ได้เวลายกการ์ดสูงตั้งรับ Stagflation

Stagflation คือการรวมกันระหว่ง Stagnation (ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ) และ Inflation (ภาวะเงินเฟ้อ) แน่นอนว่าทั้งสองอย่างไม่ส่งผลดีกับทุกคนในระบบเศรษฐกิจ เพราะอัตราการเติบโตจะลดต่ำลง ตัวเลขการว่างงานจะสูงขึ้น และราคาสินค้าต่างๆ จะพุ่งขึ้นสวนทางกับรายได้ ประเทศไทยเองเคยเจอภาวะ Stagflation นี้มาแล้วเมื่อช่วงปี 2523 และมีเงินเฟ้อสูงติดต่อกันอยู่หลายปี แม้ว่าปัจจุบันภาวะนี้เรายังจะไม่ได้เข้าสู่ภาวะนี้อย่างเต็มตัว แต่การเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้าก็เป็นสิ่งที่จำเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

เมื่อ Stagflation ขยับมาใกล้

สิ่งที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกังวลว่าเรากำลังจะเข้าสู่ Stagflation อย่างหลีกเลี่ยงได้ยากคือ การทยอยเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าต่างๆ ทั้งส่วนของอุปโภคและบริโภค โดยเฉพาะอาหารและพลังงานที่ถูกปัจจัยลบระดับโลกอย่างเงินเฟ้อและภาวะสงครามกระตุ้นให้แพงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกันนั้นเรายังต้องเจอกับภาวะการว่างงานที่กลายเป็นดาบสองแทงให้เจ็บช้ำ แม้ว่าปัญหานี้จะมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นทั่วโลก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสำหรับเมืองไทยเราอาจจะต้องรับมือกับผลกระทบค่อนข้างมาก เพราะเราต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งโชคร้ายนี่คือกุญแจนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย

ผู้ประกอบการต้องรีบปรับตัว

ในภาวะ เศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้ การตัดสินใจต้องรวดเร็วแต่ไม่บุ่มบ่าม สิ่งที่ผู้ประกอบควรทำคือเร่งปรับตัวให้ทันสถานการณ์โดยเริ่มจากตัดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็นทุกอย่างออก ถ้าเป็นไปได้ย้ายจากที่เช่ามาอยู่ในที่ตัวเอง พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในการผลิตให้ดีขึ้น ข่าวดีคือในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้คุณสามารถปรับราคาสินค้าได้ แต่ต้องอ้างอิงกับเพื่อนๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน และประเมินกำลังซื้อของลูกค้าหลักด้วยและหากคุณเลือกที่จะปรับราคา อย่าลืมเพิ่มคุณภาพของสินค้าตามไปด้วย หรือเลือกที่จะขายสินค้าในราคาเดิมแต่ลดปริมาณลงเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า สุดท้ายมองโลกในแง่ดีและมีความหวังกับอนาคตเข้าไว้

นักลงทุนยังมีทางรอด

เราต้องมาทบทวนกันว่า ในภาวะ Stagflation เศรษฐกิจตกต่ำแต่สินค้าอุปโภคบริโภคแพงขึ้น หากเราซื้อหุ้นในกลุ่มนี้ไว้ก็มีโอกาสทำกำไรได้ แต่ต้องระวังว่าเมื่อกำลังซื้อของผู้คนลดลงการแพงขึ้นของสินค้าจะกลายเป็นดาบสองคมสำหรับนักลงทุนแทน นอกจากนี้สินทรัพย์ที่น่าสนใจคือกลุ่มโลหะมีค่าโดยเฉพาะทองคำซึ่งได้ปัจจัยบวกจากค่าเงินที่อ่อนค่าลง แต่ในทางกลับกันโลหะอุตสาหกรรมจะอยู่ในภาวะชะลอตัวเนื่องจากไม่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมาสนับสนุนความต้องการ สำหรับหุ้นควรเลือกหุ้นที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันเพราะผู้คนยังจำเป็นต้องใช้สินค้าและบริการเหล่านี้อยู่ รวมถึงการซื้ออสังหาเชิงพาณิชย์เพื่อปล่อยเช่าก็น่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากัน

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top