เมื่อต้องการเก็บเงินเพื่อเป้าหมายต่าง ๆ ในอนาคต แต่กลับทำได้ยากเหลือเกิน! เพราะมีสิ่งล่อใจรายทางมากมายเต็มไปหมด ทำให้ใครหลายคนรู้สึกท้อใจไม่น้อย เพราะหักห้ามใจแล้ว แต่กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็จ่ายจนกระเป๋าแบบแทบไม่ทันตั้งตัว ดังนั้นจึงขอแนะนำวิธีเก็บเงินฉบับคนรุ่นใหม่ ที่จะช่วยให้คุณทำมีเงินเก็บตามต้องการ ทั้งยังช่วยปรับพฤติกรรมการใช้งานให้มีสติมากขึ้นอีกด้วย
แนะนำ 15 วิธีเก็บเงินที่ได้ผลดี เก็บง่าย ไม่เครียด ได้เงินตรงตามเป้าหมาย
การเก็บเงินไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คนรู้จักวิธีเก็บที่สามารถพาคนให้ได้เงินสะสมจำนวนมากโดยที่ตัวคุณจะไม่รู้สึกเครียดจนเกินไป ดังนั้นถ้าคุณกำลังมองหาวิธีเหล่านี้อยู่ขอแนะนำ 15 วิธีการเก็บเงินที่จะช่วยคุณได้เงินตรงตามเป้าหมายที่ต้องการและเป็นการสร้างพฤติกรรมใหม่ให้คุณได้เก็บเงินอย่างมั่นใจ
1.แบ่งออกจากเงินเดือน
เมื่อมีรายได้เข้ามาหรือเงินเดือนออก วิธีเก็บเงิน คือ ให้คุณเตรียมส่วนที่จะออมไว้ 10% จากเงินเดือนของคุณทั้งหมด เช่น ถ้าคุณเงินเดือน 50,000 บาท การเก็บเงินออมของคุณ จะตกอยู่ที่เดือนละ 5,000 บาท เมื่อครบเป็นเวลา 1 ปี คุณจะมีเงินเก็บสูงถึง 60,000 บาท แต่ในส่วนนี้จำเป็นจะต้องประเมินจากปัจจัยค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าสาธารณูปโภคและหนี้สินส่วนตัวเพิ่มเติม ซึ่งถ้าการออมเงินที่ 10% อาจไม่ไหว แนะนำให้ลดเป็น 5% จะสามารถเก็บเงินได้ดีเช่นเดียวกัน และไม่ทำให้การใช้จ่ายรู้สึกว่ารัดแน่นมากจนเกินไป
2.เก็บในอุปกรณ์เปิดยาก
วิธีเก็บเงิน สําหรับคนเก็บเงินไม่อยู่ แม้จะเก็บไว้ภายในบัญชี ก็ยังอาจมีการถอนออกมาเพื่อใช้จ่าย ดังนั้นแนะนำการใช้กระปุกหรืออุปกรณ์จัดเก็บของขนาดใหญ่ ที่ให้การแกะเงินออกมาใช้เป็นไปได้ยาก หรือไม่สามารถแกะได้เลย ถ้าเป็นกระปุกให้เน้นมีจุดหยอดเงินได้เท่านั้น แต่ไม่มีจุดให้แกะออก เพื่อทำให้รู้สึกว่าหยิบออกมาใช้จ่ายได้ยาก เพราะหนึ่งในนิสัยของผู้คนส่วนใหญ่ที่คล้ายกัน คือ ถ้าการนำเงินออกมามีความยุ่งยาก ก็มักจะหยุดการกระทำที่จะเอาเงินออกได้ดี จึงช่วยในการบังคับตัวเอง เพื่อไม่ให้ใช้จ่ายได้ดีมากขึ้น เพียงแต่ถ้าเมื่อไหร่คุณจำเป็นต้องใช้เงินด่วน และต้องใช้เงินในส่วนนี้ จะต้องทำลายกระปุกหรืออุปกรณ์เก็บทิ้งเพียงอย่างเดียว จะไม่สามารถนำกลับมาใช้งานได้อีก
3.เก็บเงินตามจำนวนวัน
สำหรับผู้ที่ต้องการความสนุกของการเก็บเงิน และช่วยสอนให้คุณมีเป้าหมายได้ดี คือ การเก็บเงินตามจำนวนวัน และเก็บทุกวัน เช่น วันที่ 1 เก็บ 1 บาท วันที่ 2 เก็บ 2 บาท และวันที่ 30 เก็บ 30 บาท เป็นต้น เมื่อเริ่มต้นเดือนใหม่ ให้นับต่อไปและเก็บตามจำนวนั้น เช่น วันที่ 1 ของเดือนที่ 2 เก็บเงิน 31 บาท วันที่ 2 เก็บเงิน 32 บาท และเก็บวันที่ 3, 4, 5 ด้วยจำนวนเงิน 33, 34, 35 บาทตามลำดับไปเรื่อย ๆ ซึ่งภายใน 1 เดือน คุณจะสามารถเก็บเงินได้จำนวน 182 บาท ไปจนถึง 212 บาท แต่การเก็บเงินลักษณะนี้จะเหมาะกับคนที่มีเงินเดือนสูง และไม่มีภาระทางการเงินมากนัก
4.เลือกเก็บเฉพาะบางแบงค์
หนึ่งในการเก็บเงินยอดฮิต ของทั้งคนในวัยทำงานและวิธีเก็บเงินให้ได้เร็วของนักเรียน คือ การเลือกเก็บเฉพาะบางแบงค์ที่ต้องการเท่านั้น เช่น การเลือกเก็บแบงค์ 20, แบงค์ 50, แบงค์ 100 และแบงค์ 500 เป็นต้น ซึ่งวิธีนี้อาจจะไม่ใช่การเก็บทุกวัน แต่ถ้าเมื่อใดที่มีแบงค์ตามจำนวนที่ต้องการภายในกระเป๋า คุณต้องเก็บเข้ากระปุกของคุณทันที หรืออาจเลือกเป็นการเก็บแบงค์ที่หายาก แบงค์มีความแปลก และแบงค์ใหม่ โดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมเก็บเป็นแบงค์ 50 ซึ่งให้มูลค่าในการเก็บที่ไม่ถึงกับสูงมาก แต่ถ้าเก็บได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จะทำให้คุณมีเงินออมที่มากพอสมควร เช่น การเก็บแบงค์ 50 วันละ 1 ใบ ในระยะเวลา 1 ปีหรือ 12 เดือน คุณจะมีเงินเก็บอยู่ที่ 18,250 บาทเลยทีเดียว
5.ซื้อของลดแล้วเก็บส่วนต่างไว้
อีกหนึ่งวิธีของการเก็บเงินที่ให้ความสนุกไม่น้อย คือ การเก็บจากส่วนลดของราคาสินค้าที่คุณซื้อมา เช่น ถ้าคุณซื้อกระเป๋า หรือเครื่องแต่งกายต่าง ๆ ที่ราคาเต็มใบละ/ชุดละ 500 บาท แต่ทางร้านจัดราคาโปรโมชั่นอยู่ที่ใบละ 299 บาท นั่นหมายความว่าจะมีส่วนลดถึง 201 บาท ซึ่งให้คุณเก็บเงินส่วนต่างนี้ไว้ ภายในกระปุกเงินออม พร้อมการตั้งเป้าหมายไว้ว่าคุณจะซื้อของ ใช้บริการ หรือการเข้าร้านอาหาร แล้วได้รับชุดส่วนลดต่าง ๆ คุณจะต้องเก็บส่วนต่างเข้าสู่กระปุกของคุณทันที ชุดนี้จะช่วยทำให้คุณประหยัดเงินและออมเงินไปพร้อมกัน
6.จัดตารางการออมส่วนตัวชัดเจน
สำหรับผู้ที่มีความจริงจังในการเก็บเงิน อาจจะต้องการเงินเก็บ 10,000 บาท ภายในระยะเวลาแค่ 1 เดือน ขอแนะนำวิธีเก็บเงิน10000ภายใน1เดือน ด้วยการจัดตารางออมเงินอย่างชัดเจน โดยเป็นการสร้างตาราง 30-31 วัน (ขึ้นอยู่กับแต่ละเดือน) จากนั้นให้คำนวณว่าภายใน 30-31 วันนี้ ต้องเก็บเงินเท่าไหร่ จึงจะได้จำนวน 10,000 บาท จากนั้นให้คุณเก็บตามตารางทันที ไม่ว่าจะเป็นวันเสาร์หรืออาทิตย์ จะต้องเก็บตามนี้ทั้งหมด ซึ่งวิธีนี้ไม่ว่าจะเป็น Freelance หรือคนมีเงินเดือนก็สามารถทำได้ เพียงแต่จะต้องมีวินัยในการเก็บเงินมากพอสมควร และก่อนจะทำตารางออม ต้องมีการประเมินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รอบตัวก่อน ที่สำคัญคือจะเหมาะกับผู้ที่มีเงินเดือนหรือรายได้ค่อนข้างสูง
7.ปรับพฤติกรรมไปพร้อมการเก็บเงิน
ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องการปรับพฤติกรรมในการใช้เงิน และพฤติกรรมประจำวัน ที่ทำให้สูญเสียเงินจำนวนมาก พร้อมการเก็บเงินได้อย่างมีกำลังใจ ขอแนะนำวิธีการตั้งเงื่อนไขในการใช้ชีวิตให้กับตัวคุณ และจะต้องทำตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งถือเป็นวิธีการที่ต้องใช้ความอดทนมากพอสมควร เช่น ถ้าคุณต้องการเลิกสูบบุหรี่ แล้วเมื่อใดที่คุณหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ จะต้องเสียเงินครั้งละ 50-100 บาท เป็นต้น หรือผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก ถ้ามีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจะต้องเสียเงินตามจำนวนกิโลกรัมที่เพิ่มขึ้นมาจากน้ำหนักปกติ นอกจากนี้กิจกรรมในการใช้ชีวิตอื่น ๆ ถ้าคุณต้องการปรับใหม่ ให้ใช้วิธีเดียวกัน ซึ่งจะทำให้เกิดแรงจูงใจในการเก็บเงินมากขึ้น พร้อมทำให้การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมีอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นการเปลี่ยนสู่คนใหม่ที่ดีกว่าเดิม เรียกได้ว่าให้ประโยชน์หลากหลายด้านเลยทีเดียว
8.เก็บเงินแบบสายหวย
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นหวย แนะนำวิธีการเก็บเงินแบบสายหวยตัวจริง คือ ถ้าคุณซื้อลอตเตอรี่แล้วปรากฏเลขท้าย 3 ตัว เป็นจำนวนเท่าไหร่ ให้เก็บเงินตามยอดนั้น เช่น ถ้าคุณซื้อเลขลอตเตอรี่ 354121 ให้คุณเก็บตามจำนวนเลขท้าย คือ 121 บาท เป็นต้น ถือเป็นวิธีที่ค่อนข้างสร้างความสนุก ต่อการเก็บเงินได้พอสมควร แต่จำนวนเงินอาจไม่สูง เพราะจะเก็บได้เพียงแค่เดือนละ 2 รอบเท่านั้น
9.เพิ่ม Challenge การเก็บเงินกับคนใกล้ชิด
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการแข่งขัน ความสนุกแบบมี Challenge เหมาะสำหรับผู้ที่มีครอบครัวหลายคน คุณสามารถแข่งขันการเก็บเงินระหว่างสมาชิกภายในครอบครัวด้วยกัน โดยอาจจะเป็นการตั้งเงื่อนไขของ Challenge นี้ คือ เก็บเงินจำนวน 3 เดือน, 6 เดือน หรือ 1 ปี ใครเก็บได้มากที่สุด คนนั้นจะชนะและได้รางวัลไป ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ปลูกฝังเรื่องการออมกับเด็ก ๆ ภายในครอบครัวได้เป็นอย่างดี พร้อมให้ความสนุกต่อการเก็บเงินมากขึ้น
10.ใช้การเก็บในบัญชีประจำ
อีกหนึ่งวิธีเก็บเงินสำหรับคนเก็บเงินไม่อยู่ และเป็นวิธีที่เหมาะกับทั้ง Freelance หรือผู้ทำงานประจำทั่วไป เลือกใช้เป็นการเก็บภายในบัญชีประจำ ซึ่งจะต้องมีการโอนเข้าสู่บัญชีนี้ทุกเดือน และจะมีกำหนดของการถอนชัดเจน ถ้าถอนออกก่อนจะไม่ได้ดอกเบี้ยตามที่ธนาคารกำหนด แต่ถ้าคุณสามารถเก็บสะสมได้ครบตามเดือนที่ถูกกำหนดไว้ คุณจะได้รับดอกเบี้ยสูงเลยทีเดียว
11.การซื้อสลากออมสิน
สลากออมสิน คือ หนึ่งในวิธีการออมเงินที่คุณไม่ควรมองข้าม ไม่จำเป็นต้องใช้บัญชีเงินฝาก เพียงแค่คุณเข้าไปซื้อ พร้อมรับบัตรทะเบียนสลากมาถือครองไว้ โดยจะมีหลายราคา ที่สำคัญคือการถือครองไว้ตามระยะเวลาที่ธนาคารกำหนดไว้ จะได้ดอกเบี้ยค่อนข้างสูง แต่ในขณะเดียวกันถ้าต้องใช้ฉุกเฉิน สามารถนำมาขายคืนกับทางธนาคาร เพื่อรับเงินกลับไป
12.การซื้อสลาก ธ.ก.ส
การออมเงินด้วย สลาก ธ.ก.ส จะทำให้คุณสามารถเก็บเงินได้นานขึ้น มีจำนวนเงินให้เลือกคล้ายกับสลากออมสิน และยังสามารถนำไปเป็นหลักทรัพย์กู้เรื่องต่าง ๆ ได้ดี เหมาะสมต่อผู้ที่ต้องการวิธีเก็บเงิน 30 000 ใน 1 เดือน แล้วได้รับดอกเบี้ยจำนวนมาก เพราะสลาก ธ.ก.ส จะเปิดรับฝากสลากเริ่มต้นตั้งแต่หน่วยละ 50 บาทขึ้นไป และสูงสุดหลักล้านบาท พร้อมไปด้วยดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว ซึ่งถ้าคุณซื้อสลาก ธ.ก.ส และออมในจำนวนหลักแสนหรือล้านบาทขึ้นไปต่อใบ การรับดอกเบี้ยด้วยจำนวนเงินเดือนละ 30,000 บาท ไม่ใช่เรื่องยากแน่นอน
13.ตั้งเป้าการถอนเงินทุกวัน
วิธีนี้จะเป็นการผสมผสานระหว่างการออมเงิน และวิธีจัดการเรื่องเงินของตัวคุณเอง เพราะจะเป็นการตั้งเป้าถอนเงินออกมาใช้ในทุกวัน ด้วยจำนวนเท่ากันทั้งหมด โดยที่คุณจะต้องประเมินว่าในแต่ละวัน ใช้เงินเท่าไหร่ เช่น ถ้าคุณประเมินมาแล้วว่าตัวคุณคนเดียว ใช้เงินต่อวันเพียงแค่ 200 บาท ให้คุณถอนออกมาด้วยจำนวนเท่านี้ รวมระยะเวลา 7 วัน คือจำนวน 1,400 บาท ส่วนที่เหลือให้เก็บไว้ และจะไม่นำมาใช้อย่างเด็ดขาด หรือโอนไปสู่บัญชีเงินเก็บของคุณโดยเฉพาะ
14.เก็บเงินตามเป้าหมายของกิจกรรม
การเก็บเงินตามเป้าหมายของการทำกิจกรรมต่าง ๆ จะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกไปเที่ยว หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้เงิน เรียกได้ว่าเป็นการเก็บแบบระยะสั้น ทั้งยังเหมาะต่อการเป็นวิธีเก็บเงิน ให้ได้เร็ว นักเรียน เพราะจะเป็นการตั้งเป้าหมายด้วยระยะเวลาไม่นานมาก เมื่อเก็บแล้วนำไปใช้ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ พร้อมจำนวนเงินที่เพียงพอ จึงไม่กระทบต่อเงินในส่วนอื่น ๆ
15.เก็บเงินทันทีเมื่อมีรายได้เข้ามา
สำหรับผู้ที่ต้องการเก็บเงินแบบเห็นตัวเลขชัดเจน แล้วเก็บได้จำนวนมาก ถือว่าเป็นวิธีเก็บเงินที่ค่อนข้างโหดพอตัว คือ เก็บทันทีเมื่อมีรายได้เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ทำแบบมีเงินเดือน หรือฟรีแลนซ์ เมื่อมีจำนวนเงินถูกโอนเข้ามาภายในบัญชีแบบเงินก้อน หรือเงินเดือน ให้คุณหักเงินเก็บออกไปทันที ต้องการเก็บจำนวนเท่าไหร่ หักออกเท่านั้นได้เลย จึงค่อยนำเงินที่เหลือภายในบัญชีมาเฉลี่ยดูว่าแต่ละวัน ควรจะใช้จ่ายเท่าไหร่ จึงจะพอเหมาะ
สำหรับผู้ที่กำลังสนใจวิธีเก็บเงิน แนะนำทั้ง 15 วิธีนี้ จะช่วยทำให้คุณเก็บเงินได้ง่าย รวดเร็ว และเห็นผลจริง สามารถใช้ได้กับทุกคน ไม่ว่าจะวัยรุ่น วัยเรียน หรือวัยทำงาน รวมไปถึงกลุ่มของครอบครัว เพียงแค่ทำอย่างต่อเนื่อง ให้ครบ 15-30 วัน รับรองว่าพฤติกรรมการใช้เงิน และเก็บเงินของคุณ จะเปลี่ยนแปลงไปสู่ความมีคุณภาพมากขึ้นแน่นอน