หลายคนอาจสงสัยว่า การปลูกผักช่วยรักษ์โลกอย่างไร ซึ่งการปลูกผักเองที่บ้านนอกจากจะได้บริโภคส่วนตัวอย่างมีสุขอนามัยแล้ว ยังสามารถลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น พื้นที่ปลูกผักสามารถช่วยลดภาวะโลกร้อน ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้เป็นอย่างดี และยังช่วยลดการใช้บรรจุภัณฑ์แพคเกจจิ้งที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังสามารถลดการใช้ทรัพยากรที่มีจำนวนมากได้ เพราะเราสามารถเก็บเกี่ยวผักตรงจากสวนของเราในปริมาณที่เพียงพอไม่เหลือทิ้ง นี่จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการรักษาโลกและสิ่งแวดล้อมในรูปแบบที่ใครๆก็ทำได้
สำหรับมือใหม่สามารถเริ่มต้นลองจากการเลือกพืชผักที่มีอายุสั้น เลี้ยงง่าย เติบโตได้ดีในทุกสภาพอากาศก่อน โดยส่วนใหญ่จะเป็นผักสวนครัวที่นิยมนำมาปรุงอาหาร ได้แก่
- พริก พืชสวนครัวเลี้ยงง่าย ปลูกได้ในดินร่วนเพียงแค่หยอดเมล็ดลงในกระบะเพาะพันธุ์แล้วรอประมาณ 7 วัน พอเห็นต้นกล้างอกขึ้นมาจากนั้นให้ย้ายลงไปปลูกในกระถางเล็ก ๆ แต่สิ่งที่ต้องระมัดระวังในการปลูกพริก คือ น้ำขังดินหรือดินแฉะเกินไป
- ใบกะเพรา / ใบโหระพา สามารถโรยเมล็ดลงกระถางที่มีดินละเอียดแล้วรดน้ำตามทันที ใช้เวลาประมาณ 7-10 วัน ต้นอ่อนจะงอกขึ้นมา และรอให้ต้นอ่อนสูงประมาณ 4 นิ้ว จึงค่อยเริ่มเก็บยอด
- ผักสลัด ควรรดน้ำดินให้ชุ่มแล้ววางเมล็ดพันธุ์ในกระถางหลุม 3-4 เมล็ด จากนั้นรอประมาณ 5-7 วัน แล้วค่อยคัดต้นอ่อนที่สมบูรณ์ออกมาให้เหลือเพียง 1 ต้นต่อหลุม และกดดินให้แน่น พร้อมเก็บเกี่ยวได้เมื่อครบ 45-50 วัน
การปลูกผักกินเองให้ประโยชน์กับเราและโลกมากกว่าที่คิด นอกจากเรื่องการรักษ์โลกแล้ว ยังมีข้อดีอีกหลายประการ เช่น
- ได้ทานผักสด สะอาด ปลอดภัยจากสารปนเปื้อนและดีต่อสุขภาพ
- ได้ทานผักแบบไม่เสียคุณค่าทางโภชนาการมากเกินไป เพราะสามารถเก็บจากแหล่งปลูกของเราทันที
- เศษผักที่เหลือสามารถนำไปทำเป็นปุ๋ยชั้นดีได้
- ประหยัดเงินในกระเป๋า แม้ว่าในตอนแรกเราจะต้องลงทุนซื้อเมล็ดพันธุ์และอุปกรณ์ต่าง ๆ แต่หลังจากนั้นจะลดค่าใช้จ่ายได้อีกเยอะ เพราะถือว่าเป็นต้นทุนที่เราควบคุมเองได้ รวมถึงปริมาณผักที่เราต้องการด้วยเช่นกัน
