10 วิธีเตรียมตัวยังไงให้กู้ผ่าน ถูกใจธนาคาร ทำตามรับรองได้บ้านแน่นอน

เตรียมตัวยังไงให้กู้ผ่าน ถ้ายังไม่รู้ มาดูได้เลย มีคำตอบให้

หนึ่งในเรื่องที่คนกำลังอยากสร้างบ้าน หรือซื้อบ้านโครงการควรรู้ คือ เตรียมตัวยังไงให้กู้ผ่าน เพราะถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่จะเป็นตัวช่วยทำให้คุณได้จัดเตรียมทั้งเครดิตและเอกสารต่าง ๆ เพื่อทำให้ตรงต่อหลักเกณฑ์ในการอนุมัติ สินเชื่อ พร้อมทำให้มั่นใจต่อการยื่นกู้กับธนาคารชั้นนำของไทย ที่จะทำให้คุณได้วงเงินอนุมัติแบบเต็ม ๆ โดยไม่ต้องออกเองเลยแม้แต่บาทเดียว พร้อมการได้ดอกเบี้ยที่เหมาะสม และอาจจะพ่วงมาด้วยโปรโมชั่นพิเศษต่าง ๆ ที่ทางธนาคารจะมอบให้กับผู้ยื่นกู้ซื้อบ้านอีกด้วย

10 วิธีขอสินเชื่อให้ผ่าน ด้วยเทคนิคเตรียมความพร้อมให้ตัวเอง เพื่อเพิ่มความมั่นใจ

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสนใจจะกู้ซื้อบ้านครั้งแรก แนะนำให้คุณเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อการซื้อบ้านได้อย่างตอบโจทย์ ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องของการเลือกบ้านที่เดินทางสะดวก อยู่สบาย ตรงต่อไลฟ์สไตล์ของคุณแล้ว เรื่องสำคัญที่สุดอีกหนึ่งเรื่องที่คุณไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด คือ ขั้นตอนการกู้ซื้อบ้าน หรือการขอสินเชื่อซื้อบ้านกับทางธนาคาร เพราะถือเป็นการกู้แบบระยะยาวที่จะต้องใช้เวลาผ่อนชำระยาวนาน ตั้งแต่ 20-30 ปีขึ้นไป ถ้าคุณต้องการกู้ซื้อ จึงควรต้องตัดสินใจให้ดี  เริ่มต้นเรียนรู้ตั้งแต่สินเชื่อของแต่ละธนาคารที่คุณสนใจ แต่ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไร ขอแนะนำ 10 วิธีการขอสินเชื่อและเตรียมตัวยังไงให้กู้ผ่าน ดังนี้ 

1.การทำประวัติการเงินที่ดี เพื่อรักษาเครดิต

เรื่องสำคัญที่สุดถ้าคุณต้องการยื่นกู้ธนาคารเพื่อซื้อบ้าน คือ การสร้างประวัติทางการเงินของคุณให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำ คนทำงานฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของกิจการ วิธีการเดินบัญชีให้มีเงินเข้าอย่างสม่ำเสมอ และมีเงินเก็บทุกเดือน  จะเป็นตัวเลือกที่ดีของธนาคาร เตรียมตัวยังไงให้กู้ผ่าน อย่างน้อยควรจะต้องมีเงินเก็บในบัญชีประมาณ 500 บาท หรือถ้าจะให้ดีควรเป็น 1,000 บาทขึ้นไป แล้วสร้างบัญชีลักษณะนี้ประมาณ 6-12 เดือน ก่อนการยื่นกู้ จะทำให้ดูน่าสนใจมากขึ้น  สำหรับผู้ที่เป็นพนักงานประจำแต่ไม่ได้มีสลิปเงินเดือน ควรนำเงินสดที่เป็นรายได้ เข้าสู่บัญชีอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกเดือน

2.เตรียมพร้อมเรื่องเงินเก็บ 

เตรียมความพร้อมกู้เงินธนาคารในเรื่องของการเก็บเงิน เมื่อคุณต้องการใช้เงิน ไม่ควรถอนออกมาหมดทั้งบัญชี แต่ควรเหลือคงค้างไว้ภายในบัญชีประมาณ 10% ของเงินเดือนหรือรายได้ แต่ถ้าต้องการให้มั่นใจ แนะนำให้เก็บไว้ในจำนวน 10% ของราคาบ้านหรือคอนโดที่คุณต้องการซื้อ จะช่วยทำให้ธนาคารสนใจการเดินบัญชีของคุณมากขึ้น และยังเป็นตัวช่วยเพิ่มเติมวงเงิน ถ้าการอนุมัติของธนาคารได้แบบไม่เต็มวงเงิน คุณจะมีเงินในส่วน 10% นี้ที่สะสมไว้ สำหรับค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์

3.จัดการปัญหาหนี้ให้มากที่สุด 

เมื่อรู้ว่าจะกู้ธนาคารซื้อบ้าน สิ่งที่คุณควรทำมากที่สุด คือ จัดการต่อปัญหาหนี้สินที่คุณมีอยู่ทั้งหมด ถ้าเป็นหนี้ที่ใกล้หมดแล้ว ควรรีบโปะเงินให้จบ เพราะการซื้อบ้านหรือคอนโด จะต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการผ่อนชำระ ถ้าคุณไม่มีหนี้สินอื่นมาเกี่ยวข้อง จะทำให้การผ่อนสบายใจมากขึ้น แต่ถ้าเป็นหนี้ระยะยาวอย่างรถยนต์ หรือสนเชื่อใด ๆ ควรปรับให้เหลือน้อยที่สุด และจ่ายอย่างตรงเวลา เพื่อไม่ให้ติดแบล็คลิสบนเครดิตบูโร

4.การจ่ายเงินผ่านบัญชีต้องตรงเวลาเสมอ 

ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่คุณต้องใช้วิธีการตัดจ่ายผ่านบัญชี หรือต้องโอนจ่าย จำเป็นอย่างมากที่คุณจะต้องจ่ายอย่างตรงเวลาเท่านั้น หรือจ่ายก่อนเวลาได้ แต่ห้ามค้างชำระ เพราะในส่วนนี้จะไปขึ้นภายในเครดิตบูโรของคุณ ที่จะถูกส่งจากสถาบันการเงิน เมื่อต้องพิจารณาซื้อบ้าน ทางธนาคารอาจใช้ประวัติในส่วนนี้ มาเป็นจุดตัดสินที่จะทำให้คุณไม่ได้รับการอนุมัติได้

5.เริ่มประเมินความสามารถการผ่อนชำระ 

ไม่ว่าจะซื้อบ้านหรือคอนโด สิ่งสำคัญอีกเรื่องที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด คือ คุณควรจะต้องประเมินรายได้ที่คุณมีอยู่ โดยนำเงินเดือนประจำ รายได้จากการเป็นฟรีแลนซ์ รายได้จากงานเสริม และรายได้อื่น ๆ มารวมกัน และประเมินดูว่าบ้านหรือห้องคอนโดที่คุณจะซื้อ มีราคาเท่าไหร่? แล้วนำมาคำนวณให้ดี โดยให้ความสามารถในการผ่อนอยู่ที่ 40% ของรายได้ที่คุณรับต่อเดือน เช่น ถ้าคุณมีเงินเดือนอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท แบบไม่มีรายได้อื่น ๆ เข้ามา เมื่อคิดเป็น 40% จะอยู่ที่ประมาณ 6,000 บาทต่อเดือน วงเงินการกู้โดยประมาณจะอยู่ที่ 9 แสนบาท เป็นต้น ซึ่งคุณสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ ไปใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อที่อยู่อาศัยได้อย่างเหมาะสม และไม่ต้องกังวลปัญหาการผ่อนชำระแบบเกินตัวในอนาคตอีกด้วย

6.ไม่สร้างภาระหนี้เพิ่ม 

เมื่อรู้ว่าต้องการ กู้ เงิน ซื้อ บ้าน อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่คุณห้ามพลาดหรือลืมเด็ดขาด คือ การไม่สร้างภาระหนี้สินใด ๆ เพิ่ม ก่อนที่จะไปยื่นกู้เด็ดขาด โดยเฉพาะหนี้สินที่จะต้องจ่ายในระยะยาว ตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป เพราะอาจจะกลายมาเป็นหนึ่งในการประเมินของทางธนาคาร ที่เมื่อนำรายได้ของคุณมาจัดสรรปันส่วนแล้ว อาจจะทำให้โอกาสของการผ่อนชำระบ้านน้อยลง จึงมีส่วนที่จะทำให้คุณกู้ไม่ผ่านหรือได้วงเงินน้อยมาก

7.จัดเตรียมเอกสารให้พร้อม

เรื่องของเอกสารก็สำคัญไม่น้อย นอกเหนือจากการต้องเดินบัญชีอย่างสวยงาม ประมาณ 3-6 เดือนขึ้นไปแล้ว ยังมีเอกสารในด้านอื่น ๆ ที่คุณจะต้องเตรียมความพร้อมไม่แพ้กัน โดยเอกสารที่คุณควรเตรียมไว้ก่อนการยื่นกู้ คือ 

  • บัตรประชาชนพร้อมสำเนา 
  • ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา
  • ถ้ามีการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ควรเตรียมสำเนามาด้วย 
  • เอกสารของคู่สมรส และใบทะเบียนสมรส 
  • ถ้าเป็นเจ้าของกิจการควรมีหนังสือ หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกิจการ ในด้านรายได้ทั้งหมด 
  • เอกสารทางด้านเงินเดือน เช่น สลิปหนังสือ หรือหนังสือรับรองรายได้ 
  • รายการเดินบัญชี ประมาณ 3-6 เดือน

8.จัดการรายจ่ายไม่จำเป็น

เมื่อคุณทำการประเมินรายได้ พร้อมจัดการหนี้สินต่าง ๆ แล้ว เรื่องต่อมาคือจัดการกับรายจ่ายของตัวคุณ และภายในครอบครัว ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปให้หมด แต่ให้ประเมินดูว่าส่วนไหนลดได้จริง หรือไม่ใช้แล้วจะไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อตัวคุณ เช่น การออกไปสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนทุกสัปดาห์ ถ้าลดลงแล้วจะมีเงินเก็บเพิ่มก็ควรทำ เพราะต้องเข้าใจว่าการจ่ายค่าบ้านหรือคอนโดของคุณจากนี้ไป จะเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก นอกจากนี้ ยังต้องมีความพร้อมของแผนสำรองทั้งเรื่องค่าซ่อมแซมบ้านแบบกะทันหัน หรือเป็นค่ารักษาพยาบาลตัวคุณเอง ที่อาจจะเกิดจากอุบัติเหตุและโรคต่าง ๆ ที่ทำให้คุณไม่สามารถสร้างรายได้ ดังนั้นถ้ามีรายจ่ายใด ๆ ที่คิดว่าไม่จำเป็น ตัดได้ควรตัดทันที!

9.เลือกธนาคารให้เหมาะต่อความต้องการ

อีกหนึ่งเรื่องที่คุณไม่ควรมองข้าม เมื่อต้องการเตรียมตัวยังไงให้กู้ผ่าน คือ การเลือกธนาคารให้เหมาะสมต่อความต้องการของคุณเอง โดยให้ประเมินจากดอกเบี้ยของธนาคารนั้น ๆ ตรงใจแค่ไหน พร้อมการตรวจสอบเรื่องของวงเงิน ระยะเวลาของการผ่อนชำระ และโปรโมชั่นที่ทางธนาคารจะมอบให้ น่าสนใจมากน้อยแค่ไหน โดยวงเงินที่ธนาคารจะอนุมัติควรอยู่ที่ประมาณ 95-100% ของราคาประเมิน สำหรับ ระยะเวลาการผ่อนชำระ จะขึ้นอยู่กับอายุของผู้ยื่นกู้ เรื่องเหล่านี้จะทำให้คุณสามารถเลือกธนาคารที่เหมาะสมกับตัวคุณได้มากที่สุด แค่ต้องประเมินให้ดี

10.เริ่มฝึกวินัยการเงิน

วินัยทางการเงินไม่ได้มีดีแค่กับผู้ที่ต้องการเก็บเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของผู้ที่กำลังทำเรื่องยื่นกู้ซื้อบ้านหรือคอนโด เพราะถ้าคุณไม่มีในส่วนนี้ การผ่อนชำระบ้านหรือห้องคอนโดของคุณอาจเกิดปัญหาได้ เนื่องมาจากการผ่อนชำระจะมีระยะเวลายาวนาน ถ้าคุณจัดระเบียบและมีวินัยทางการเงินที่ดีไปตลอด รวมไปถึงการมีแผนสำรอง ด้วยการมีเงินเก็บร่วมไปด้วย หรือการลงทุนทางการเงินไปพร้อมกัน จะเป็นแผนสำรองที่ช่วยให้คุณไม่ต้องเสี่ยงต่อความไม่คล่องตัวของการใช้จ่ายในอนาคต

เตรียมตัวยังไงให้กู้ผ่าน ด้วยการเตรียมความพร้อมทุกด้านให้ดี เพื่อลดปัญหาระยะยาว

ถ้าต้องการยื่นกู้ธนาคารให้ผ่าน เตรียมตัวยังไงให้กู้ผ่าน แนะนำการเตรียมความพร้อมทั้ง 10 ข้อที่ได้แนะนำไว้ และที่สำคัญที่สุด คือ การเตรียมเอกสารให้สมบูรณ์แบบ ซึ่งถ้าคุณไม่มั่นใจ สามารถสอบถามทางเจ้าหน้าที่ธนาคาร ที่ทำเรื่องในการยื่นกู้ให้กับคุณ เพื่อการเตรียมเอกสารต่าง ๆ ได้อย่างดีที่สุด นอกจากนี้ การสร้างเครดิตที่ดีให้กับตัวเอง ยังถือเป็นเรื่องสำคัญมาก และการอนุมัติควรสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก เพราะถ้ามีครั้งต่อไป อาจกลายเป็นเรื่องยากในการขอยื่นกู้ครั้งที่ 2 หรือครั้งที่ 3 นั่นเอง

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top