ภูกระดึง…คือแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่ชวนต้องมนต์สะกด เต็มไปด้วยความเขียวขจี มองเห็นทิวเขาและเมฆหมอกที่เรียกได้ว่าแทบจะเอื้อมมือแตะท้องฟ้ากันได้เลยทีเดียว ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ คือสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในช่วงฤดูหนาว รู้จักกันในอีกชื่อว่า “เขากระดึง” แม้ว่าจะผ่านไปนานหลายสิบปี แต่ทุกครั้งที่ผู้คนเดินทางไปเยือน ก็จะได้ชื่นชมไปกับความสวยงามและน่าทึ่งแบบไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน
ชวนทำความรู้จักเขากระดึง ภูสวยมากเสน่ห์
เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่เป็นนักท่องเที่ยวต้องรู้กันอยู่แล้วว่าภูกระดึง อยู่จังหวัดอะไร แม้จะไม่เคยเดินทางไปมาก่อนก็ตาม ที่นี่เป็นหนึ่งในอำเภอที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเลย เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่า มีทิวทัศน์ที่สวยงามและสดใสตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว ที่นี่เป็นที่หมายตาของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากในทุก ๆ ปี เพราะผู้คนจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับความหนาว หมอกหนา และน้ำค้างแข็ง หรือที่เรียกกันว่าแม่คะนิ้ง โอบล้อมด้วยธรมชาติ การเดินทางก็ไม่ได้ยาก แต่ก็ไม่ได้ง่ายจนเกินไป จึงเป็นเหมือนสถานที่ของการผจญภัยไปในตัว
การเดินทางขึ้นภูนั้นชวนตื่นเต้นและท้าทาย คุณสามารถเลือกที่จะขึ้นเขาด้วยการเดินเท้า หรือขึ้นรถยนต์บนถนนที่เป็นทางลาดชัน แถมด้วยความคดโค้งก็ได้ตามต้องการ การเดินขึ้นเขาคุณจะมีโอกาสได้สัมผัสกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และรับชมวิวได้อย่างชัดเจนตามแนวเขาที่สูงชัน ก่อนจะนำคุณขึ้นไปสู่จุดชมวิวบนเขา กับภาพทิวทัศน์ที่ยอดเยี่ยมจนลืมเหนื่อย นอกจากนี้ยังมีทางรอบที่เต็มไปด้วยที่ร้านอาหารและร้านกาแฟ มีร้านสะดวกซื้อให้ได้แวะบ้างเป็นจุด ๆ ไม่ลำบากในการเดินขึ้นลงแบบสมัยก่อนอีกด้วย
ประวัติความเป็นมาของภูกระดึง ที่ควรรู้ก่อนเดินทางไปเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นหนึ่งในอำเภอของจังหวัดเลย ด้วยความสวยงาม และทัศนียภาพอันเต็มไปด้วยเสน่ห์ ความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์ที่ดีเยี่ยม จึงกลายเป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติภูกระดึงที่มีชื่อเสียง
หากย้อนกลับไปในอดีต คนโบราณเล่าสู่กันฟังต่อมาว่าชื่อ “กระดึง” มีที่มาจากการที่คนได้ยินเสียงระฆังของพระอินทร์ที่อาศัยอยู่บนเขา ซึ่งตามภาษาพื้นเมืองของที่นี่แปลว่ากระดิ่ง หรือระฆังขนาดใหญ่ ส่วนคำว่าภู ก็คือภูเขา อีกทั้งยอดเขาบางจุดเมื่อเดินเท้าหนัก จะมีเสียงดังกล้องคล้ายกับการตีระฆังจากโพรงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติใต้ยอดเขา จึงทำให้สถานที่แห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเขากระดึง หรือภูนำหน้าอย่างที่คุ้นหูกันในปัจจุบัน
แนะนำ 10 จุดเช็คอินที่น่าสนใจ ณ ภูกระดึง ที่คุณต้องไปให้ถึง
การท่องเที่ยวที่นี่ ระหว่างทางจะมีจุดเช็คอินและไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด ดังนั้นใครที่กำลังวางแผนเดินทางมาเที่ยวภูกระดึง 2566 นี้เป็นปีแรก ลองมาดูจุดแวะที่น่าสนใจต่าง ๆ ระหว่างทางแบบไม่ให้เสียเที่ยว รับรองได้เลยว่าเด็ดสุด ได้ครบทุกรสชาติ กับ 10 จุดเช็คอินแนะนำ เป็นไฮไลต์ที่ใครมาก็ต้องแชะภาพ และชิมบรรยากาศ
1.หลังแป
เรียกได้ว่าเป็นจุดแรกที่คุณจะได้สัมผัสบนภูแห่งนี้ โดยไฮไลต์ก็คือป้ายต้อนรับที่เขียนเอาไว้ว่า “ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง” แชะภาพสักหน่อย เพื่อให้รู้ว่าถึงจุดยอดสุด สำเร็จตามเป้าหมาย อีกทั้งยังเป็นป้ายที่มีความหมาย เป็นความประทับใจของคนที่เดินเท้าขึ้นมาจนถึง บอกเลยว่าเมื่อเห็นจุดไฮไลต์นี้แล้ว แทบจะบรรยายความรู้สึกไม่ได้ อีกทั้งความเหนื่อยตลอดทางที่ต้องเดินขึ้นมา ก็แทบจะมลายหายไปสิ้น
2.ผานกแอ่น
ตั้งห่างจากศูนย์ที่พักวังกวางประมาณ 1.2 กิโลเมตร ที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามบนยอดภู คุณสามารถเห็นทะเลหมอกที่สวยงาม แต่เมื่อในวันที่ฟ้าเปิด จะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของบ้านศรีฐานและผานกเค้าตั้งเด่นตระหง่าน สวยงามไปอีกแบบ
3.วังกวาง
นี่คือศูนย์บริการครบวงจรบนยอดภูกระดึง ห่างจากหลังแปราว 3.5 กิโลเมตร ที่นี่คุณจะได้พบกับบริการต่าง ๆ ทั้งหมดในที่เดียว เช่น ที่พัก ภูกระดึง ซึ่งมีให้เลือกเป็นแบบลานกางเต็นท์ หรือบ้านพัก นอกจากนี้ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และห้องน้ำ อีกทั้งเป็นจุดสำคัญสำหรับการรับ-ส่งสัมภาระและนัดแนะลูกหาบ ทั้งนี้วังกวางไม่ได้เป็นสถานที่ติดต่อเพียงอย่างเดียว แต่จุดนี้มีเสน่ห์แบบเฉพาะในยามราตรี กับหมู่ดาวนับล้านดวงที่สวยงามจนยากเกินบรรยาย
4.กิจกรรมไหว้พระ
ด้านบนของภูกระดึง คุณจะได้พบกับพระพุทธรูปที่ตั้งตระหง่านอย่างสวยงามและเต็มไปด้วยมนต์ขลัง เป็นจุดสำหรับกราบไหว้เพื่อขอพร และขอโชคลาภ ซึ่งจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ที่ คือ ลานพระแก้ว และองค์พระพุทธเมตตา าเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2463 และถูกบูรณะโดยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีในปี พ.ศ. 2536
5.ผาหล่มสัก
จุดชมวิวที่สวยงามของภูที่มีลักษณะเป็นหน้าผาสูง โดดเด่นและเป็นสัญลักษณ์ที่น่าจดจำ หน้าผานี้มีลักษณะเป็นลานหินกว้างที่มีชะง่อนผาหรือแท่นหิน ยื่นแหลมออกไปจากแผ่นดินแนวผา และมีต้นสนเดียวดายยืนเด่นทระนงเคียงคู่ นี่เป็นองค์ประกอบที่ถูกสร้างขึ้นโดยธรรมชาติที่เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวต้องหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมาบันทึกความทรงจำเอาไว้
6.ผาหมากดูก
อยู่ห่างจากศูนย์ที่พักวังกวางประมาณ 2 กิโลเมตร ที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่มีทิวทัศน์สวยงามของป่าในอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว สถานที่นี้เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมพระอาทิตย์ตกในวันแรกที่มาถึง เหมาะสำหรับเป็นทริประยะสั้นแบบ 2 วัน 1 คืน เพราะสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามได้อย่างคุ้มค่าไม่แพ้จุดอื่น
7.น้ำตกบนภู
ภูกระดึงมีน้ำตกมากกว่า 10 แห่ง ที่คุณสามารถเที่ยวชมบนยอดเขา น้ำตกที่ควรไม่พลาด คือ “น้ำตกเพ็ญพบใหม่” และ “น้ำตกโผนพบ” ที่อยู่ในพื้นที่ร่มรื่น และมีต้นไม้ใหญ่ น้ำตกเพ็ญพบเป็นแนวหิน 3 ชั้นที่มีน้ำตกไหลลดระดับลงมาบนแอ่งน้ำกว้างใหญ่ เป็นการออกแบบของธรรมชาติที่สวยงามน่าสนใจเป็นอย่างมาก
8.ต้นเมเปิ้ลแดง
ด้วยจุดภูที่มีความสูง การปลูกไม้เมืองหนาวอย่าง “เมเปิ้ล” จึงเกิดขึ้นได้ จนกลายเป็นหนึ่งในจุดไฮไลต์ที่ชวนดื่มด่ำ ช่วงฤดูหนาว ใบเมเปิ้ลจะเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นสีแดงสดใส หากไม่อยากพลาดว่าจะเที่ยวภูกระดึงช่วงไหนดี? แนะนำว่าในช่วงธันวาคมถึงกุมภาพันธ์จะได้ลิ้มรสอย่างครบครัน เพราะเป็นเวลาที่ที่คุณสามารถเห็นใบเมเปิ้ลแดงที่เปลี่ยนสีได้อย่างงดงาม
9.สระอโนดาต
สระน้ำที่พบได้บนยอดภูห่างจากศูนย์ที่พักวังกวางประมาณ 3.4 กิโลเมตร เป็นความน่าอัศจรรย์ที่ธรรมชาติให้ความงดงามที่อันเป็นที่สุดเอาไว้ จุดเด่นคือน้ำใสที่สะท้อนภาพของฟ้า ก้อนเมฆและแมกไม้ โดยเฉพาะต้นสนที่ยิ่งเพิ่มความมีเสน่ห์ให้กับสระน้ำแห่งนี้ เป็นภาพที่สวยงามและตรึงตาตรึงใจเป็นอย่างยิ่ง
10.ทิวป่าสน
ป่าสนบนภูมีทั้งสน 2 ใบและสน 3 ใบ สามารถพบเห็นได้ตามริมผา ซึ่งมีต้นสนตกแต่งองค์ประกอบอย่างลงตัว นอกจากนี้ในเส้นทางเดินเลียบผาหรือเส้นทางวังกวาง-สระอโนดาต-ผาหล่มสัก คุณยังสามารถเห็นป่าสนยืนต้นตระหง่านโดดเด่น ชวนให้ถ่ายรูปได้อย่างเพลิดเพลินหากหนาวนี้ชาวคอนโดอนันดาไม่รู้จะเดินทางท่องเที่ยวไปทริปไหน อยากแนะนำให้แวะไปลิ้มรสชาติของภูกระดึง สถานที่มากเสน่ห์ที่มีจุดน่าสนใจหลากหลายแห่งให้คุณได้แวะเก็บภาพบรรยากาศ พร้อมชื่นชมความงามแบบเต็มตา บอกได้เลยว่าทริปหน้าหนาวปีนี้ จะกลายเป็นช่วงเวลาอันแสนพิเศษและคุ้มค่าอย่างแน่นอน
