เชื่อว่าหลายคนกำลังเตรียมตัวและมีแพลนสำหรับวันหยุดยาวที่กำลังจะมาถึงนี้แล้ว โดยเฉพาะคนทำงาน ยิ่งจะต้องวางแผนการทำงานในช่วงนี้ให้ดี เพื่อที่จะสามารถมีเวลา เคลียร์งาน อื่นๆ หรืองานที่จำเป็นต้องใช้ด่วนทันทีเมื่อวันหยุดสิ้นสุดลง ดังนั้น เพื่อให้ทุกคนมีช่วงเวลาของการพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวได้อย่างเต็มที่ และไม่ต้องเป็นกังวลกับการทำงาน รวมทั้งไม่ต้องแบกงานมากมายไปทำในช่วงวันหยุด เราจึงนำ 10 เทคนิค เคลียร์งาน ให้เสร็จก่อนที่จะถึงวันหยุดยาวมาแชร์ให้คนทำงานได้เอาไปลองปรับใช้กันค่ะ ซึ่งจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
1.ไปถึงที่ทำงานให้เร็วกว่าปกติ
แน่นอนว่าที่ทำงานแต่ละแห่งมีช่วงเวลาของการเข้าออกงานอยู่แล้ว แต่ในช่วงเวลาของการเคลียร์งาน หรือสัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงวันหยุดยาว แนะนำให้ไปที่ทำงานให้เร็วกว่าปกติค่ะ เพราะการที่เราไปถึงที่ทำงานเร็วกว่าปกติ จะช่วยให้มีเวลาในการทำงานและ เคลียร์งาน ต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น หรือจะใช้ช่วงเวลานี้เพื่อตอบอีเมล์ที่ยังค้างตอบก็ได้เช่นกัน จะได้ไม่ต้องใช้เวลาทำงานไปกับการตอบอีเมล์ และจะได้ใช้ช่วงเวลาทำงานไปกับการทำงานอย่างเดียวไปเลยก็น่าสนใจเช่นกัน นอกจากนี้การมีเวลาเพื่อเช็คหรือตอบอีเมล์ จะช่วยให้เราสามารถคาดการล่วงหน้าได้ว่า ในช่วงวันหยุดยาวจะมีงานอะไรที่ต้องทำ เพื่อที่จะได้เตรียมตัวก่อนที่จะลงมือทำหลังจากหยุดยาวนั่นเอง หรือหากใครไม่ต้องใช้เวลาไปกับการตอบอีเมล์ ก็สามารถใช้ช่วงเวลาก่อนเข้างานจริงจดบันทึกสิ่งที่ต้องทำหรือจะทำทั้งวันนั้นไว้อย่างชัดเจน จะช่วยให้เราใช้เวลาของทั้งวันนั้นได้อย่างมีคุณภาพ และมาพร้อมกับชิ้นงานที่ทำสำเร็จตามมาด้วย
2.จดบันทึกสิ่งที่ต้องทำให้ชัดเจน
เชื่อหรือไม่ว่าการจดบันทึกสิ่งที่ต้องทำอย่างชัดเจน ช่วยให้เราสามารถเคลียร์งานแต่ละชิ้นได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นการจัดระบบความคิดของเราได้ดีในช่วงเคลียร์งานกองโต ซึ่งหลายคนมักจะเผชิญกับปัญหาที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องทำอะไรก่อนหลัง เพราะสัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงวันหยุดยาว มักเป็นช่วงที่งานมากมายมาก่ายกองตรงหน้าจนไม่รู้ว่างานไหนควรทำก่อนและงานไหนสามารถทำทีหลังได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้ใช้เวลาสักช่วงหนึ่ง เพื่อจดบันทึกสิ่งที่ต้องทำให้ชัดเจน จะจดเป็น to do list รายวันก็ได้เช่นกัน ซึ่งอาจจะใส่รายละเอียดของงานที่ต้องทำไว้ให้ชัดเจน การจดบันทึกแบบนี้จะช่วยให้เราได้รู้ว่าวันนี้ต้องทำงานอะไร เพื่อที่จะสามารถส่งงานได้ทันเวลา ยิ่งถ้ารู้ว่าเสร็จงานหนึ่งแล้วต้องต่อด้วยงานไหนต่อ จะช่วยให้เราสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง วิธีนี้จะช่วยให้เราไม่ต้องแบกงานไปทำในช่วงวันหยุดอีกด้วย
3.เคลียร์งานเก่าที่ยังค้าง
งานเก่าในที่นี้หมายถึงงานที่เราสะสมเรื่อยๆ มา จะด้วยเหตุผลเพราะยังไม่ถึงช่วงเวลาส่ง หรือเพราะยังไม่มีอารมณ์ทำก็ตาม หากงานเหล่านั้นถูกสะสมมานานมากแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องหยิบเอามาทำในช่วงหลังหยุดยาวแล้วค่ะ เพราะถ้ายังไม่เอามาเคลียร์ให้เสร็จ เชื่อหรือไม่ว่าการพักผ่อนของเราอาจจะถูกรบกวนจากงานเก่าที่ยังค้างได้สูงมาก ดังนั้นหากเป็นงานที่ถูกดองมานาน แม้จะยังไม่ถูกตามให้ส่ง แต่ถ้ามันอยู่กับเราในช่วงเวลาใหญ่ๆ แล้ว ควรเอามาทำให้เสร็จก่อนถึงวันหยุดยาวนี้ค่ะ รับรองว่าการพักผ่อนของคุณในช่วงหยุดยาวนี้จะสนุกและไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องานที่ยังค้างแต่อย่างใดเลย
4.ขีดเส้นตายของงานให้ชัดเจน
การขีดเส้นตายให้กับงานแต่ละชิ้น จะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เราสามารถเร่งกับตัวเองได้ดี ไม่ว่างานชิ้นนั้นจะมีระยะเวลาส่งหลังจากหยุดยาวอีกหลายวันหรือหลายสัปดาห์ก็ตาม ก็ควรขีดเส้นตายให้กับงานแต่ละชิ้นให้ชัดเจน ทั้งนี้แนะนำให้พยายามเรียงลำดับงานที่ต้องทำ โดยคำนึงถึงความสำคัญและความเร่งในการส่งแต่ละชิ้นเป็นอันดับแรก จะช่วยให้เราสามารถ เคลียร์งาน ได้ถูกต้องมากที่สุด นั่นหมายความว่า หลังจากหยุดยาว ก็มีงานที่พร้อมให้ส่งแล้วนั่นเอง จะช่วยลดความกังวลตอนพักผ่อนในวันหยุดยาวได้ด้วย ดังนั้นใครที่เป็นกังวลกับจำนวนงานที่มากเกินไป หรือรู้สึกว่าน่าจะไม่ทันเสร็จก่อนวันหยุดยาว อย่าเพิ่งด่วนตัดสินไปเลยว่าตัวเองน่าจะทำไม่ทัน แต่แนะนำให้จดงานที่ต้องทำทั้งหมด แล้วเรียงลำดับงานที่ต้องส่งก่อนหลัง ต่อด้วยการคำนวณระยะเวลาในการทำงานแต่ละชิ้น แล้วขีดเส้นตายไว้เลยว่างานแต่ละชิ้นจะต้องเสร็จวันไหน
5.ใช้เวลาว่างอยู่กับงานให้ได้มากที่สุด
เทคนิคนี้อาจจะต้องอาศัยความอดทนสักหน่อย โดยเฉพาะใครที่เป็นสายโซเชียลยิ่งต้องอดทนมากยิ่งขึ้น ซึ่งในช่วงของการ เคลียร์งาน หลังหยุดยาว แนะนำให้ใช้เวลาไปกับการทำงานให้ได้มากที่สุด โดยอาจจะหยุดการทำงานแค่เฉพาะช่วงเวลากินข้าวหรือพักผ่อนก็พอ ดังนั้นใครที่ใช้เวลาไปกับการเลื่อนมือถือหลายชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนฟีด Facebook เล่น TikTok อัพภาพลงไอจี หรือเกาะกระแส Hashtag ดังในทวิตเตอร์ก็ตาม ลองเอาเวลาเหล่านั้น เปลี่ยนมาเป็นช่วงเวลาของการเคลียร์งานกันดูค่ะ รับรองว่างานเสร็จไปหลายชิ้นอย่างแน่นอน เพราะการใช้เวลาไปกับการเล่นโซเชียลในแต่ละวันกินเวลาของแต่ละคนไปเยอะมาก และหลายคนแทบจะไม่รู้ด้วยว่าตัวเองใช้เวลาไปกับสิ่งเหล่านี้ไปกี่ชั่วโมงในแต่ละวัน หรือถ้าอยากรู้ว่าพฤติกรรมการเล่นโซเชียลของเรามากน้อยแค่ไหน แนะนำให้ตั้งค่า Screen Time ในมือถือกันดูค่ะ จะทำให้เราได้รู้อย่างละเอียดเลยว่า ในแต่ละวันเราเข้าไปเปิดและเล่น application ไหนเป็นเวลาเท่าไร
6.ใช้กฎทำงาน 50 นาที พัก 10 นาที
แม้จะทุ่มเทเวลาไปกับการ เคลียร์งาน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าร่างกายย่อมต้องมีเวลาพัก ต่อให้เป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรงมากๆ ก็ย่อมต้องการช่วงเวลาพักผ่อนด้วยเช่นกัน และเพื่อให้ช่วงเวลาของการเคลียร์งานก่อนวันหยุดยาวไม่เป็นการทำลายสุขภาพ จึงแนะนำให้ใช้กฎทำงาน 50 นาที และพัก 10 นาที นั่นหมายความว่า ในทุกๆ การทำงาน 1 ชั่วโมง จะต้องให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนสั้นๆ 10 นาที อาจจะลุกมายืดเส้นยืดสาย พักสายตา ดื่มกาแฟ หรือกินของว่างเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย ซึ่งการพักผ่อนเหล่านี้ก็ล้วนส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายได้ทั้งสิ้น ดังนั้นจึงควรบอกตัวเองเสมอว่า การทำงานจะเกิดผลและมีประสิทธิภาพมากขึ้นเสมอ หากสมองและร่างกายพร้อม ซึ่งความพร้อมของสมองและร่างกายก็ล้วนมาจากการได้พักผ่อนหลังจากถูกใช้งานนั่นเอง
7.จัดเตรียมอาหารที่ช่วยเพิ่มพลังสมอง
อย่างที่คนทำงานทราบดีว่า งานจะเดินได้ต้องอาศัยร่างกายและสมองที่พร้อม ซึ่งหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้สมองและร่างกายพร้อมก็คือ อาหารที่มีประโยชน์ ดังนั้นจึงต้องหมั่นเตรียมอาหารให้ตัวเองในทุกวัน ไม่ว่าจะทำกินเอง หรือซื้อมากินก็ตาม จำเป็นที่จะต้องเตรียมอาหารที่มีส่วนช่วยเพิ่มพลังให้กับสมอง โดยเฉพาะอาหารประเภทที่ช่วยปลุกความสดชื่นได้บ่อยๆ อย่างผลไม้หลากชนิด เครื่องดื่มที่สดชื่น หรือแม้แต่ช็อกโกแลตที่ช่วยเติมความสุขก็ไม่ควรพลาด ยังไงช่วงที่กำลังเคลียร์งานอย่าลืมเตรียมอาหารที่ช่วยเพิ่มพลังสมองติดโต๊ะทำงานไว้ด้วยนะคะ
8.พักผ่อนให้เพียงพอ
ไม่ว่างานที่ต้องเคลียร์จะกองโตแค่ไหนก็ตาม สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกก็คือ สุขภาพร่างกาย อย่าลืมว่าเราเคลียร์งานก็เพื่อให้ตัวเองได้ใช้เวลาในช่วงวันหยุดยาวได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องงานใดๆ ทั้งสิ้น แต่หากร่างกายกลับล้มป่วยเพราะทุ่มเทไปกับการเคลียร์งานจนไม่มีเวลาพักผ่อน วันหยุดยาวก็อาจกลายเป็นวันที่ต้องไปนอนพักที่โรงพยาบาลแทนก็ได้ ดังนั้นจึงต้องเน้นย้ำตัวเองเสมอว่า นอกจากจะใช้กฎทำงาน 50 นาที พัก 10 นาทีแล้ว ควรพักผ่อนในตอนกลางคืนให้เต็มที่ เป็นไปได้ควรเข้านอนแต่หัวค่ำ และพยายามหลับยาวต่อเนื่องให้ครบ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายมีความพร้อมกับการทำงานในช่วงนี้ได้มากขึ้น
9.ออกกำลังกาย
นอกจากจะต้องให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ในช่วงที่กำลังเคลียร์งานก่อนวันหยุดยาวแล้ว ก็ต้องให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายในทุกวันเช่นกัน หลายคนมักจะละเลยการออกกำลังกายเป็นสิ่งแรกทันที เมื่อจะต้องอยู่กับการทำงานโดยเร่งกับเวลา ซึ่งการไม่ออกกำลังกายในช่วงที่ร่างกายหักโหมไปกับการทำงานหลายชั่วโมงติดต่อกันหลายวัน จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้ร่างกายป่วยง่ายยิ่งขึ้น ให้ตัดความคิดที่ว่าการออกกำลังกายจะทำให้เสียเวลาทำงานไปเลย เพราะการออกกำลังกายใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที แต่สามารถทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญพลังงาน ส่งผลดีต่อระบบการทำงานภายใน อีกทั้งการออกกำลังกายยังช่วยให้หลับง่าย จึงเหมาะสำหรับใครก็ตามที่ต้องการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
10.ตั้งค่าอีเมล์ให้ตอบกลับอัตโนมัติ
หากสงสัยว่าการตั้งค่าอีเมล์ให้ตอบกลับอัตโนมัติสำคัญต่อการหยุดยาวแค่ไหน บอกเลยว่าอย่างน้อยก็ช่วยให้คนอื่นๆ ได้รู้ว่าคุณกำลังอยู่ในช่วงของการพักผ่อนหรือหยุดยาวนั่นเอง ซึ่งอาจทำให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าคุณไม่สะดวกต่อการตอบกลับหรือส่งงานใดๆ กลับไปในช่วงนี้ เว้นเสียจากว่างานชิ้นนั้นจะสำคัญมากๆ และหากไม่ได้ดำเนินการ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อองค์กร ถ้าสำคัญมากๆ ก็คงจะมีการโทรหาเป็นการส่วนตัวแทน
นอกจาก 10 เทคนิค เคลียร์งาน หลังหยุดยาวที่เราได้เอามาแชร์ให้ทุกคนได้ลองนำไปปรับใช้กับการเคลียร์งานในช่วงนี้ ยังมีอีกหลากหลายเทคนิคเลยทีเดียวที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถเคลียร์งานในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงวันหยุดยาวได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการทำสมาธิก่อนเริ่มงาน การเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่ทำงาน การทำทุกอย่างให้เป็นกิจวัตร การบล็อกเวลาให้กับการทำงานแต่ละชิ้น หรือการตั้งเป้าหมายไว้ทันทีว่าหลังเลิกงานจะไปที่ไหน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นตัวช่วยที่จะทำให้เราสามารถเคลียร์งานได้อย่างราบรื่น และพร้อมที่จะใช้ช่วงเวลาพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวนี้ได้อย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องงานแต่อย่างใดนั่นเอง