รู้ไว้ไม่ปวดหัว อาการปวดหัวแบบนี้เรียกว่าอะไร?

คนยุคใหม่ต่างเผชิญกับเรื่องน่าปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน ทั้งเรื่องงาน ปัญหาส่วนตัว รถติด ฝุ่น PM2.5 ฯลฯ แต่อย่าทำเป็นเล่นกับคำที่เราบ่นกันบ่อยๆว่า “มีแต่เรื่องน่าปวดหัว” เพราะถ้าเกิดคุณรู้สึกปวดหัวขึ้นมาจริงๆ ต้องลองเช็กกันแล้วว่าปวดบริเวณไหนของศีรษะและลักษณะอาการเป็นอย่างไร เพราะปวดหัวในจุดที่แตกต่างสามารถวิเคราะห์สาเหตุและบ่งบอกโรคได้ จะมีอาการปวดหัวแบบไหนบ้างไปดูกันเลย

ปวดหัวจากไมเกรน (Migraine)

มักจะมีอาการปวดศีรษะตุบๆ บริเวณข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง อาจปวดร้าวมาถึงกระบอกตา ระยะเวลาที่ปวดนานเป็นชั่วโมงหรืออาจปวดทั้งวัน อาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน สู้แสงไม่ได้ร่วมด้วย บางรายอาจมีสัญญาณเตือนก่อนอาการปวดหัวคือเห็นแสงวูบวาบหรือมองเห็นภาพไม่ชัด

ปวดหัวจากความเครียด (Tension)

โรคปวดศีรษะลักษณะนี้พบได้บ่อยที่สุด มักเกิดกับบุคคลซึ่งมีความเครียด โกรธ เหนื่อยล้า อาการปวดจะมีความรู้สึกเหมือนถูกรัดทั้งสองข้างของศีรษะและต้นคออย่างแน่น ถ้าอาการรุนแรงอาจจะมีอาการกดเจ็บที่หนังศีรษะร่วมด้วย ระยะเวลาปวดกินเวลาได้ตั้งแต่ 30 นาทีขึ้นไป

ปวดหัวแบบคลัสเตอร์ (Cluster)

อาการปวดศีรษะชนิดนี้พบได้ไม่บ่อย มักเกิดในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ลักษณะจะมีการปวดศีรษะรุนแรงที่บริเวณรอบตา เบ้าตา หรือขมับข้างเดียวเท่านั้น รู้สึกร้อนที่หน้าผาก โดยมักมีอาการอื่นควบคู่มาด้วยเสมอ เช่น น้ำตาไหล ตาแดงข้างที่ปวด คัดจมูก หูอื้อ หนังตาตกเนื่องจากความผิดปกติของสมอง ผู้ป่วยจะอาการปวดศีรษะเป็นชุดๆ อาจมีอาการหลายวันจนถึงหลายสัปดาห์

ปวดหัวจากไซนัสอักเสบ (SINUS)
ผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดมึนๆ หนักๆ ตื้อๆ ตรงบริเวณหน้าผาก หัวตา โหนกแก้มหรือรอบๆ กระบอกตา บางรายอาจรู้สึกคล้ายปวดฟัน อาการปวดศีรษะลักษณะนี้เกิดเนื่องจากโพรงจมูกติดเชื้อ และน้ำมูกไหลออกมาไม่ได้ บางรายมีอาการปวดเมื่อก้มศีรษะหรือเปลี่ยนท่า