Article by คุณนายแว่น
ตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดที่ไม่ได้ขึ้นลงตามปัจจัยฟื้นฐานแต่เพียงอย่างเดียว แต่จะขึ้นลงตามการเข้าออกของเงินทุน และจิตวิทยามวลรวมด้วยส่วนหนึ่ง ดังนั้นการลงทุนที่ดี และมีวินัยไม่ได้หมายถึงการซื้อหุ้นโดยไม่สนใจมันเลย หรือไม่มีการปรับพอร์ตเลย ปล่อยไว้เฉยๆ ทำแบบนี้นอกจากจะไม่ดีแล้ว อาจทำให้พอร์ตเราเสียหายได้ ในยามที่ตลาดหุ้นผันผวนแบบนี้ ผมมีวิธีรับมือมาฝากกันดังต่อไปนี้ครับ
ประการแรก “พยายามกันสำรองเงินสดไว้ 10-20% ของพอร์ต”
ในยามที่หุ้นตก แต่เราเงินหมดเสียแล้ว แบบนี้จะทำให้เราเสียโอกาสได้ เพราะตลาดหุ้นนั้นช่วงเวลาที่ขึ้นอาจจะไม่นาน และเวลาที่ตกอย่างรุนแรงกะทันหันอาจเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ดังนั้นการกันสำรองเงินสดไว้ 10-20% ของพอร์ต ควรเป็นหนึ่งในวินัยที่เราต้องทำให้ได้
ยกตัวอย่างเช่น พอร์ตเรามีขนาด 1 ล้านบาท เราก็ควรกันสำรองเงินสดไว้ราว 1-2 แสนบาท และเรามีเงินสดอยู่ 1 แสนบาทถ้วน หากหุ้นในพอร์ตเรามีมูลค่าสูงขึ้น อาจขึ้นไปเป็น 1.2 ล้านบาท เราควรแบ่งขายหุ้นออกมาอย่างน้อย 1 แสนบาท จะทำให้เรามีเงินสดในมือ 2 แสนบาท เมื่อยามหุ้นตกกะทันหัน และเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว เราสามารถใช้เงิน 2 แสนบาททยอยซื้อหุ้นพื้นฐานดีที่มีส่วนลดได้อย่างสบายๆ แต่ถ้าเราไม่บริหารจัดการในส่วนนี้ เวลาหุ้นตกหนักๆ เราก็จะไม่มีเงินซื้อ เสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย
ประการที่สอง “ปรับพอร์ตด้วยการขายหุ้นที่ตกน้อยไปซื้อหุ้นที่ตกมากกว่า”
โดยปกติแล้วพอร์ตของนักลงทุนหุ้นระยะยาวควรมีหุ้นในพอร์ตราว 5-10 ตัว ในยามที่หุ้นตก ซึ่งหุ้นแต่ละตัวเราต้องทำการบ้านมาเป็นอย่างดีแล้วเท่านั้น ในยามที่หุ้นตกแบบกะทันหัน การลดลงของราคาหุ้นจะไม่เท่ากัน และในกรณีที่เราขาดเงินสด นักลงทุนระยะยาวจะปรับพอร์ตด้วยการขายหุ้นที่ตกน้อยไปซื้อหุ้นที่ตกมากกว่า วิธีนี้นั้นจะทำให้เวลาที่หุ้นกลับตัวขึ้น บางครั้งสามารถคืนขาดทุนที่เราเสียไปได้เกือบหมด เพราะหุ้นที่ตกหนักกว่าในช่วงเวลาสั้นๆ มักเป็นปัจจัยทางจิตวิทยา โดยพื้นฐานมาเกี่ยวข้องน้อย ในขณะที่พื้นฐานเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่หุ้นกลับถูกลดราคาลงมามาก ก็เป็นโอกาสให้เราเข้าซื้อนั่นเอง
ประการที่สาม “อย่ารีบซื้อหุ้นในดาบแรก”
คำว่า “ดาบแรก” ในความหมายของผมก็คือ หุ้นที่เพิ่งจะตกอย่างรุนแรงในครั้งแรก หลายครั้งที่เราเห็นหุ้นตกลงมาเรื่อยๆ ไม่ใช่ตกชั่วคราวในวันแรก แล้วเด้งขึ้นในวันต่อมา ดังนั้นเราไม่ควรรีบช้อนซื้อหุ้นที่กำลังดิ่งลงมาในดาบแรก ยามที่หุ้นตกรุนแรง และรวดเร็ว เมื่อตกลงไปจนถึงก้นหลุม มันก็จะเด้งกลับขึ้นมาในระยะสั้นๆ และหลายครั้งมันจะตกลึกลงไปกว่าเดิม นั่นคือ “ดาบที่สอง” สำหรับผมแล้วจะทยอยรับในดาบที่สอง หรือดาบที่สาม โดยไม่รีบไปรับหุ้นตั้งแต่ดาบแรก ด้วยเม็ดเงินที่กันสำรองเอาไว้ใช้ยามนี้ จำเอาไว้นะครับ อย่ารีบซื้อหุ้นที่กำลังดิ่งลงรุนแรง เพราะเราอาจจะเจ็บตัว แถมเสียดายที่ซื้อหุ้นแพงกว่าที่ควรจะเป็น
ทั้งหมดคือเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ สำหรับนักลงทุนระยะยาว แม้แต่นักเล่นหุ้นระยะสั้นก็สามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับตนเองได้เช่นกันครับ