Food Destination ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำเรียกการตามหาร้านอาหารดี ๆ แต่ยังสะท้อนถึงความนิยม และเสน่ห์ของร้านอาหารที่คนจากทั่วทุกมุมโลกพร้อมใจเดินทางไปลิ้มลอง ร้านเหล่านี้ไม่ได้มีแค่รสชาติอร่อย แต่ยังมาพร้อมประวัติ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ยากจะหาใครเทียบ
การที่ร้านดังจากต่างประเทศมาเปิดในไทย ไม่ได้แค่เพิ่มตัวเลือกอาหารให้หลากหลาย แต่ยังสร้างแรงดึงดูดให้คนได้สัมผัสวัฒนธรรมอาหารจากต้นตำรับโดยไม่ต้องบินไปถึงประเทศนั้น ๆ หลักการคิดของ Food Destination จึงไม่ใช่แค่การเสิร์ฟอาหาร แต่ยังรวมถึงการถ่ายทอดประสบการณ์ ตั้งแต่การตกแต่งร้าน, การให้บริการ ไปจนถึงการเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุดเพื่อส่งต่ออารมณ์และรสชาติแบบต้นตำรับ
และประเทศไทยเองก็กลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายของร้านอาหารชื่อดังจากต่างประเทศ ด้วยการเป็นประเทศที่มีนักกินตัวยงจำนวนมาก และมีวัฒนธรรมการบริโภคที่หลงใหลในรสชาติหลากหลาย ทำให้ร้านอาหารดังหลายแห่งตัดสินใจเข้ามาเปิดสาขาที่นี่ และกลายเป็นที่นิยมต่อคิวยาวจนถึงทุกวันนี้
Katsu Midori
ชื่อของ Katsu Midori กลายเป็นที่รู้จักในฐานะซูชิสายพานอันดับหนึ่งจากโตเกียว ด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย รสชาติระดับพรีเมียม และความหลากหลายของเมนู ทำให้ร้านนี้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ไม่ใช่แค่ในญี่ปุ่น แต่ยังเป็นที่พูดถึงของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
Katsu Midori เริ่มต้นจากร้านซูชิในย่านชินจูกุที่ขึ้นชื่อเรื่องความสดใหม่ของวัตถุดิบ โดยเฉพาะปลาดิบที่ส่งตรงจากตลาดปลาชื่อดังของญี่ปุ่น ภายในร้านมีระบบสายพานที่ลูกค้าสามารถเลือกหยิบจานที่ต้องการได้เอง ทำให้การรับประทานอาหารเป็นเรื่องสนุก
เมื่อร้านนี้มาเปิดในไทย มันกลายเป็นจุดหมายปลายทางของคนรักซูชิที่พร้อมต่อคิวยาวเพื่อสัมผัสรสชาติแบบต้นตำรับ เมนูที่ได้รับความนิยมในไทย เช่น แซลมอนซาชิมิ, ซูชิหน้าปลาทูน่าสด และโรลสูตรพิเศษที่คิดค้นมาเพื่อถูกปากคนไทย
KATSU MIDORI THAILAND CentralwOrld เปิดทุกวัน 10:00 – 22.00 น.
https://www.facebook.com/KatsuMidoriThailand
Tonkatsu AOKI
เป็นร้านทงคัตสึที่มีประวัติยาวนานในญี่ปุ่น เปิดตัวครั้งแรกในปี 1963 ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของทงคัตสึที่มีแป้งบางกรอบและเนื้อหมูชุ่มฉ่ำสูตรเฉพาะของทางร้าน ความใส่ใจในทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกหมูคุณภาพสูง ไปจนถึงซอสทงคัตสึที่เคี่ยวจากวัตถุดิบลับเฉพาะ และการกินด้วยเกลือ 3 ชนิดไม่ว่าจะเป็น Black Salt, Pink Salt หรือ Sea Salt ที่ทำให้ Tonkatsu AOKI แตกต่างและได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในทงคัตสึที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น
เมื่อร้านนี้ตัดสินใจมาเปิดในไทย มันก็สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนทงคัตสึอย่างมาก นอกจากรสชาติที่โดดเด่น การหุงข้าวแบบชามต่อชาม การตกแต่งร้านยังเน้นบรรยากาศอบอุ่นแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งทานอยู่ในร้านทงคัตสึในญี่ปุ่นเลย
Tonkatsu AOKI CentralwOrld เปิดทุกวัน 10:00 – 22.00 น.
https://www.facebook.com/TonkatsuAokiThailand
Lawry’s Prime Rib
สำหรับสายเนื้อไม่มีใครไม่รู้จัก Lawry’s Prime Rib ร้านเนื้ออบระดับตำนานจากอเมริกาที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1938 โดยชื่อ Lawry’s กลายเป็นสัญลักษณ์ของเนื้ออบที่สมบูรณ์แบบ ด้วยกรรมวิธีการอบที่ทำให้เนื้อยังคงความฉ่ำและความนุ่มละลายในปาก
สาขาที่ไทยของ Lawry’s Prime Rib ได้สร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบ Fine Dining ด้วยการนำเสนอเมนูระดับพรีเมียม เช่น Prime Rib Cut ที่เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งบดและซอสสูตรพิเศษ รวมถึง Salad Cart ที่พนักงานจะมาทำสลัดให้สดๆ ถึงโต๊ะ
นอกจากประวัติอันยาวนานในอเมริกา Lawry’s ยังมีสาขาในหลายประเทศทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น, เกาหลี และสิงคโปร์ ทุกสาขายังคงรักษามาตรฐานเดียวกัน ทำให้การมาทาน Lawry’s ไม่ใช่แค่การทานอาหาร แต่เป็นการสัมผัสประสบการณ์แห่งความพิถีพิถันกลับบ้านไปด้วย
Lawry’s The Prime Rib เช็กเวลาเปิดได้ที่เฟซบุ๊ก
https://www.facebook.com/TonkatsuAokiThailand
HIKINIKU TO COME
เป็นร้านที่คนรักแฮมเบิร์กต้องไม่พลาด ร้านนี้เป็นที่โด่งดังในญี่ปุ่นด้วยแนวคิดที่เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความพิถีพิถันในการทำแฮมเบิร์กเนื้อชุ่มฉ่ำที่ใช้เนื้อบดเกรดพรีเมียม ร้านนี้เริ่มต้นจากการเป็นร้านอาหารเล็ก ๆ ในย่านโอซาก้าที่เจ้าของร้านมีความหลงใหลในรสชาติของแฮมเบิร์กแบบดั้งเดิม แต่ปรับปรุงให้เข้ากับรสนิยมคนรุ่นใหม่ เมื่อร้านนี้มาเปิดในไทย มันกลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายของคนที่อยากสัมผัสรสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ๆ โดยไม่ต้องบินไปถึงที่ ความพิเศษของ HIKINIKU TO COME ยังอยู่ที่การปรับเมนูให้เข้ากับคนไทย เช่น การเพิ่มตัวเลือกข้าวญี่ปุ่นหรือไข่ออนเซ็นที่เสิร์ฟคู่กับแฮมเบิร์ก
HIKINIKU TO COME CentralwOrld เปิดทุกวัน 10:00 – 22.00 น.
https://www.facebook.com/p/Hikiniku-To-Come-Thailand-61564606754861