NOTE:
– จากการสำรวจของ Gartner (บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ) พบว่าตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา ธุรกิจเกี่ยวกับ 3D Printing ได้เติบโตขึ้นกว่าร้อยละ 64.1 และจะต่อเนื่องไปจนถึงปี 2018
– ปัจจุบันวัสดุที่ใช้ในระบบ 3D Printing ได้พัฒนาจากพลาสติก เพิ่มเป็น แก้ว, ยา, Carbon Fiber, Advanced Nickel Alloy และวัตถุทางชีวภาพ เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายในระบบอุตสาหกรรมที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
– ในอีก 20 ปีข้างหน้า 3D Printing จะเป็นส่วนสำคัญในระบบอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก
ปัจจุบันเทคโนโลยี 3D Printing ได้เข้ามามีบทบาทกับชีวิตของมนุษย์มากยิ่งขึ้น จะเห็นได้จากการพัฒนาที่รุดหน้าของการเลือกวัสดุพิมพ์ที่มีความหลากหลายกว่าแต่ก่อน ไม่ว่าจะเป็น Advanced Nickel Alloy, Carbon Fiber, Conductive Ink, อุปกรณ์ไฟฟ้า, แก้ว, ยา และวัตถุทางชีวภาพ เพื่อช่วยเติมเต็มความต้องการใหม่ๆ ของระบบอุตสาหกรรมอย่าง การบินและอวกาศ, เภสัชศาสตร์, รถยนต์และยานพาหนะ หรือแม้กระทั่งทางด้านการทหาร ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
และล่าสุดผู้นำด้านการพิมพ์ 3 มิติรายใหญ่ของโลกอย่าง Stratasys ก็ได้นำเอาเทคโนโลยี 3D Printing มาประยุกต์ใช้กับแวดวงทางการแพทย์เพื่อประโยชน์ในด้านการศึกษาและทดสอบเครื่องมือทางการแพทย์ที่ผลิตขึ้นใหม่ จากเดิมที่จะใช้หุ่นจำลอง อาจารย์ใหญ่ หรือสัตว์เพียงเท่านั้น
ด้วยทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด การใช้หุ่นจำลอง อาจารย์ใหญ่ หรือสัตว์ทดลองทางการแพทย์ในปัจจุบัน อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการที่มีอยู่อย่างมากมายมหาศาล Stratasys จึงได้เล็งเห็นช่องว่างที่จะนำเอา 3D Printing มาสร้างเป็นชิ้นส่วนร่างกายเทียม (BioMimics) ที่สามารถกำหนดความยืดหยุ่นให้อ่อนนุ่มเหมือนกล้ามเนื้อหรือแข็งแรงเหมือนกระดูก และ BioMimics ยังสามารถจำลองการเกิดสภาวะผิดปกติของกายวิภาคเพื่อใช้ในการศึกษาได้โดยง่าย จากเดิมที่ต้องใช้ร่างของอาจารย์ใหญ่หรือสัตว์ที่มีปัญหาซึ่งพบได้ยากตามธรรมชาติ
โดยในขณะนี้เทคโนโลยี 3D Printing สามารถสร้างชิ้นส่วน BioMimics เพื่อทดแทนกระดูก หัวใจ กล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อต่างๆ ได้เป็นผลสำเร็จ โดยเป้าหมายต่อไปคือการสร้างหลอดเลือดจำลองที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปีหน้า
ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
Facebook: Ananda Development
Instagram: ananda_development
Youtube: Ananda Development
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก: http://www.businesswire.com