วิธีการทำให้ห้องเย็นขึ้น ช่วยลดความร้อน อุณหภูมิสูงดุเดือดแค่ไหนก็ไม่กลัว
ช่วงหน้าร้อนของประเทศไทย จัดว่าเป็นช่วงที่อากาศร้อนแบบดุเดือดที่สุด ซึ่งทุกวันนี้อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาไปแล้ว ทำให้หลายบ้านที่บางห้องไม่มีแอร์ หรือมีแต่ก็อยากประหยัดค่าไฟ ต้องการรู้ว่าห้องร้อนแก้ยังไง อาจจะต้องหาวิธีระบายความร้อนในรูปแบบต่าง ๆ ดังนั้นถ้าคุณต้องการวิธีทำห้องให้เย็นขึ้น แนะนำอ่านภายในบทความนี้ ที่จะมีวิธีการช่วยให้คนระบายความร้อนออกจากห้องได้ แม้ใช้แค่พัดลมก็เย็นสบายมากขึ้น
13 วิธีทําให้ห้องเย็น ไม่มีแอร์ ด้วยวิธีง่าย ๆ ไม่เปลืองไฟ ทำตามได้สบาย
ประเทศไทยขึ้นชื่อในเรื่องอากาศร้อนเกือบตลอดทั้งปี แม้ว่าจะเปลี่ยนไปสู่ฤดูกาลที่แตกต่างกัน แต่ความร้อนในตอนกลางวันก็ยังคงแผดเผาจนน่ากลัว ความร้อนจัดมักทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกไม่สบายใจ หงุดหงิด และอาจร้อนยาวไปถึงช่วงค่ำคืน จนกลายเป็นนอนอย่างไม่มีความสุข โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ติดแอร์ภายในห้อง ดังนั้น จึงมี 13 วิธีทำห้องให้เย็นขึ้นที่ได้ผล โดยไม่ต้องพึ่งแอร์ คือ
1.เลือกใช้พัดลมเพดาน
วิธีทำห้องให้เย็นขึ้น ด้วยการเลือกใช้พัดลมเพดานจะดีกว่าพัดลมตั้งพื้น หรือติดกับผนัง เพราะพัดลมเพดานจะสามารถให้ความเย็นแบบวงกว้าง เปิดเพียงจุดเดียว จะทำให้คุณรู้สึกเย็นไปทั่วห้อง แต่ถ้าเป็นช่วงที่อากาศร้อนจัด ลมที่มาจากพัดลมมักจะเป็นลมร้อน แต่ถ้าเป็นพัดลมเพดานจะมีใบพัดกว้าง จึงเป็นการพัดแบบปัดความร้อนออกได้ แต่จะไม่ใช่การดูดความร้อนเข้ามาเหมือนกับพัดลมตั้งพื้นทั่วไป จึงทำให้เป็นวิธีทําให้ห้องเย็น ด้วยพัดลมเกิดความเย็นได้ดีกว่า
2.ตกแต่งสวนริมระเบียง
สำหรับคนที่อยู่ห้องคอนโด แล้วอยากจะหาวิธีระบายความร้อนในห้อง เพิ่มความเย็นสบายให้กับห้องมากขึ้น แนะนำการตกแต่งสวนริมระเบียง โดยเลือกเป็นไม้ฟอกอากาศ หรือเป็นต้นไม้ที่ให้สีเขียวเข้ม เพราะจะช่วยคุณในการลดความร้อนได้ดี พร้อมให้ความสดชื่นในช่วงกลางวันจากการปล่อยออกซิเจนออกมา ที่สำคัญคือส่วนไหนที่มีต้นไม้มักจะนำพาลมมาด้วย ถ้าห้องอยู่ในทิศที่เหมาะสม จะทำให้คุณรู้สึกสบายตาและสบายใจ พร้อมได้รับลมเย็น ๆ จากนอกบ้านมาพร้อมกัน
3.วางน้ำแข็งไว้ตามจุดต่างๆ ของห้อง
สำหรับคนที่ใช้พัดลมตั้งพื้นภายในห้อง วิธีทำห้องให้เย็นขึ้น แนะนำให้คุณวางน้ำแข็งก้อนไว้ตามจุดต่าง ๆ ของห้อง และควรนำมาวางไว้ที่บริเวณหน้าพัดลม จะช่วยทำให้คุณรู้สึกเย็นสบายมากขึ้น ซึ่งให้ความเย็นได้ดีมาก แต่ควรวางในระยะที่เหมาะสมหน้าพัดลม เพื่อทำให้น้ำแข็งไม่ละลายเร็วจนเกินไป แต่อาจจะต้องใช้น้ำแข็งจำนวนมากพอสมควร เพื่อทำให้คุณรู้สึกเย็นสบายจนกลับได้ทั้งคืน
4.ใช้พัดลมช่วยดูดความร้อนออกจากห้อง
ถ้าห้องของคุณมีหน้าต่างและมีระเบียง แนะนำวิธีระบายความร้อนในห้อง ด้วยการจับทิศทางลมแล้วใช้พัดลมตั้งพื้น เปิดหันหน้าออกไปทางหน้าต่างหรือระเบียง เพื่อเป็นการดูดความร้อนภายในห้องออกไป แล้วให้ใช้พัดลมอีกตัวในการพัดเพิ่มความเย็นให้กับคุณ จะถือเป็นการถ่ายเทอากาศภายในห้อง เพื่อทำให้เกิดระบบหมุนเวียนลม จะทำให้คุณเย็นมากขึ้น แต่ถ้าเป็นพัดลมเพดาน ควรให้ช่างมาตั้งระบบใบพัดลมให้หมุนแบบทวนเข็มนาฬิกา จะทำให้ลมร้อนออกจากห้องได้ง่ายขึ้น
5.เลือกใช้ชุดเครื่องนอนผ้าคอตตอน
สำหรับชุดเครื่องนอนที่คุณใช้ ไม่ว่าจะเป็นผ้าปูที่นอนหรือปลอกหมอน แนะนำให้เลือกใช้เป็นผ้าคอตตอนทั้งหมด เพราะเป็นผ้าที่ให้ความนุ่มและเบาสบาย เป็นวิธีระบายความร้อนในห้อง ที่จะทำให้เวลานอนจะไม่ติดผิว ต่อให้เหงื่อออกก็สามารถถ่ายเทอากาศออกได้ดี จึงทำให้คุณรู้สึกสบายตัวตลอดการนอนหลับ
6.อาบน้ำก่อนเข้านอน
อีกหนึ่งวิธีทำห้องให้เย็นขึ้นง่าย ๆ คือ ก่อนนอนให้คุณอาบน้ำอย่างสดชื่น พร้อมใช้น้ำยาอาบน้ำหรือสบู่สูตรเย็น เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับผิวและความรู้สึกของคุณเอง นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำเย็น 1 แก้วก่อนเข้านอน จะทำให้คุณหลับสบายและ ช่วยลดความร้อนระหว่างการนอนหลับได้เป็นอย่างดี
7.นอนกลางคืนให้ปิดไฟ
สำหรับคนที่นอนแล้วไม่ชอบปิดไฟ แต่รู้สึกร้อน แนะนำวิธีทำห้องให้เย็นขึ้น ด้วยการปิดไฟไว้ก่อนจะดีที่สุด เพราะไฟเพดานหรือแม้แต่ไฟหัวเตียง อาจพาให้คุณรู้สึกร้อนได้มากขึ้น เพราะในทุกขณะที่เปิดไฟ หลอดจะระบายความร้อนออกมา ดังนั้นถ้าอยากหลับแบบเต็มตื่นมากขึ้น แนะนำให้ปิดไฟนอนจะดีที่สุด
8.ดึงปลั๊กก่อนนอน
ควรดึงปลั๊กออกก่อนจะเข้านอนตอนกลางคืน และออกจากบ้าน จะช่วยลดความร้อน เพราะการเสียบปลั๊กค้างไว้ จะทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้ายังคงทำงานอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการส่งกระแสไฟเข้าสู่เครื่องใช้ต่าง ๆ จึงปล่อยความร้อนออกมาได้ตลอดเวลา การดึงปลั๊กออกหลังจากคุณนอนหลับหรือออกจากบ้าน จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีทำให้ห้องเย็น ลดความร้อนได้ดี ป้องกันปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรและช่วยลดค่าไฟได้ดีอีกด้วย
9.ใช้ผ้าม่าน และแขวนผ้าเปียก
เลือกใช้ผ้าม่านสีเข้ม ที่เมื่อต้องปะทะกับแสงแดดแล้วจะอมความร้อนไว้ภายในผ้าม่าน และไม่ปล่อยให้รังสี UV เข้ามาภายในห้องได้ หรือใช้เป็นการแขวนผ้าเปียกไว้บนราวตากผ้าหลังระเบียง แล้วเปิดประตูกระจกตรงระเบียง เพื่อให้ลมพัดผ่านจะเป็นตัวช่วยลดความร้อนได้เป็นอย่างดี ซึ่งผ้าเปียกให้เป็นแบบบิดหมัด เมื่อลมมาปะทะจะให้ไอเย็นจากผ้าที่เข้ามาภายในห้อง ถือว่าช่วยได้ดีเช่นกัน
10.ติดฟิล์มกรองแสงหน้าต่างกระจก
ถ้าห้องไม่มีระเบียงแต่มีหน้าต่างกระจก แนะนำให้คุณติดฟิล์มกรองแสงตรงกระจกทุกส่วนและทุกด้าน จะช่วยในการลดความร้อน เมื่อต้องเผชิญกับแสงแดดโดยตรงได้เป็นอย่างดี ควรเลือกเป็นฟิล์มกรองแสงแบบเดียวกับรถยนต์ จะช่วยทำให้กรองรังสี UV และลดความร้อนได้ดีจริง
11.เปิดระบายอากาศภายในห้อง
ภายใน 1 สัปดาห์ คุณควรมีการเปิดประตูและหน้าต่าง เพื่อเป็นการระบายอากาศภายในห้อง โดยเปิดค้างทิ้งไว้ ตั้งแต่ช่วงที่มีแดดแรงจนถึงช่วงเย็น เพื่อเป็นการระบายความร้อนและให้ลมถ่ายเทอากาศภายในห้อง หลังจากการปิดประตูและหน้าต่างทุกบานภายในห้องแล้ว จะสัมผัสได้ว่าอุณหภูมิห้องจะลดลง
12.เลือกพัดลมที่แข็งแรงและประหยัดไฟ
ถ้าภายในห้องของคุณต้องใช้พัดลม เพื่อการลดความร้อน แนะนำให้เลือกซื้อพัดลมเบอร์ 5 ประหยัดไฟ และควรจะต้องเป็นแบรนด์ที่ผ่านมาตรฐาน มอก.มาอย่างถูกต้อง เลือกซื้อพัดลมให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง ไม่ว่าจะเป็นพัดลมตั้งโต๊ะหรือตั้งพื้น รวมไปถึงแขวนผนัง เพื่อทำให้เกิดการสร้างลมที่เพียงพอต่อขนาดของพื้นที่ และที่สำคัญควรทำความสะอาดพัดลมเป็นประจำ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับมอเตอร์และทำให้ได้ลมเย็นที่สม่ำเสมอ พร้อมการวางพัดลมในจุดที่เหมาะสม เพื่อเกิดการถ่ายเทอากาศอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ก่อนออกจากบ้านควรถอดปลั๊กทุกครั้ง เพื่อไม่ให้พัดลมปล่อยความร้อนและจะช่วยประหยัดไฟอีกด้วย
13.จัดห้องให้โล่งและโปร่งที่สุด
การดูแลให้ห้องไม่รก ถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาพื้นที่อยู่อาศัยที่สะดวกสบาย เมื่อห้องเต็มไปด้วยสิ่งของและไม่มีพื้นที่สำหรับการระบายอากาศที่เหมาะสม ห้องจะสะสมความร้อน เนื่องจากการขาดการไหลเวียนของอากาศ ทำให้อากาศเย็นไม่สามารถเข้ามาในห้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อับชื้นและไม่สบายตัว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องจัดห้องให้เป็นระเบียบอยู่เสมอ พร้อมรักษาความสะอาดห้อง ปัดฝุ่นและกวาดเป็นประจำ ไม่เพียงแต่กำจัดฝุ่นละอองเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ห้องเย็นสบายและปลอดภัยมากขึ้น
วิธีทำห้องให้เย็นขึ้นทั้งหมดนี้ทำได้ง่ายมาก ถ้าลองทำตามแล้วรับรองว่าห้องจะรู้สึกเย็นสบายขึ้นแน่นอน
แม้จะไม่ได้เย็นเทียบเท่าห้องติดแอร์ แต่จะช่วยลดอุณหภูมิในห้องได้อย่างมาก! พร้อมช่วยประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น นอกจากนี้ เชื่อว่าเกือบทุกบ้านต้องมีเครื่องปรับอากาศ แต่ถ้าเปิดแอร์โดยไม่ลดอุณหภูมิห้องก่อน แอร์จะทำงานหนักขึ้น ทำให้ค่าไฟพุ่งสูงขึ้น ดังนั้นอย่าลืมทำให้ห้องเย็นลง ก่อนเปิดเครื่องปรับอากาศ จะช่วยให้เย็นเร็วและค่าไฟไม่สูงอีกด้วย