หลังจากที่ได้ฟังแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจจากงาน Vision for Thailand 2024 มีหลายคนคาดการณ์ว่าหากนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลได้เกิดขึ้นจริง นโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจไหนจะช่วยผลักดันตลาดหุ้นตัวไหนบ้าง หรือใครกำลังมองหาการลงทุนจะเลือกโฟกัสที่หุ้นด้วยไหน ลองมาดูกัน
ดูคลิปเต็ม: https://www.youtube.com/watch?v=GCKRM7vrwQs
นโยบายแผนเศรษฐกิจ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’
นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่หลายคนพูดถึงนั้น จะเป็นการผลักดันการใช้จ่ายผ่านหรือการทำธุรกรรมผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล เป้าหมายก็เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตมากขึ้น
โดยหุ้นที่น่าจับตามองสำหรับนโยบายนี้คือ
- หุ้นของบริษัทเทคโนโลยีการเงิน (Fintech): ที่อาจพัฒนาระบบการชำระเงินดิจิทัล, บริษัทที่ให้บริการแอปพลิเคชันการเงิน, และบริษัทที่มีเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เช่น Krungsri Finnovate หรือ Kasikorn Bank เป็นต้น
- หุ้นของบริษัทโทรคมนาคม: การใช้ดิจิทัลวอลเล็ตก็ต้องเกี่ยวกับกับสัญญาณอินเทอร์เน็ต ดังนั้นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายโทรคมนาคมก็เป็นช่องทางที่น่าสนใจในช่วงนั้น เช่น True Corporation หรือ Advanced Info Service (AIS)
- หุ้นธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง สินค้าอุปโภคบริโภค: ขาดไม่ได้สำหรับพื้นที่รองรับการใช้จ่าย เช่นธุรกิจค้าปลีกและค้าส่ง เช่น CPALL หุ้นของเซเว่นที่อาจได้ประโยชน์จากการเพิ่มการใช้จ่ายผ่านดิจิทัลวอลเล็ต หรือ CPAXT เป็นต้น
นโยบายแผนเศรษฐกิจ ‘ดันซอฟต์พาวเวอร์’
มุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพด้านวัฒนธรรมและการสร้างสรรค์ของประเทศไทย เพื่อเพิ่มอิทธิพลทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของประเทศผ่านสื่อ, ศิลปะ, และความคิดสร้างสรรค์
โดยหุ้นที่น่าจับตามองสำหรับนโยบายนี้คือ
- Media Content (หุ้นที่เกี่ยวข้องกับสื่อและความบันเทิง): เช่น GMM Grammy หรือ RS ที่มีธุรกิจผลิตเนื้อหาสื่อและความบันเทิง ซึ่งสามารถได้รับประโยชน์จากการส่งเสริมวัฒนธรรมและสื่อ
- AS (Asset Wise): บริษัทที่ทำธุรกิจในด้านอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนที่อาจมีโอกาสเติบโตจากการลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาวัฒนธรรมและศิลปะ
นโยบายแผนเศรษฐกิจ ‘ดันท่องเที่ยวและเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’
มุ่งกระตุ้นการเติบโตของการท่องเที่ยวและการพัฒนาโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์ที่มีขนาดใหญ่ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและเพิ่มรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น
โดยหุ้นที่น่าจับตามองสำหรับนโยบายนี้คือ
- หุ้นกลุ่มโรงแรม: เช่น CENTEL หรือ Hotels and Resorts ที่จะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจากนโยบายนี้
- หุ้นกลุ่มเอนเตอร์เทนเมนต์: เช่น RS หรือ GMM Grammy ที่มีการลงทุนในโครงการบันเทิงและคอนเสิร์ตต่าง ๆ
- หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์: เช่น ANAN Ananda ที่มีโครงการคอมเพล็กซ์และสถานที่ท่องเที่ยวในพอร์ตโฟลิโออยู่
นโยบายแผนเศรษฐกิจ ‘ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม’
มุ่งเน้นการพัฒนาและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในประเทศไทย เช่น การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่, การพัฒนาทักษะแรงงาน หรือ การปรับปรุงกระบวนการผลิตต่าง ๆ
โดยหุ้นที่น่าจับตามองสำหรับนโยบายนี้คือ
- หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการผลิต: เช่น Siam Cement Group (SCG) หรือ Indorama Ventures (IVL) ที่ลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตและโครงสร้างพื้นฐาน
- หุ้นกลุ่มพลังงาน: เช่น PTT หรือ B.GRIMM Power ที่มีการลงทุนในพลังงานและเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงโครงสร้างอุตสาหกรรม
- หุ้นกลุ่มการขนส่งและโลจิสติกส์: เช่น Kerry Express หรือ Thai Airways ที่ช่วยในการปรับปรุงระบบการขนส่งและโลจิสติกส์
ทั้งนี้การลงทุนผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดก่อนลงทุนทุกครั้ง เพื่อความมั่นคงทางสินทรัพย์ของเพื่อน ๆ นั่นเอง