Article by Propholic
ในการทำงานอาชีพนักเขียนรีวิวคอนโด มีบ่อยครั้งที่ต้องคอยตอบคำถามกับบรรดาผู้ที่สนใจซื้อคอนโดประมาณว่า ไปเจอคอนโด xxx นี้มาที่ย่านนี้ราคาถูกมาก เจ้าอื่นขายกันตรม.ละแสนกว่า ที่นี่อยู่ห่างไปนิดเดียว แต่ขายแค่ตรม.ละ 6 หมื่น ได้ห้องใหญ่กว่าตั้งเยอะ..แบบนี้ควรซื้อตัวนี้ดีกว่า ตัวนั้นไหม?
คำตอบที่ได้ตอบกลับไปเป็นอย่างแรกก็คือ ควรจะพิจารณาจากแบรนด์ด้วยนะ ถ้าเป็นกรณีที่ไม่รู้จักโครงการมาก่อน อย่างแรกก็มักจะสอบถามถึงชื่อเสียงของผู้ประกอบการ (developer) ว่าเค้าคือใคร ทำอะไรมาก่อน ทำที่นี่เป็นเจ้าแรกหรือไม่ หากเป็นอะไรที่ No Name ไม่มี Port Folio ทำโครงการอะไรเลย คำตอบเดียวที่จะแนะนำก็คือ งั้นคุณยังไม่ต้องซื้อหรอก รอโครงการสร้างเสร็จให้ชัวร์ๆ พร้อมเข้าอยู่ได้ สักพักแล้วค่อยเข้าไปดู และสอบถาม Feedback จากผู้อยู่อาศัยก็ยังทันเพราะของถูกมันก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีคุณภาพเท่าเทียมกับของแพงเสมอไป และส่วนใหญ่แล้วบรรดาหน้าใหม่ทั้งหลายก็มักที่จะเล่นกลยุทธ์ทางด้านราคาเพื่อเป็นการดันยอดขายในการขอกู้แบงค์พัฒนาโครงการ ซึ่งหากยอดมาไม่ถึงเป้าก็อาจจะพับโครงการไม่สร้างเลยก็มี ซึ่งก็เป็นปัญหาที่มีให้เห็นกันบ่อยครั้ง
การซื้อคอนโดแบรนด์ดัง และยิ่งโดยเฉพาะที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นสิ่งที่ค่อนข้างจำเป็นสำหรับผู้ที่มองหาชีวิตที่ราบรื่นมากกว่าในอนาคต ไม่ว่าจะเพื่ออยู่เองหรือลงทุนครับ ซึ่งข้อดีที่ได้รับจากการซื้อคอนโดจากผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงก็ได้แก่
1. ซื้อง่ายขายคล่อง – คอนโดแบรนด์ดังมักมีงบประมาณก้อนใหญ่ในการทำการตลาด ซึ่งสิ่งนี้สำคัญมากในการซื้อลงทุน เนื่องจากจะช่วยสร้าง Awareness & recognition ให้กับกลุ่มลูกค้าในวงกว้างได้
2. มีความน่าเชื่อถือที่มากกว่า – บริษัทเกือบทั้งหมดที่อยู่ในตลาด เวลาที่จะตัดสินใจสร้างโครงการอะไร แล้วเกิด accident ที่ทำให้ต้องพับโครงการไปเลย มักจะไม่ค่อยมีครับ จะมีก็แค่เปลี่ยนแปลงรูปแบบโครงการ เพราะมันต้องผ่านการพิจารณาจากหลายขั้นตอน การทำอะไรที่เป็นความเสี่ยงต่อผู้ถือหุ้นก็ต้องพยายามหลีกเลี่ยง ไม่เหมือนกับบริษัทท้องถิ่น หรือต่างชาติ ที่นึกอยากจะเลิกก็เลิก หนีไปเลยหลังขายช่วงพรีเซลก็มีให้เห็นกันอยู่ตามข่าว
3. โอกาสที่ราคารีเซลจะพุ่งสูงขึ้นมีมาก – ผู้ประกอบการบางรายมีจุดขายที่การบริการหลังการขาย รวมถึงงานด้านนิติบุคคลครับ บางเจ้ามีระบบคะแนนสะสมจากการแนะนำคนมาซื้อ หลังนึงได้หลายหมื่นเลยนะ และในขณะที่บางเจ้าบริหารงานนิติดีมาก จนคอนโดผ่านไปเป็น 10 ปียังโทรม สร้างความประทับใจให้กับผู้อยู่อาศัย และผู้มาเยี่ยมเยือนจนทำให้ราคาขายในอนาคตดีดตัวสูงขึ้นกว่าโครงการใกล้เคียงอื่นๆ
4. มีหน่วยงานในการฝากขาย-เช่าจัดการให้ – บางคนขี้เกียจไปโพสขาย-เช่าในเนต แถมยังต้องเหนื่อยกับการนัดลูกค้าเปิดห้องโดยที่ไม่รู้ว่ามี Potential มากแค่ไหน บางทีเป็น 10 ปิดไม่ได้เลย หน่วยงานรีเซลนั้นเป็นหน่วยงานที่ทุกดีเวลลอปเปอร์ใหญ่จะต้องมีเพื่อสร้าง Product Involvement ให้เกิดขึ้นครับ กล่าวคือถ้าขายต่อได้ คุณก็จะสามารถเอาเงินไปซื้อโครงการใหม่ของเค้าได้อีกต่อนึงไปเรื่อยๆ ตลอดทั้งชีวิตครับ โดยที่คุณแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย แค่แบ่งค่านายหน้านิดหน่อยให้เค้าเมื่อปิดได้ เผลอๆ การฝากขายห้องรีเซลก้จะได้โปรโมชั่นพ่วงให้กับลูกค้า เช่น ฟรีโอน ฯลฯ สร้างแต้มต่อให้กับห้องของคุณได้อีกด้วยครับ
ติดตามบทความอัพเดตสำหรับชาว GEN-C ได้ทุกเดือนทาง THE GEN-C Urban Living Solution Blog #Anandaurbancash
สมัครสมาชิกเพื่อติดตามและรับข่าวสารหรือร่วมกิจกรรมดีๆกับเราทาง THE GEN-C Urban Living Solution Blog ได้ที่ http://bit.ly/2aEMxIJ