“ไม่มีเวลาดูหุ้น แต่อยากลงทุนต้องทำอย่างไร”

“ไม่มีเวลาดูหุ้น แต่อยากลงทุนต้องทำอย่างไร”

Article by คุณนายแว่น

สำหรับคนทำงานที่เพิ่งเริ่มต้นสร้างเนื้อสร้างตัว การผลิตกระแสเงินสดด้วยงานประจำเราต้องลงแรงทำงาน หรือที่เรียกกันว่ามันคือ active income แต่เมื่อเราได้เงินจากงาน ถ้าเราไม่รู้จักแบ่งเก็บ แบ่งลงทุน เงินที่ได้มามักจะอันตรธานหายไปอย่างรวดเร็ว กับอะไรซักอย่างที่เรากินๆ ใช้ๆ แบบไม่รู้ตัว

สำหรับการลงทุนที่อินเทรนด์ที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้น “เล่นหุ้น” แต่การเล่นหุ้นต้องเฝ้าหน้าจอ ต้องติดตามความเป็นไปของราคาหุ้น แล้วจะเอาเวลาที่ไหน ไปติดตามขนาดนั้น เพราะเราต้องทำงานประจำ งานก็ต้องทำหุ้นก็ต้องดู แบบนี้ไม่ work แน่นอน ไม่มีเวลาดูหุ้นแล้วอยากลงทุนต้องทำอย่างไร ไปหาคำตอบกัน

ประการแรก “ลงทุนแบบซื้อเฉลี่ยทุกเดือน”

เทคนิคแรกนี้ผมขอเรียกมันว่า “รวยแบบอัตโนมัติ” ทำไมผมจึงเรียกแบบนี้ นั่นเป็นเพราะการซื้อถัวเฉลี่ยทุกเดือนแบบอัตโนมัตินั้นต้นทุนราคาหุ้นจะต่ำกว่าราคาตลาดเสมอ เนื่องจากหากเราซื้อถัวเฉลี่ยหุ้นซักตัวในเม็ดเงินเท่าๆ กันทุกเดือน เช่น 5000 บาทต่อเดือน เมื่อหุ้นตกเราก็จะซื้อได้เยอะ แต่พอหุ้นขึ้นเราจะซื้อน้อยลงทำให้ความเสี่ยงลดลงเพราะหุ้นที่ขึ้นแรงมักจะตกลงมาในภายหลัง ทำแบบนี้ต้นทุนเฉลี่ยราคาหุ้นเราจะต่ำกว่าราคาตลาดเสมอ (ในระยะยาวนะครับ)

วิธีการก็ง่ายแสนง่าย แค่เราเดินไปที่บริษัทหลักทรัพย์ ขอเปิดบัญชีซื้อหุ้นแบบถัวเฉลี่ย ศัพท์เทคนิคนิดหน่อยที่เขาใช้กันก็คือ DCA หรือ Dollar Cost Average ทางบริษัทหลักทรัพย์ก็จะทำการเปิดบัญชีให้เราง่ายนิดเดียว หรือจะสมัครแบบออนไลน์ก็ได้เข้าไปดูรายละเอียดในเว็บของบริษัทหลักทรัพย์ได้เลย หรือจะอ่านวิธีการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นใน Blog Gen C ก็มีให้อ่านหลายบทความนะครับ เริ่มต้นง่าย ๆ ทำไปทุกเดือน พอผ่านไปหลายปีเราจะเห็นมหัศจรรย์แห่งการทบต้น โดยบางครั้งเราอาจแปลกใจว่าเราเก็บเงินเป็นหุ้นได้มากขนาดนี้เชียวหรือ เชื่อผมซิ!

ประการที่สอง “ใช้โรบอตเทรดหุ้นแทนเรา”

เทคนิควิธีนี้ดูล้ำสมัยเหมือนออกมาจากหลังวิทยาศาสตร์ไซไฟ แต่เชื่อเถอะว่าปัจจุบันมันเป็นวิธีที่พื้นๆ เข้าถึงได้ไม่ยาก แม้เราจะเป็นรายย่อยก็สามารถทำได้ ด้วยการตั้งซื้อตั้งขายแบบอัตโนมัติเลย แล้วเอาเวลาที่เหลือไปนั่งทำงานหาเงินจะดีกว่า สำหรับการใช้โรบอตเทรดหุ้นแทนเรานั้นต้องขอบอกว่าอาจไม่ได้มีทุกหลักทรัพย์ เราต้องเลือกเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ที่ให้บริการในด้านนี้โดยเฉพาะ บางที่ก็ไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ถ้าเราต้องการ Special Offer หรือบริการแบบพิเศษ อาจมีค่าธรรมเนียมบ้าง ลองติดต่อดูนะครับ

ข้อดีของวิธีการนี้ก็คือ เราจะมีเวลาเหลือมากมายไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ ยกตัวอย่างเช่น เราต้องการซื้อหุ้น A ราคา 1 บาทต่อหุ้น เป็นจำนวน 10,000 หุ้น แต่ตอนนี้หุ้นราคาสูงกว่า 1 บาทต่อหุ้น เราก็ตั้งซื้อไว้ล่วงหน้าเลย และถ้าเราคิดจะล็อกกำไรไว้ที่ 1.50 บาทต่อหุ้น เราก็ตั้งขายอัตโนมัติเอาไว้เลย แล้วเอาเวลาที่เหลือไปทำงานจะดีกว่า ถ้าคำสั่งมัน Match เราก็จะได้กำไรราว 5000 บาทสบายๆ ไม่เครียด ไม่เสียเวลางาน แต่นี่เป็นเพียงตัวอย่าง ของข้างแห่งความสำเร็จ ถ้าเรากลัวว่ามันจะขาดทุนเราก็ตั้งคำสั่งตัดขาดทุนในราคาที่เรารับได้ไว้ล่วงหน้าเช่นกัน เช่นเราตั้งขายทันทีถ้าหุ้นตกเหลือ 0.50 บาทต่อหุ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดไหลออก หรือขาดทุนไปเรื่อยๆ เมื่อหุ้นตกลง เป็นอย่างไรครับวิธีการมันก็ง่ายๆ แค่นี้ครับ อย่างไรก็ดีที่ยกมากล่าวนั้นเป็นเพียงตัวอย่างคร่าวๆ เท่านั้นนะครับ

ประการสุดท้าย “ลงทุนหุ้นแบบเน้นคุณค่า”

สำหรับวิธีสุดท้ายนั้นอาจจะยากหน่อยไม่เหมาะกับคนที่ชอบเทรดหุ้น หรือคนที่อยากเห็นกำไรเร็วๆ แต่วิธีการนี้ทำงานน้อย แต่ได้ผลมาก เพียงต้องใช้ความอดทนรอคอยความสำเร็จให้เป็น หลักการก็ไม่มีอะไรซับซ้อน การลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือ Value Investment คือการลงทุนระยะยาวกับหุ้นที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และซื้อหุ้นให้มีจำนวนที่มากเพียงพอที่จะเปลี่ยนชีวิตเราได้

แนวคิดก็คือ ลงทุนหุ้นให้เหมือนเราทำธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราสนใจหุ้นคอนโดมิเนียม เราต้องรู้ว่ากลุ่มลูกค้าของเขาเป็นใคร ทำคอนโดมิเนียมแบบไหน นั่นคือการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ เมื่อเรารู้ข้อมูลเชิงคุณภาพแล้ว เราก็ต้องวิเคราะห์ข้อมูลเชิงตัวเลข หรือเชิงปริมาณกันต่อ อันได้แก่ มีสินทรัพย์เท่าไร มีหนี้เยอะหรือไม่ ความสามารถในการทำกำไรเป็นอย่างไร มีงบลงทุนแต่ละปีมากน้อยคุ้มค่าแค่ไหน เมื่อเราศึกษาดีแล้วก็ลงทุนยาวๆ โดยไม่ต้องติดตามราคาหุ้นรายวัน เอาเวลาไปทำงานหาเงินมาลงทุนหุ้นจะดีกว่า

ทั้งหมดคือตัวอย่างง่ายๆ สำหรับคนที่มีเวลาน้อย หรือไม่มีเวลาติดตามหุ้น แต่อยากเล่นหุ้น ลองปรับไปใช้กันดูนะครับ

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top