เตรียมบ้านให้พร้อมก่อนซื้อรถ EV

เทคโนโลยีรถพลังงานไฟฟ้าหรือ Electric Vehicle (EV) กลายเป็นเรื่องที่หลายคนกำลังให้ความสนใจอย่างมาก เพราะเป็นตัวเลือกที่ดีในสถานการณ์น้ำมันแพง แถมยังได้รับการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐทำให้ราคารถถูกลงมากอีกด้วย แต่ข้อกังวลใหญ่ที่สุดของคนที่กำลังจะออกรถ EV ก็คือ การหาจุดจ่ายพลังงานหรือสถานีชาร์จไฟ ซึ่งบางทีแถวบ้านก็ยังไม่มีให้บริการ แถมการชาร์จแต่ละครั้งก็ใช้เวลาพอสมควรด้วย ฉะนั้นแล้วเรามาติดตั้ง Charger ไว้ที่บ้านดีกว่า เพราะกลางคืนกลับมาจะได้เสียบสายไว้ ตอนเช้าก็พร้อมขับได้เลย

การจะเตรียมบ้านสำหรับติดตั้ง EV Charger นั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องพิจารณาดูองค์ประกอบต่างๆ ของบ้านเราให้ดี เริ่มจากจุดที่สำคัญที่สุดคือมิเตอร์ไฟฟ้า บ้านอยู่อาศัยทั่วไป ใช้มิเตอร์ไฟฟ้าประเภท Single-Phase ขนาด 5(15)A แต่ข่าวร้ายคือขนาดและความสามารถในการจจ่ายไฟฟ้าสูงสุดต่อเนื่องเทียงเท่านี้จะไม่เพียงพอต่อการชาร์จรถยนต์ เราไม่ต้องถึงขนาดเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าเป็นแบบ 3 เฟสที่จ่ายไฟให้โรงงานอุตสาหกรรม แค่เปลี่ยนขนาดมิเตอร์ 1 เฟสเป็นแบบ 30(100)A ก็ใช้ได้แล้ว

ไม่ใช่แค่มิเตอร์ที่ต้องจ่ายไฟได้พอเท่านั้น ระบบสายไฟทั้งหมดก็ต้องรองรับด้วย โดยสานเมนเข้าอาคารต้องเป็นขนาด 25 ตร.มม. พร้อมกับเปลี่ยนเบรกเกอร์ให้มีขนาดไม่เกิน 100 แอมป์ด้วย เพราะหากระบบไม่สัมพันธ์กันอาจจะเกิดปัญหาในการใช้งานนและความปลอดภัยได้ อีกอย่างหนึ่งที่ลืมไม่ได้คือ เราต้องหาที่ติดตั้ง Main Distribution Board (MDB) หรือตู้ควบคุมไฟฟ้า เพราะการชาร์จไฟรถจะต้องแยกวงจรกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ถ้าตู้หลักไม่มีที่ว่างแล้ว เราต้องติดตั้งจุดควบคุมย่อยเพิ่ม ทั้งนี้การเดินสายและติดตั้งสิ่งต่างๆ ต้องเป็นไปตามมาตรฐานของการไฟฟ้า

อีกเรื่องหนึ่งที่เราต้องให้ความสำคัญคือ อุปกรณ์ป้องกันไฟรั่วนั่นเอง หากว่าเกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือฟ้าผ่าลงมาเราก็จะได้เอาตัวรอดได้ทัน ฉะนั้นเราควรตรวจดูว่า EV Charger ที่เราจะติดตั้งมีระบบตัดไฟรั่วมาในตัวแล้วหรือเปล่า ถ้าไม่มีละก็อย่าลังเลที่จะติดตั้ง RCD (Residual Current Devices) ไว้เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน โดยความสามรถของมันต้องมีพิกัดขนาดกระแสไฟรั่วไม่เกิน 30 mA และตัดไฟใน 0.04 วินาที ส่วนสุดท้ายของระบบความปลอดภัยคือ สายดินที่ต่ออย่างถูกต้องและได้มาตรฐานนั่นเอง

เมื่อเราจัดการระบบไฟเรียบร้อยและได้มาตรฐานแล้ว ก็ถึงเวลาติดตั้ง EV Charger โดยให้เราเลือกรุ่นที่สัมพันธ์กับขนาดรถยนต์และระบบไฟฟ้าที่บ้านเรา แนะนำว่าควรเลือกขนาดที่มากกว่าตัว On Board Charge ในรถ แต่ก็ไม่ควรใหญ่เกินไปเพราะจะสิ้นเปลืองและใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ ข้อสำคัญคือเราควรมีพื้นที่ใกล้กับจุดจอดรถ หรือห่างไม่เกิน 5 เมตร ทั้งนี้ควรจะไม่ไกลเกินจากควบคุมไฟฟ้าด้วย เพราะยิ่งไกลก็จะต้องยิ่งเดินสายไฟยาวขึ้น และสุดท้ายจุดขาร์จที่ดีที่สุดคือ บริเวณที่มีหลังคาปกคลุม เพราะแดดและฝนจะทำความเสียหายให้กับเครื่องชาร์จของเราได้นั่นเอง

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top