อหิวาตกโรคกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศเตือนให้เฝ้าระวังการระบาดในปี 2568 เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่ยังขาดระบบสุขอนามัยที่ดีและแหล่งน้ำสะอาด อหิวาตกโรคเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Vibrio cholerae ซึ่งทำให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง และหากไม่ได้รับการรักษา อาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ในเวลาอันสั้น
การแพร่ระบาดมักเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีภัยพิบัติธรรมชาติหรือแออัด เช่น ค่ายผู้อพยพ หรือ พื้นที่ที่ระบบจัดการน้ำเสียยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ องค์การอนามัยโลกจึงให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังและการป้องกันอหิวาตกโรคในปัจจุบัน
และสำหรับต้นตอของ อหิวาตกโรค มาจากการติดเชื้อ Vibrio cholerae ซึ่งมักแพร่กระจายผ่านน้ำและอาหารที่ปนเปื้อน เชื้อแบคทีเรียสามารถเข้าสู่ร่างกายเพื่อน ๆ ได้จากการดื่มน้ำที่ไม่ได้ผ่านการกรองหรือต้มให้สะอาด หรือการรับประทานอาหารที่ไม่สุก เช่น อาหารทะเล หรือ หอยจากแหล่งน้ำที่ปนเปื้อน รวมถึงการบริโภคผักหรือผลไม้ที่ล้างด้วยน้ำไม่สะอาด หรือผู้ที่สัมผัสอุจจาระของผู้ติดเชื้อโดยตรง หรือไม่ได้ล้างมือให้สะอาดหลังใช้ห้องน้ำ ก็มีความเสี่ยงในการติดเชื้อสูงเช่นกัน
อาการของ อหิวาตกโรค มีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง ผู้ติดเชื้อบางรายอาจไม่มีอาการใด ๆ แต่สำหรับผู้ที่แสดงอาการ มักพบว่ามีท้องร่วงอย่างรุนแรง ถ่ายเหลวเป็นน้ำลักษณะคล้ายน้ำซาวข้าว ซึ่งอาจเกิดขึ้นหลายครั้งในหนึ่งวันจนร่างกายสูญเสียน้ำอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยอาจมีอาการขาดน้ำ เช่น ผิวแห้ง, ปากแห้ง, กระหายน้ำมาก, ตาลึกโหล และปัสสาวะน้อยหรือไม่มีเลย บางรายอาจมีคลื่นไส้และอาเจียนร่วมด้วย หากไม่ได้รับการรักษาทันที อาการอาจรุนแรงขึ้นจนเกิดภาวะช็อกและเสียชีวิตได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
การป้องกันอหิวาตกโรคสามารถทำได้โดยการดูแลสุขอนามัยส่วนตัวและแหล่งอาหาร น้ำที่ดื่มต้องผ่านการกรองหรือการต้มจนเดือด อาหารควรปรุงสุกใหม่ๆ และหลีกเลี่ยงอาหารดิบ โดยเฉพาะอาหารทะเล การล้างมืออย่างถูกวิธีก่อนกินอาหาร หลังใช้ห้องน้ำ หรือหลังสัมผัสอาหารดิบ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารหรือผลไม้ที่ล้างด้วยน้ำไม่สะอาด หรืออาหารข้างทางในพื้นที่ที่ระบบสุขอนามัยต่ำ
แม้ว่าอหิวาตกโรคจะพบได้น้อยในประเทศที่มีระบบสุขอนามัยที่ดี แต่ก็ยังมีโอกาสระบาดได้ หากไม่ใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพ การดื่มน้ำสะอาด การล้างมือบ่อยๆ และการเลือกบริโภคอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ล้วนเป็นวิธีป้องกันที่ได้ผลและช่วยลดความเสี่ยงจากโรคร้ายนี้ได้
