14 วิธีไล่แมลงวัน ให้ออกไปจากชีวิตของคุณ ด้วยวิธีแบบบ้านๆ

ปัญหาที่รบกวนใจที่สุดอย่างหนึ่งของชาวคอนโดก็คือ การที่มีแมลงวันบุกเข้ามาในห้อง แค่เห็นก็หงุดหงิดใจกันแล้วว่าขึ้นมาบนชั้นสูงๆ ได้อย่างไร ยิ่งหากไม่ได้มีไม้ช็อตยุง หรือไม้ตีแมลงวันติดห้องแล้วด้วยก็ยิ่งชวนให้รู้สึกหงุดหงิดใจกันไม่น้อยแน่นอนเพราะการจะไล่หรือกำจัดออกไปก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น วันนี้เราจึงขอแนะนำ วิธีไล่แมลงวัน ให้ออกไปโดยที่ไม่ต้องออกแรงมาก ทุกคนสามารถทำตามได้ง่ายๆ ด้วย 14 วิธีไล่แมลงวัน ดังต่อไปนี้

1.ใช้สูตรน้ำตาลปี๊บเคี่ยวกับพริกไทยป่น

วิธีไล่แมลงวันสูตรนี้สามารถใช้ได้ทั้งพริกไทยขาวและพริกไทยดำ หรือถ้าไม่มีสามารถใช้น้ำตาลปี๊บที่เคี่ยวอย่างเดียวก็ได้ แล้วนำไปป้ายไว้กับตะเกียบ หรือกิ่งไม้ แล้วนำไปปักในบริเวณที่มักจะมีแมลงวันเข้ามาวุ่นวายอยู่บ่อยๆ ความเหนียวของน้ำตาลปี๊บจะทำให้แมลงวันติดหนึบอยู่กับไม้จนไม่สามารถไปไหนได้ แต่ในกรณีที่มีพริกไทยดำด้วย ความเผ็ดร้อนที่เป็นจุดเด่นของเครื่องเทศชนิดนี้ จะช่วยไล่ไม่ให้แมลงวันเข้ามาในบริเวณนี้ได้อีก และหากใครใจแข็ง มือนิ่ง ก็ยังสามารถใช้ไม้พันน้ำตาล แตะไปที่ตัวแมลงวันที่เกาะอยู่บริเวณจุดต่างๆ ได้อีกด้วย

2.ฉีดพ่นด้วยน้ำยาล้างจาน

ทุกบ้านต้องมีน้ำยาล้างจานกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสามารถหยิบมาบีบใส่ขวดสเปรย์ แล้วใส่น้ำลงไปในอัตราส่วนเท่ากันแล้วเขย่าให้เข้ากันดี จากนั้นก็ฉีดพ่นไปตามจุดที่ชอบมีแมลงวันมากวนใจกันได้เลย วิธีนี้อาจจะไม่เหมาะกับการฉีดใกล้ๆ วัตถุดิบที่สดใหม่ หรืออาหาร เพราะอาจมีสารเคมีบางอย่างตกค้าง แต่ถ้าเป็นพวกถังขยะ หรือมุมที่อาจมีกลิ่นอับต่างๆ ก็สามารถฉีดได้เต็มที่ นอกจากจะช่วยไล่แมลงวันได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้มดมาวุ่นวายอีกด้วย แต่ข้อควรระวังสำหรับการใช้น้ำยาล้างจานก็คือ อย่าฉีดบนพื้นแล้วเผลอทำน้ำหกใส่ เพราะมันอาจกลายเป็นฟองจนลื่นแล้วเกิดอุบัติเหตุได้

3.ปักไม้ด้วยน้ำกระเทียม

วิธีไล่แมลงวัน โดยกระเทียมนี้ ใช้ได้ทั้งกระเทียมไทยและกระเทียมจีน ขอเพียงแค่ปอกเปลือกออกให้เรียบร้อยสักหนึ่งกำ นำไปต้มกับน้ำสะอาดให้เดือด แล้วลองดูว่ามีกลิ่นแบบเข้มข้นหรือยัง จากนั้นให้ใช้ตะเกียบหรือเศษไม้อะไรก็ได้มาแช่ลงไปในน้ำกระเทียมสักครึ่งวัน หรือพอให้กลิ่นติดกับไม้ แล้วนำไปปักบริเวณต่างๆ ที่แมลงวันชอบบินมาก่อกวนอยู่เสมอ หรือถ้าหากไม่สะดวกใช้วิธีนี้ จะนำมาใส่ขวดสเปรย์แล้วพ่นไปตามจุดต่างๆ ก็ได้ แต่วิธีหลังนี้อาจจะแย่หน่อยสำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นกระเทียมเอาเสียเลย ขนาดคนยังไม่ชอบกลิ่น แมลงวันก็อยู่ไม่ได้กันแน่นอน

4.ฉีดพ่นด้วยน้ำส้มสายชู

นอกจากน้ำยาล้างจานแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องมีติดห้องครัว และสามารถนำมาใช้เป็นหนึ่งใน วิธีไล่แมลงวัน ได้ ก็คือน้ำส้มสายชู เพียงนำมาผสมกับน้ำสะอาดด้วยอัตราส่วน 2:1 หรือ 3:1 สำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบกลิ่นเปรี้ยวมากๆ แล้วนำไปฉีดพ่นตามบริเวณต่างๆ ของครัว โดยเฉพาะบริเวณมุมอับที่อาจจะทำความสะอาดไม่ทั่วถึง รวมถึงบริเวณโต๊ะกินข้าว รับรองว่าจะไม่มีแมลงวันหน้าไหนมาเยือนอีกแน่นอน วิธีนี้สามารถช่วยป้องกันมดดำและมดแดงได้อีกด้วย

5.ใช้น้ำดอกเบญจมาศขับไล่แมลงวัน

หากบ้านของคุณมีเด็กเล็กที่ต้องระวังเรื่องสารเคมีเป็นพิเศษ ก็อาจจะต้องพึ่งพิง วิธีไล่แมลงวัน จากธรรมชาติ อย่างเช่นดอกเบญจมาศที่พอหาได้ตามท้องตลาด หรือร้านขายดอกไม้ชนิดต่างๆ เพียงแค่นำดอกไม้ชนิดนี้มายีผสมกับน้ำสัก 2-3 ดอก นำน้ำบรรจุลงไปในขวดสเปรย์ หรือใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตามมุมต่างๆ ในบ้านได้ สารเคมีในดอกเบญจมาศที่ชื่อไพรีทริน จะเป็นสิ่งที่ใช้ไล่ได้ทั้งแมลงวัน และแมลงชนิดอื่นๆ โดยที่ปลอดภัยต่อทุกคนในครอบครัวมากๆ

6.หักพริกแห้งวางไว้ในจุดที่มีแมลงวัน

ใครที่ชอบนำเนื้อสัตว์มาตากแดดเพื่อทำเนื้อแดดเดียว หรือนำวัตถุดิบบางอย่างมาตากแห้งไว้ จะต้องเจอทั้งแมลงวันและแมลงอื่นๆ มารบกวนเป็นประจำกันแน่นอน วิธีไล่แมลงวัน ที่ได้ผลที่สุดสำหรับสิ่งตากแห้งต่างๆ นี้ก็คือการนำพริกแห้งไปวางไว้สัก 3-4 เม็ด ยิ่งถ้าหักครึ่งไว้ได้ยิ่งดี เพราะกลิ่นฉุนและความเผ็ดร้อนในตัวพริก จะทำให้แมลงวันไม่กล้าเข้ามาใกล้เนื้อสัตว์ของคุณเลย วิธีนี้ใช้ได้กับการไล่มอดและมดที่อยู่ในข้าวสารอีกด้วย

7.ทุบสับตะไคร้แล้วโรยตามมุมต่างๆ

ตะไคร้ถือเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ครอบจักรวาลอย่างแท้จริง นอกจากจะช่วยเพิ่มรสชาติในเมนูยำ หรือแกงต่างๆ แล้ว ยังสามารถนำมาใช้เป็นหนึ่งใน วิธีไล่แมลงวัน ที่ได้ผลโดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงและเด็กเล็กในบ้านอีกด้วย สามารถเลือกทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การนำเอาตะไคร้มาทุบ บุบ หรือสับให้ละเอียด แล้วนำไปโรยในบริเวณมุมอับ หรือตามถังขยะของทางบ้านได้เลย หรือถ้าใครมีเวลา จะเอาไปย่างหรือเผาเพื่อให้มีกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งครัวและห้องด้วยก็ได้ เพราะกลิ่นของตะไคร้สามารถใช้แทนน้ำมันอโรม่าได้เช่นกัน ไม่เพียงแค่ไล่แมลงวันเพียงเท่านั้น แมลงมีปีกชนิดต่างๆ รวมทั้งยุงก็จะไม่กล้าบุกเข้ามาในห้องของคุณอีกเลย

8.ฉีดพ่นด้วยน้ำเปลือกมะนาว หรือเปลือกส้ม

ถ้าหากคุณไม่ชอบกลิ่นตะไคร้ชนิดที่ไม่ชอบมากๆ ก็ยังพอจะมี วิธีไล่แมลงวัน อีกแบบ ด้วยการใช้เปลือกมะนาวหรือเปลือกส้มแทน แต่อาจจะต้องมีกรรมวิธีการเตรียมที่มากหน่อย เริ่มต้นจากการปอกเปลือกส้ม หรือมะนาวแล้วนำเอาไปตากแดด ก่อนจะนำมาเผาเพื่อให้ได้กลิ่นหอมระเหยออกมา สามารถเอาเปลือกที่ย่างแล้วผสมน้ำฉีดพ่นไปตามจุดต่างๆ ได้ด้วย หรือถ้าหากเอาแบบเร็วๆ ก็สามารถนำเปลือกส้มและเปลือกมะนาวมาบีบๆ ให้ช้ำและให้น้ำมันในผิวออกมา จากนั้นให้ห่อด้วยผ้าขาวบาง แล้วนำไปถูตามโต๊ะและจุดต่างๆ วิธีนี้ยังสามารถใช้ได้ดับกลิ่นคาวและกลิ่นอาหารได้เป็นอย่างดี

9.จุดไฟเผาใบกะเพราช่วยไล่แมลงวัน

ใครที่ชอบซื้อใบกะเพราติดตู้เย็นทิ้งไว้ เพราะชอบกินผัดกะเพรา หรือชอบนำไปใส่ในต้มยำชนิดต่างๆ อย่าลืมซื้อเผื่อไว้อีกสักกำหนึ่ง แล้วนำไปตากแดดให้สนิทแล้วเก็บใส่กล่องไว้ เมื่อไรก็ตามที่เจอแมลงวันก่อกวน ก็ให้จุดไฟเผาใบกะเพราตากแห้งนี้ไปเลย กลิ่นฉุนของใบกะเพราจะช่วยไล่แมลงวันได้อย่างชะงัด แต่ก็ต้องระวังเรื่องของการจุดไล่คนด้วย ไม่จำเป็นต้องจุดเยอะจนเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดควันที่เยอะกว่าปกติจนทำให้เกิดสัญญาณเตือนไฟไหม้ หรือทำให้สปริงเกอร์ทำงานโดยอัตโนมัติ ซึ่งก็จะกลายเป็นเรื่องวุ่นวายมากๆ แทน

10.ขยี้ใบสะระแหน่ หรือแคทนิปเพื่อให้กลิ่นออก

ถ้าคุณเลี้ยงแมวในคอนโด ก็ย่อมต้องมีต้นแคทนิปหรือกัญชาแมวไว้เป็นของกินเล่นให้น้องๆ กันอยู่แล้ว ก็สามารถนำเอาต้นนี้มาใช้เป็น วิธีไล่แมลงวัน ได้เลย เพราะแคทนิปจัดว่าเป็นพืชในตระกูลเดียวกันกับสะระแหน่ วิธีใช้ก็เพียงแค่เอามือขยี้ๆ ใบสัก 3-4 ใบพอให้มีน้ำมันหอมระเหยฟุ้งออกมา จากนั้นก็นำเอาไปตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ได้เลย กลิ่นของใบสะระแหน่จะอยู่ได้นาน 3-4 วันและช่วยไล่แมลงวันได้จริงๆ ในกรณีที่ใช้แคทนิปก็อาจจะต้องระวังเจ้าแมวสุดที่รักของคุณมาโฉบไปก่อนที่จะได้ใช้ไล่แมลงวันอย่างที่ต้องการ

11.จุดไฟเผาใบชาตากแห้งหรือห่อด้วยผ้าเล็กๆ

หากคุณโปรดปรานการดื่มชาในช่วงเวลาเช้าๆ หรือช่วงเวลาบ่ายเป็นประจำอยู่แล้ว คุณจะต้องมีความสุขมากๆ แน่นอนที่รู้ว่าใบชาก็สามารถเอาไปเป็นหนึ่งใน วิธีไล่แมลงวัน ได้เหมือนกัน เพียงแค่ใช้ใบชาตากแห้ง จะเป็นใบชาที่ยังไม่ได้ชง หรือใบชาที่ชงแล้วแต่ยังหลงเหลือกลิ่นก็ได้ โดยนำมาจุดไฟเพื่อทำให้เกิดกลิ่นหอมระเหยขึ้น กลิ่นหอมๆ ของใบชาจะทำลายประสาทการรับกลิ่นของแมลงวันได้มาก แต่ต้องระวังเรื่องของควันที่อาจมากเกินไปเช่นเดียวกับกรณีของใบกะเพรา ถ้าไม่อยากจุดไฟก็สามารถขยี้ใบชาตากแห้ง แล้วนำมาใส่ผ้าขาวบางตัดเล็กๆ มัดเป็นถุงแล้วนำไปวางตามจุดต่างๆ ได้ ยิ่งถ้านำมาไว้บริเวณหัวนอน ก็จะช่วยทำให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น

12.แขวนถุงน้ำเปล่า

วิธีไล่แมลงวัน ทั้ง 11 วิธีที่เราได้แนะนำไปในข้างต้น ล้วนเป็นวิธีไล่ในกรณีที่แมลงวันเข้ามาในบ้านแล้วทั้งนั้น แต่วิธีนี้เป็นวิธีจะป้องกันไม่ให้แมลงวันเข้าบ้านตั้งแต่แรกเลย เพียงแค่นำน้ำเปล่าใส่ลงไปในถุงร้อนแบบใส จะขนาดไหนก็ได้ แต่ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งดี แล้วแขวนไว้บริเวณระเบียงคอนโด จะแขวนแค่ 1 หรือ 2 ถุงก็ได้ ขึ้นอยู่กับปริมาณแมลงวันที่มักจะเข้ามาบุกบ้านคุณอยู่บ่อยๆ แสงแดดที่สะท้อนกับถุงพลาสติกที่มีน้ำอยู่ จะไปกระทบกับเลนส์ตาของแมลงวันจนทำให้เกิดความไม่ชัดเจนขึ้น ภาวะนี้จะทำให้แมลงวันไม่สามารถบินตรงเข้าสู่ห้องคุณ หรือไม่สามารถจู่โจมเป้าหมายได้อย่างที่ต้องการ

13.ฉีดพ่นด้วยน้ำมันยูคาลิปตัส

ถ้าห้องไหนมีสเปรย์ดับกลิ่นยูคาลิปตัส หรือใช้น้ำมันหอมระเหยที่เป็นกลิ่นยูคาลิปตัสอยู่แล้ว ให้หาเศษผ้าแถบยาวๆ แถบหนึ่ง หรือจะซื้อเป็นริบบิ้นก็ได้ แล้วนำเอาสเปรย์หรือน้ำมันฉีดพ่น หรือหยดลงไปบนแถบผ้านี้ให้สม่ำเสมอ จนได้กลิ่นฟุ้งกระจายทั่วทั้งแผ่น แล้วนำไปแขวนไว้บริเวณระเบียง หรือจุดที่แมลงวันชอบแอบเข้ามา เพียงได้กลิ่น แมลงวันก็จะบินผ่านไปเลย

14.เก็บกวาดเศษขยะให้เรียบร้อย

วิธีป้องกันแมลงวันที่ดีที่สุด ก็คือการเก็บกวาดครัวและทิ้งเศษขยะให้เรียบร้อยนั้นเอง สังเกตมั้ยว่าครัวคอนโดห้องไหนที่ค่อยข้างเป็นระเบียบ ห้องนั้นแทบจะไม่เคยมีแมลงใดๆ มาบุกให้รำคาญใจเลย แม้กระทั่งแมลงสาปหรือมดที่มักจะพบเห็นได้ทั่วไป เพราะฉะนั้นอย่าลืมทำความสะอาดครัว โต๊ะอาหาร และถังขยะให้เรียบร้อยทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้แมลงวันและแมลงชนิดอื่นๆ ได้กลิ่นอาหารแล้วบินเข้ามาสร้างความวุ่นวายภายในห้องของคุณอีก

ใครที่อยู่คอนโดของอนันดาอาจจะพบปัญหานี้ค่อนข้างน้อย เนื่องจากสิ่งแวดล้อมต่างๆ รอบคอนโดไม่ค่อยจะเป็นแหล่งที่แมลงวันมักจะมาก่อความวุ่นวายมากนัก นอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังมีการทำความสะอาดอย่างดี มีการเปลี่ยนถังขยะทุกครั้งที่เต็ม และภายในครัวก็มีการจัดสัดส่วนไว้เป็นอย่างดีโดยออกแบบให้มีมุมอับน้อยที่สุด คุณจึงสามารถวางใจได้เลยว่าจะพบเจอปัญหานี้น้อยมากๆ

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top