รถยนต์ไฟฟ้า vs ขนส่งสาธารณะ: แบบไหนคุ้มกว่ากันในปี 2025?

ช่วงนี้เทรนด์รักษ์โลกกำลังมาแรง  หลายคนเริ่มหันมาสนใจ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพราะไม่ต้องง้อน้ำมัน แถมดูเท่สุด ๆ! แต่บางคนก็ยังรัก ขนส่งสาธารณะ เพราะมันทั้งถูกและไม่ต้องปวดหัวเรื่องค่าดูแลรถ แล้วถ้าต้องเลือกกันจริง ๆ ระหว่างมี รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ขับเอง หรือใช้รถเมล์ รถไฟฟ้า (BTS/MRT) ไปทำงาน แบบไหนจะคุ้มกว่ากันในปี 2025? วันนี้มาหาคำตอบกัน!

การมีรถยนต์ไฟฟ้าให้ความรู้สึก ‘อิสระ’ แบบที่ขนส่งสาธารณะให้ไม่ได้ อยากออกจากบ้านตอนไหนก็ได้ ไม่ต้องรอรถไฟฟ้า ไม่ต้องแย่งที่นั่งกับใคร ไม่ต้องกังวลว่าฝนจะตกแล้วต้องเดินลุยน้ำท่วม

อีกจุดที่หลายคนชอบคือ ‘ค่าพลังงานถูกกว่าน้ำมันเยอะ’ ถ้าใครเคยเติมน้ำมันแล้วจะรู้ว่าราคาน้ำมันแพงขึ้นทุกเดือน บอกเลยว่า พลังงานไฟฟ้า หรือ EV น่าจะทำให้คุณสบายใจกว่า แค่เสียบปลั๊กชาร์จที่บ้านตอนกลางคืน หรือใช้สถานีชาร์จสาธารณะ ก็ขับต่อได้แบบชิล ๆ

แต่ทุกอย่างไม่ได้สวยหรูเสมอไป เพราะ EV ก็มีจุดที่ต้องระวัง อย่างแรกเลยคือ ราคาค่าตัวที่ยังค่อนข้างสูง และการต้องวางแผนชาร์จไฟให้ดี เพราะถึงแม้สถานีชาร์จจะมีเยอะขึ้น แต่บางทีก็เต็ม หรือบางที่อาจจะยังไม่มีเลยถ้าขับไปต่างจังหวัด

อีกเรื่องที่ต้องรู้คือ ค่าบำรุงรักษา แม้จะถูกกว่ารถเครื่องยนต์ปกติ แต่ถ้าพังขึ้นมา ก็จะมีค่าซ่อมที่ต้องดูแล รวมถึงช่างเฉพาะทางก็ยังมีจำนวนไม่มากในปัจจุบัน 

ขนส่งสาธารณะเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้กระเป๋าตังค์ของคุณยังอิ่มอยู่เสมอ ไม่ต้องเสียค่าผ่อนรถ ไม่ต้องจ่ายค่าประกัน แค่เติมบัตรเดินทางแล้วก็ลุยไปได้ทุกที่!

อีกอย่างคือ ‘ไม่ต้องขับเองให้เหนื่อย’ จะนั่งเล่นมือถือ ดู TikTok หรือฟังเพลงก็ได้ ไม่ต้องมานั่งเครียดกับรถติดหรือหาที่จอดรถ แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่ใช่ทุกที่ที่มีขนส่งสาธารณะให้บริการ รถไฟฟ้าอาจสะดวกในกรุงเทพฯ แต่ถ้าอยู่แถบชานเมือง อาจจะต้องพึ่งวินมอเตอร์ไซค์ต่ออีกที

นอกจากนี้ ถ้าคุณเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วน คงต้องทำใจเรื่องความแออัด ยิ่งรถไฟฟ้าสายหลักอย่าง BTS หรือ MRT นี่แน่นแทบจะทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะเวลา Prime Time ของการทำงาน แถมบางครั้งยังต้องเจอปัญหารถไฟฟ้าเกิดขัดข้องให้ต้องเสียเวลาเพิ่มกันอีก 

ถ้าเป็นสายรักความสะดวก อยากไปไหนก็ได้แบบไม่ต้องรอใคร รถยนต์ไฟฟ้า คือคำตอบ แต่ถ้าเป็นสายประหยัด รู้สึกว่าไม่อยากเสียเงินไปกับค่ารถเยอะ ๆ ขนส่งสาธารณะ ก็เป็นทางเลือกที่ดีมากเหมือนกัน

  • เพื่อน ๆ เหมาะกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ถ้า
    – เดินทางไกล ใช้รถบ่อย
    – ชอบความสะดวกสบาย ไม่อยากรอรถ
    – พร้อมจ่ายค่ารถและค่าดูแล
  • เหมาะกับขนส่งสาธารณะ ถ้า
    – อยากประหยัดเงิน
    – ไม่รีบ และสามารถเผื่อเวลาเดินทางได้
    – ไม่อยากรับภาระค่าซ่อมและค่าดูแลรถ

สรุปง่าย ๆ ถ้าคุณอยากได้ความอิสระและสะดวกสบาย รถยนต์ไฟฟ้า อาจตอบโจทย์ แต่ถ้าคุณเน้นประหยัดและไม่รีบ ขนส่งสาธารณะ ก็เป็นตัวเลือกที่เวิร์กไม่แพ้กัน!

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top