน เพราะเราไม่ต้องแพ็คพัสดุจัดส่งเอง
- รับจ้างในทักษะที่ถนัด รับงานฟรีแลนซ์เสริมนอกเหนือเวลางานโดยใช้ทักษะที่เรามีจากงานประจำก็ย่อมทำได้ไม่ยากเกินความสามารถ เช่น การใช้สกิลการออกแบบอาร์ตเวิร์ค การเขียนคอนเทนต์ การตัดต่อวิดีโอ รับทำบัญชี งานแปลเอกสาร หรือสอนพิเศษผ่านออนไลน์ ฯลฯ
- สมัครเป็นผู้ขับรถรับส่งผู้โดยสาร หากคุณมียานพาหนะเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือ มอเตอร์ไซค์ ก็สามารถสมัครเป็น Driver ได้ และลองใช้เวลาหลังเลิกงานหรือวันหยุดเปิดแอปรับผู้โดยสาร หรือจะเลือกเป็นการบริการส่งอาหารก็ย่อมทำได้ตามแต่ที่คุณต้องการ
