5 ร้านแฮงค์เอาท์ย่านลาดพร้าว

5 ร้านแฮงค์เอาท์ย่านลาดพร้าว

หลังเลิกงาน หลาย ๆ คนก็คงอยากจะหาร้านอาหารนั่งชิลล์ ๆ พร้อมดื่มเบียร์เย็น ๆ แก้เหนื่อย ยิ่งเฉพาะในย่านลาดพร้าว ย่านออฟฟิศที่คนส่วนใหญ่มักจะไปเช็คอินกัน วันนี้ลองมาดู 5 ร้านแฮงค์เอาท์ย่านลาดพร้าวสวย ๆ บรรยากาศดีที่เรารวบรวมมาให้ดูค่ะ

The Third Pig

5 ร้านแฮงค์เอาท์ย่านลาดพร้าว
5 ร้านแฮงค์เอาท์ย่านลาดพร้าว

The Third Pig เปลี่ยนพื้นที่ของธนาคารและร้านอาหารเก่าในย่านห้าแยกลาดพร้าวมาเป็นร้านนั่งกินดื่มสุดเท่ให้ได้แวะมานั่งดริ๊งก์กันชิลล์ ๆ หลังเลิกงานแบบไม่ต้องไปไกล ด้วยคอนเซ็ปต์ไอเดียที่ทางร้านนำเอากิมมิกจากนิทานเรื่องลูกหมูสามตัว มาครีเอทพื้นที่แห่งนี้ให้เหมือนกับบ้านของลูกหมูตัวที่สามที่แข็งแรงที่สุด ส่วนเมนูอาหารของ The Third Pig เน้นเสิร์ฟอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น ใครที่แวะมาทานมื้อเย็นที่นี่ ลองสั่งจานหนักหน่อย อย่าง ลาซานญ่ามัสมั่นเนื้อ (250 บาท) ท็อปด้วยชีสเยิ้ม ๆ เข้ากันกับรสชาติเครื่องแกงมัสมั่นที่ตัดเลี่ยนได้อย่างดี หรือสั่งหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ซอสแกงส้มและไวน์ขาว (260 บาท) รสเปรี้ยว ทานคู่กับขนมปังบาแก็ต ในส่วนของบาร์ แนะนำเป็น 3 ดริ๊งก์ที่ตรงตามคอนเซ็ปต์ร้าน กับ Huff & Puff (260 บาท) เป็นแก้วหนึ่งที่มีรสหวานและดื่มง่าย ด้วยส่วนผสมของบรั่นดี ชาไทย ฮันนี่ไซรัป น้ำมะนาวและเยลลี่ไวน์ Cabernet Sauvignon แล้วจึง Smoke เพิ่มควันลงไป ก่อนจะปิดปากแก้วด้วยข้าวเกรียบว่าวและไวน์เยลลี่ ใครคอแข็งหน่อย ลอง Blowing Twigs (260 บาท) ที่มีเบอร์เบิน เหล้าสวีทเวอร์มุท เหล้าอะเพอรอล วานิลลาบิทเทอร์ เสร็จแล้วท็อปด้วยแบล็คเชอรี่และชินนามอนที่ไหม้นิด ๆ ตามกิมมิกของชื่อดริ๊งก์ที่แทนบ้านไม้ของลูกหมูตัวที่สอง

The Third Pig
ปากซอยพหลโยธิน 20
เปิดวันจันทร์ – วันเสาร์ (หยุดวันอาทิตย์) เวลา 17.00 – 00.00 น.
โทร. 098-965-4356
Facebook.com/The3rdPig

People on Pause

eople-On-Pause-17

5 ร้านแฮงค์เอาท์ย่านลาดพร้าว
5 ร้านแฮงค์เอาท์ย่านลาดพร้าว

People on Pause ร้านคาเฟ่ของคุณเป๊ก ปราชญ์ พงษ์ไชย (วง Zeal) คุณปราโมทย์ ปราทาน คุณเป้ ไพสิฐ คำกลั่น (วง Mild) และกลุ่มเพื่อนอีกหลายคนมาร่วมกันจัดพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นอีกร้านคาเฟ่ให้ชาวลาดพร้าวแวะมานั่งทำงานกันในช่วงสาย หรือมานั่งพบปะพูดคุยกับเพื่อนกันได้แบบสบาย ๆ ในช่วงเย็น ภายในร้านตกแต่งออกมาในสไตล์อินดัสเทรียลลอฟต์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนโรงรถขนาดเล็ก ด้วยการประดับป้ายทะเบียนรถ เพดานสองระดับ เสาอิฐ ผนังไม้กระดานพื้นผิวหยาบ ๆ ส่วนโต๊ะและเก้าอี้มีหลายรูปแบบที่นำมา Mix & Match ไว้ด้วยกัน สำหรับครัวของที่นี่ (ครัวเปิดตั้งแต่ 12.00-22.30 น.) เน้นเสิร์ฟอาหารสไตล์คอมฟอร์ตฟู้ด อย่าง Beef Bolognese Spaghetti (180 บาท) ที่ท็อปด้วยพาร์เมซานชีสและมาพร้อมขนมปังบาร์แก็ตชิ้นเล็ก ใครที่แวะมาตอนเย็น ทางร้านมีคราฟท์เบียร์ให้สั่งมาดื่มกันยาว ๆ ได้จนถึงเที่ยงคืน อาทิ Hitachino Nest Weizen (240 บาท) Hitachino Red Rice (260 บาท) Ryan & The Beaster Bunny (240 บาท) Brewdog Punk IPA (240 บาท) และไซเดอร์อย่าง Brothers Cider (240 บาท) ส่วนดราฟท์เบียร์มี Hoegaarden, Stella Artois และ Leffe (ราคาเริ่มต้น Half-Pint 190 บาท และ Pint ละ 260 บาท)

People on Pause
ปากซอยลาดพร้าววังหิน 8
เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 00.00 น.
โทร. 02-019-1303
Facebook.com/peopleonpausecafe

Haru Izakaya & Sushi Bar

aru-1

5 ร้านแฮงค์เอาท์ย่านลาดพร้าว
5 ร้านแฮงค์เอาท์ย่านลาดพร้าว

Haru Izakaya & Sushi Bar ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โมเดิร์นอิซากายะ ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากการพับกระดาษแบบญี่ปุ่น ภายในมีพื้นที่เพียงพอสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะมาเดี่ยว มาคู่ หรือมาเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ ที่นี่มีห้อง VIP จำนวน 2 ห้องที่สามารถรองรับการจัดเลี้ยงและปาร์ตี้วันเกิดได้มากถึง 20 คน เมนูอาหารของที่นี่ไม่ได้เสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นสไตล์ Izakaya เท่านั้น ยังมีเมนูอาหารญี่ปุ่นอื่นๆ เช่น ซูชิ ซาชิมิ หม้อไฟ ปิ้งย่าง กับแกล้ม และเครื่องดืมแอลกอฮอลล์รวมกันอีกกว่า 300 เมนู รวมถึงเมนูใหม่อย่าง หอยเชลล์ย่างภูเขาไฟ (139 บาท) หอยเชลล์จากฮอกไกโด ราดซอสครีมไข่กุ้งรสชาติจัดจ้านก่อนท็อปด้วยชีสยืด ๆ ถ้าชอบกุ้ง ที่นี่ก็มีเมนูกุ้งย่างภูเขาไฟ (789 บาท) ที่เสิร์ฟกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ราดด้วยซอสครีมกุ้ง แล้วท็อปด้วยชีส สำหรับดริ๊งก์ลิสต์ที่นี่ จะต้องถูกใจสาว ๆ แน่ ๆ เพราะที่มี Umeshu หรือเหล้าบ๊วย ดื่มง่ายให้เลือกสั่งมาดื่มกันมากกว่า 8 แบบ อาทิ Choya Umepop (119 บาท) Puru Puru Ume Jelly (239 บาท) และ Puru Puru Ringoshu (239 บาท) ส่วนพวกสาเกและวิสกี้ก็มีให้เลือกหลายชนิดไม่แพ้กัน โดยทางร้านแนะนำเป็นดริ๊งก์ประเภท Highball หรือเครื่องดื่มวิสกี้ที่ผสมซอฟต์ดริ๊งก์ อย่าง Lemon Soda Highball (139 บาท) Ginger Ale (139 บาท) และพวก Sour (ซาวา) ส่วนคอเบียร์ ทางร้านมีเบียร์สด Asahi (99 บาท) และเบียร์ขวด Kirin (99 บาท) ให้เลือกสั่งมาจิบกันคู่มื้ออาหารได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Haru Izakaya & Sushi Bar
96 ซอยโยธินพัฒนา ถนนประดิษฐ์มนูธรรม
เปิดวันจันทร์ ถึง วันเสาร์ เวลา 11.30 – 14.00 และ 17.00 – 23.00 น.
โทร. 02-515-0058
Facebook.com/harubangkok

Where do WE go

here-Do-WE-Go-2

5 ร้านแฮงค์เอาท์ย่านลาดพร้าว
5 ร้านแฮงค์เอาท์ย่านลาดพร้าว

Where do WE go จากบาร์เบียร์สุดชิคที่ตระเวนไปเปิดตาม Flea Market วันนี้ได้เปิดบ้านใหม่ต้อนรับทุกคนแล้วในย่านโชคชัย 4 พร้อมให้ไปลองเบียร์คราฟท์ดี ๆ จาก Brewer คนไทยที่จะหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไปแทบทุกวัน ตัวร้านตกแต่งเป็นสไตล์ Loft เรียบ ๆ เสริมด้วยกลิ่นอายของความเป็นอินดัสเทรียลด้วยเคาน์เตอร์บาร์โชว์แนวอิฐสีส้ม รวมทั้งผนังคอนกรีตขัดมันและผนังสีดำด้านในเคาน์เตอร์เพ้นท์ลายท่อน้ำล้อกับบริเวณที่ติดตั้ง Tap เบียร์ ได้ลุคเท่ ๆ ส่วนเมนูแนะนำของที่นี่เป็นอาหารอีสานรสจัดจ้านแบบอีสานแท้ ๆ ลองเป็นกับแกล้มอย่าง หมูกรอบทอดน้ำปลา (100 บาท) หมูกรอบทอดโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวกรอบ ๆ ได้รสชาติเค็ม ๆ กินกับน้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บ หรือจะลองสั่งเมนูกับแกล้มสุดคลาสสิค กุ้งแช่น้ำปลาวาซาบิ (100 บาท) กุ้งแช่น้ำปลาแซ่บ ๆ เข้ากันได้ดีกับความเผ็ดร้อนแบบวาซาบิ ส่วนเครื่องดื่มของที่ร้านจะเน้นเป็นคราฟท์เบียร์ไทย (เริ่มต้นที่ 140 บาท) ทั้งหมด 4 Tap ยืนพื้นด้วยเบียร์จากค่าย Sandport และอีก 3 ชนิดที่จะสลับสับเปลี่ยนกันไป ไม่ว่าจะเป็น Sandport, X Beer, Yod Beer หรืออีกหลาย ๆ ค่ายที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าไม่ว่าจะแวะไปที่ร้านวันไหนก็ได้ดื่มเบียร์ไม่ซ้ำกันเลย

Where do WE go
ลาดพร้าว – วังหิน ถนนโชคชัย 4
เปิดวันพุธ – วันอาทิตย์ เวลา 18.00 – 00.00 น.
โทร. 094-548-2326
Facebook.com/wheredowego2016

Waterside Restaurant Bangkok

5 ร้านแฮงค์เอาท์ย่านลาดพร้าว
(Photo by Waterside Restaurant)

Waterside Restaurant Bangkok ร้านอาหารและห้องคาราโอเกะกลางน้ำบนพื้นที่กว่า 15 ไร่ ให้ความรู้สึกเหมือนไปพักผ่อนที่รีสอร์ทต่างจังหวัด มีสะพานไม้ทอดยาวผ่านโซนทานอาหารและห้องคาราโอเกะ เป็นจุดที่ทุกคนจะแวะถ่ายรูปก่อนเข้าไปเลือกที่นั่งเสมอ ส่วนภายในตกแต่งด้วยโคมไฟทรงสูงดูอบอุ่นสบายตา มีทั้งมุมสำหรับสังสรรค์กับเพื่อนฝูงและมุมโรแมนติกแบบส่วนตัว มีร้านเล็ก ๆ ให้เลือกทานอาหาร 4 ร้าน ทั้งบาร์อาหารญี่ปุ่น ร้านคัพเค้ก ร้านค็อกเทล และร้านซูชิ ส่วนห้องคาราโอเกะ มีตั้งแต่ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่กลางน้ำ ที่จุคนได้ถึง 180 คน เลยทีเดียว เมนูของที่นี่เป็นฟิวชั่น มีหลากหลายเมนู แนะนำ พล่ากุ้งแม่น้ำแซ่บ (260 บาท) ส้มตำคอหมูย่างหม้อไฟ (180 บาท) ส้มตำปูไข่ดอง (240 บาท) และส้มตำหลอด (120 บาท) ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ซอฟท์ดริ๊งก์ไปจนถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

Waterside Restaurant Bangkok
13/16 หมู่หมู่ 9 ถนนประดิษฐ์มนูธรรม
เปิดทุกวัน เวลา 17.00 – 01.00 น.
โทร. 02-9439498
Facebook.com/WatersideKaraoke

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top