เครื่องดื่มชาเย็น ชาไทย หรือชาส้ม จะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่ถนัด ถือเป็นเครื่องดื่มตัวตึงแก้วโปรดของใครหลายๆคน เพราะความหอมมันเป็นเอกลักษณ์จนใครๆก็ขาดไม่ได้ ทำให้เป็นเครื่องดื่มยอดฮิตไม่เสื่อมคลายจนกลายเป็นน้ำชงยอดนิยมที่ติดอันดับท็อป 10 ของโลกแล้ว ยิ่งตอนนี้เทรนด์ชาเย็นก็ดีดตัวกลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง มีร้านชาเย็นเกิดใหม่ ไถฟีดไปก็เห็นใครๆต่างก็รีวิวบนโลกโซเชียล ยั่วยวนชวนให้ต้องหาลองเหลือเกิน ถ้าคุณเป็นคนนึงที่เข้าวงการชาเย็นแล้วออกไม่ได้ วันนี้อนันดามีวิธีลดละชาเย็นมาฝากกัน
จริงๆแล้วถ้าเราดื่มชาเย็นแต่พอดีก็จะมีประโยชน์ เพราะชาเย็นมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระและมีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร แต่อย่าลืมว่าในส่วนประกอบของชาเย็นที่ช่วยเพิ่มอรรถรสให้แก้วโปรดของเรานั้น อาจเกิดโทษต่อร่างกายอีกด้วย
- น้ำตาล / นมข้นหวาน ส่วนผสมสำคัญที่ทำให้ชาเย็นหวานฉ่ำ แต่เกิดโทษได้เพราะการบริโภคน้ำตาลเกินความจำเป็นต่อร่างกายจะทำให้เกิดการอักเสบ และเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน
- ครีมเทียม บางร้านอาจลดต้นทุน โดยเพิ่มความหอมมันด้วยการใช้ครีมเทียม แต่ส่วนผสมนี้อุดมไปด้วยไขมันทรานส์ที่อาจก่อให้เกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือด และมีความเสี่ยงต่อการเกิดคอเลสเตอรอลสูง
- คาเฟอีน สารสกัดคาเฟอีนจากในตัวชาเองหากได้รับมากเกิน จะเกิดพิษได้ ส่งผลให้ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ หัวใจเต้นผิดจังหวะ เพราะสมองถูกกระตุ้นมากเกินไป
เมื่อเราทราบอันตรายจากการดื่มชาเย็นมากเกินไป ลองหาเครื่องดื่มทดแทนเพื่อลดละปริมาณการบริโภคชาเย็นลง เช่น
- น้ำเปล่า แน่นอนว่าร่างกายมีส่วนประกอบสำคัญคือ น้ำ การดื่มน้ำเยอะให้พอดีจะช่วยให้ระบบในร่างกายสมดุล น้ำเปล่ามีส่วนช่วยให้ลดความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือด ความดันโลหิตสูง และกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- น้ำผลไม้ หากใครที่ยังติดในรสชาติความหวาน หรือต้องการให้ร่างกายสดชื่น ลองเปลี่ยนจากชาเย็นเป็นน้ำผลไม้ดูก่อน เพราะในผลไม้อุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ ทั้งวิตามินและไฟเบอร์ และผลไม้บางชนิดยังช่วยเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายอีกด้วย
ด้วยเวลาที่เร่งรีบ กลัวว่าจะสายหรือไปทำงานไม่ทัน ทำให้เรามองข้ามมื้อเช้าไปและพอถึงออฟฟิศก็เผลอสั่งอะไรรองท้องแบบที่เคยชิน เช่น สั่งชาเย็นมาดื่มจนติดเป็นนิสัย และทำให้ขาดไม่ได้ทุกๆวัน
มาลองเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ จัดสรรเวลาในการทานมื้อเช้าง่ายๆ เช่น ขนมปัง ไข่ดาว หรือธัญพืชใส่นม เมนูเหล่านี้น่าจะมีประโยชน์มากกว่าแน่นอน เพราะหลังจากที่เราตื่นขึ้นมา ร่างกายที่อดอาหารมายาวนานตลอดทั้งคืนเมื่อได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ในมื้อแรกของวัน ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารและเติมพลังนำไปขับเคลื่อนใช้ชีวิต เป็นการส่งผลดีต่อสุขภาพ พอเมื่อรู้สึกอิ่มท้องร่างกายก็ไม่โหย ก็จะไม่อยากชาเย็นอีกต่อไป
หลายๆคนคงเป็นอาการนี้ กว่าจะได้ใช้เวลาส่วนตัวก็ค่ำมืดดึกดื่นแล้ว และยังมีซีรี่ย์หรือหนังที่ดูค้างติดลมอยู่ ก็อยากจะใช้เวลานี้เพื่อสร้างความบันเทิงให้ตัวเอง แต่เมื่อเปิดดูแล้วก็เกิดอาการติดพันดูต่อจนลืมเวลานอน ส่งผลให้เวลานอนไม่เพียงพอ จนตอนเช้าที่ต้องลุกจากเตียงจึงเกิดอาการอ่อนเปลี้ยเพลียแรง รู้สึกไม่เฟรช และสุดท้ายก็ต้องพึ่งคาเฟอีนในชาเย็น
ดังนั้น ทางที่ดีคือจัดสรรเวลานอนให้เต็มอิ่ม 6-8 ชั่วโมง ไม่ควรอดนอนหรือนอนน้อย เพราะเมื่อร่างกายเราตื่นมาด้วยความรู้สึกสดชื่น เราก็จะไม่ต้องการเติมคาเฟอีนเข้าร่างอีก และทำให้ทั้งวันมีประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างเต็มที่อีกด้วย