เทคนิคดูแลเส้นผม และอาการคันศรีษะ

เพื่อน ๆ เคยสงสัยกันมั้ยว่า ทำไมบางคนมีอาการคันหัวบ่อย หรือบางคนผ่านเวลาไม่ถึงวันหนังศรีษะกลับชุ่มด้วยเหงื่อนและความมันจนส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา ลดทอนความมั่นใจของตัวเราได้ ดังนั้นเรามาเริ่มจากเรียนรู้สาเหตุ แนวทางเช็ก รวมไปถึงการแก้ปัญหาอาการคันศรีษะไปพร้อม ๆ กันได้เลย

เพื่อน ๆ รู้หรือไม่? ‘หนังศีรษะ’ เป็นพื้นที่ในร่างกายที่มีต่อมเหงื่อมากสุดเป็นอันดับ 3 รองจากฝ่าเท้าและฝ่ามือเลยก็ว่าได้ และการที่เหงื่อจะออกในบริเวณหนังศรีษะนอกจากเรื่องของอากาศและอถณหภูมิแล้ว ยังมีปัจจัยภายในอย่างอารมรณ์ ความเครียด และฮอร์โมนเกี่ยวข้องด้วย นั่นหมายถึงโอกาสที่เหงื่อจะออกบริเวณหนังศรีษะมีแทบจะทั้งวัน และเมื่อเหงื่อสะสมปนกับน้ำมันธรรมชาติที่หนังศีรษะสร้างขึ้น จึงกลายเป็นแหล่งอาหารของแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์และอาการคันได้ หากไม่ได้รับการดูแลและทำความสะอาดอย่างเหมาะสม เหงื่อและน้ำมันอาจส่งผลต่อความสมดุลของหนังศีรษะ ทำให้เกิดการระคายเคืองและการสะสมของเชื้อโรคต่าง ๆ ได้เช่นกัน

เช็กกลิ่นศีรษะทำได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีเหล่านี้:

  • ใช้หลังมือสัมผัสกับหนังศีรษะในบริเวณที่มีเหงื่อออกมากที่สุด เช่น ด้านหลังหูหรือท้ายทอย แล้วดมหลังมือ หากมีกลิ่นอับหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์แสดงว่าหนังศีรษะเริ่มมีกลิ่นแล้ว
  • ลองใช้ผ้าขนหนูสะอาดถูเบา ๆ บนศีรษะแล้วดมกลิ่นผ้า หากมีกลิ่นเปรี้ยวหรือกลิ่นเหงื่อ แสดงว่าควรรีบทำความสะอาดหนังศีรษะทันที
  • หลังจากสระผมไปแล้วสองถึงสามวัน ลองใช้หวีหวีที่บริเวณโคนผมแล้วดมกลิ่นที่ติดบนหวี หากมีกลิ่นแปลก ๆ แสดงว่ามีการสะสมของเหงื่อหรือน้ำมันที่ต้องการการล้างออก

และเมื่อเช็กแล้วพบว่า เส้นผม หรือ หนังศรีษะ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์หรืออาการคัน ลองมาดูวิธีการรับมือว่าจะสระผมอย่างไร ดูแลเส้นผมยังไงให้ไม่คัน ไม่เหม็น

  • สระผมให้สะอาด: เริ่มจากเลือกใช้แชมพูที่เหมาะกับสภาพหนังศีรษะของเพื่อน ๆ เน้นการทำความสะอาดบริเวณโคนผม ซึ่งเป็นจุดที่เหงื่อและน้ำมันสะสมมากที่สุด ที่สำคัญอย่าลืมนวดหนังศีรษะเบา ๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและขจัดสิ่งสกปรกออกด้วยเช่นกัน
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีซิลิโคนมากเกินไป: ผลิตภัณฑ์ที่มีซิลิโคนอาจช่วยให้ผมนุ่มลื่นชั่วคราวได้ แต่ถ้าใช้มากเกินไปจะสะสมบนเส้นผมและหนังศีรษะ ทำให้เกิดความมันและอาการคัน
  • เช็ดและเป่าผมให้แห้งทันทีหลังสระ: การปล่อยให้หนังศีรษะเปียกหรือชื้นเกินไปอาจทำให้เกิดเชื้อราหรือแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นเหม็นและอาการคัน
  • เปลี่ยนปลอกหมอนบ่อย ๆ: ปลอกหมอนเป็นแหล่งสะสมของเหงื่อ น้ำมัน และฝุ่นละออง ควรซักปลอกหมอนเป็นประจำ เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกที่จะทำให้หนังศีรษะมันและมีกลิ่น

การดูแลหนังศีรษะและเส้นผมอย่างถูกต้องจะช่วยป้องกันปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์และอาการคันที่อาจเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี

 

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top