บทความนี้ขอเอาใจเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาไอเดียผ้าม่านคอนโด ติดตั้งผ้าม่านคอนโด หรืออยากเปลี่ยนผ้าม่านคอนโดให้ตอบโจทย์การใช้งานจริง โดยเราจะปูพื้นฐานเริ่มทำความเข้าใจกันตั้งแต่การพิจารณาเลือกผ้าม่านคอนโด เลือกเนื้อผ้า, สีสัน, ลวดลายของม่าน รวมไปถึงรูปแบบฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมาะสมกับความต้องการใช้งานจริง
และความแตกต่างของ ‘ม่าน’ แต่ละประเภท ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับฟังก์ชั่นและรูปแบบการดีไซน์นั่นเอง ขอยกตัวอย่างเป็นม่าน 5 ประเภทยอดนิยมในคอนโด
o ผ้าม่านแบบจีบ (Pleated Curtains) เป็นผ้าม่านที่ได้รับความนิยมในการตกแต่งคอนโดและบ้าน ลักษณะเด่นของผ้าม่านชนิดนี้จะมีการพับจีบบริเวณด้านบนของผ้าม่าน โดยจำนวนจีบมีทั้งแบบ 1 จีบ (Single Pleat), 2 จีบ (Double Pleat) และแบบมาตรฐานจะอยู่ที่ 3 จีบ (Triple Pleat) ซึ่งจะให้ลอนผ้าม่านที่สวยงาม มีให้เลือกเนื้อผ้าทั้งทึบแสง และโปร่งแสง
จุดเด่นของ ‘ผ้าม่านแบบจีบ’ อยู่ที่สไตล์คลาสสิก เสริมลุคหรูหราพรีเมียม เหมาะสำหรับห้องนอน-ห้องนั่งเล่นที่มีหน้าต่างบานใหญ่และสูง หรือห้องที่ต้องการความเรียบหรูโดยการซ่อนรางม่านไว้ใต้ฝ้านั่นเอง
o ผ้าม่านตาไก่ (Eyelet Curtains) ม่านตาไก่ เป็นม่านอีกรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน ลักษณะเด่นของผ้าม่านตาไก่ (Eyelet Curtains) จะอยู่ที่ห่วงกลมตาไก่ที่อยู่บริเวณด้านบนผ้าม่าน มีไว้สำหรับเข้าคู่กับรางประดับ เช่น รางลายไม้, รางไทเทเนียม หรือรางสแตนเลส นอกจากนี้ยังเพิ่มลูกเล่นให้ห่วงตาไก่มีสีสันเข้ากับห้องได้อีกด้วย
จุดเด่นของ ‘ผ้าม่านตาไก่’ อยู่ที่ความทันสมัย เข้ากับสไตล์บ้านได้หลากหลาย เมื่อนำผ้าม่านสอดเข้ารางม่านอย่างครบสมบูรณ์ จะเกิดเป็นลอนม่านที่สวยงามตามธรรมชาติโดยไม่ต้องจัดรูปทรง เหมาะสำหรับห้องนอน-ห้องนั่งเล่นที่มีหน้าต่างบานใหญ่และกว้าง หรือห้องที่ต้องการโชว์รางม่านหรือหัวม่านที่ปรับแต่งเข้ากับดีไซน์ของห้องในคอนโดได้
o ผ้าม่านพับ (Roman Blinds) เป็นรูปแบบม่านที่ได้รับความนิยมเช่นกัน ลักษณะเด่นจะเป็นม่านที่ใช้ระบบเชือกดึงเก็บผ้าม่านให้พับขึ้นไปทบกันด้านบน เป็นผ้าม่านสไตล์แบนเรียบ กินพื้นที่น้อย ทำให้บานหน้าต่างดูกว้างและโปร่งมากขึ้น
จุดเด่นของ ‘ผ้าม่านพับ’ อยู่ที่ความเรียบหรู เรียบง่าย เหมาะนำมาติดตั้งเข้ากับหน้าต่างบานเล็กๆ ในห้องนอน-ห้องนั่งเล่น หรือห้องพื้นที่แคบและต้องการทำให้ห้องดูกว้างด้วยม่านพับนั่นเอง
o มูลี่ (Blinds) เป็นอีกหนึ่งม่านชนิดบังสายตาที่ได้รับความนิยมในอดีตและกลับมาฮิตในปัจจุบัน ลักษณะเด่นของ มูลี่ (Blinds) จะออกแบบให้เป็นแผ่นซี่ที่ผลิตจากวัสดุหลากลาย ไม่ว่าจะเป็น ไม้ หรือ อลูมิเนียม นำมาถักด้วยเชือกเป็นช่องโปร่งแสง มีระบบเชือกสำหรับดึงเก็บให้มูลี่ปรับทิศทางหรือพับเก็บไปด้านบน
จุดเด่นของ ‘มูลี่’ อยู่ที่ดีไซน์ที่เรียบง่าย ดูมินิมอล สามารถนำไปติดตั้งได้ทุกโซนของห้อง หรือในมุมที่ไม่นิยมติดม่านอย่างเช่น ห้องน้ำ, ห้องครัว โดยเลือกใช้วัสดุที่ทนทานและทำความสะอาดง่ายไปติดตั้ง ปรับระดับบานรับแสงได้ตามช่วงเวลาที่ต้องการ และยังให้กลิ่นอายอบอุ่น ดูสบายตามากยิ่งขึ้น
o ผ้าม่านแบบม้วน (Roller blinds) มาถึงผ้าม่านอีกประเภทที่นิยมใช้กันในสำนักงาน ออฟฟิศ หรือส่วนกลางของคอนโด แต่ก็สามารถนำมาปรับใช้กับห้องนอน-ห้องนั่งเล่นของเราได้เช่นกัน ลักษณะเด่นของ ผ้าม่านแบบม้วน (Roller blinds) จะเป็นผ้าม่านผืนใหญ่ที่ใช้ระบบเชือกหรือระบบอัตโนมัติในการม้วนเก็บม่านเข้ารางอย่างเรียบร้อย
จุดเด่นของ ‘ผ้าม่านแบบม้วน’ อยู่ที่ดีไซน์ที่เรียบง่าย มีความทันสมัย เหมาะกับการนำมาติดตั้งในห้องนั่งเล่นกับหน้าต่างขนาดเล็กจนถึงใหญ่ และด้วยการจัดเก็บที่มิดชิดทำให้ม่านแบบม้วนไม่เก็บฝุ่น ทำความสะอาดง่าย รวมไปถึงใช้พื้นที่น้อยทำให้ห้องดูกว้างมาก
นอกจากเลือกชนิดของม่านที่นำมาตกแต่งแล้ว อย่าลืมวิธีการดูแลทำความสะอาด การรักษาคุณภาพผ้าม่านให้อยู่กับห้องเรานานๆ ซึ่งแน่นอนว่า บล็อก Ananda วันนี้เรามีทริคการดูแลรักษาผ้าม่านคอนโดมาฝากเพื่อนๆ อีกด้วย
- ในทุกๆ 2 – 4 สัปดาห์ เราควรดูดฝุ่นผ้าม่าน รอยพับของผ้าม่าน โดยเฉพาะผ้าม่านที่อยู่ใกล้กับหน้าต่างที่เปิดรับลมบ่อยๆ และทุกปีควรถอดผ้าม่านออกมาซักตากแห้ง หรือหากเป็นผ้าม่านชนิดพิเศษควรใช้บริการช่างมืออาชีพมาทำความสะอาดแทน
- ในการถอดซักควรเช็กและถอดตะขอทุกตัวออกให้หมด ควรทำความสะอาดผ้าม่านน้ำเย็นหรืออุณหภูมิไม่เกิน 30 องศา ตั้งโหมดถนอมผ้า และใช้น้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยน
- หากซักผ้าม่านแล้วมีรอยยับ สามารถใช้เตารีดไอน้ำหรือเตารีดปกติอุณหภูมิต่ำทำให้เรียบขึ้นได้
- ช่วยรักษาผ้าม่านจากแสงแดด โดยการติดตั้งผ้าม่าน 2 ชั้น คือมีผ้าม่านโปร่งแสงเป็นตัวช่วยกรองแสงอีกชั้นหนึ่ง
- การเปิด-ปิดม่านที่มีเชือกดึง ให้ดึงในแนวดิ่งตรง ไม่เฉียงหรือเอียง
สำหรับผ้าม่านแบบจีบหรือผ้าม่านตาไก่ อาจมีการเพิ่มก้านจูงเพื่อป้องกันการจับผ้าม่านโดยตรง
