NOTE:
• ปัญหาลิฟต์ค้างดูเหมือนจะเป็นเรื่องไกลตัวแต่ผู้คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในอาคารสูงๆนั้นกลับต้องใช้ลิฟต์แทบทุกวัน?
• กรณีเกิดลิฟต์ค้าง ส่วนใหญ่มักจะไม่มีอันตรายเพียงแต่ต้องควบคุมสติให้ดี
• โอกาสที่ลิฟต์จะพุ่งทะยานตกลงสู่พื้นแบบในหนังนั้นมีน้อยมากเพราะลิฟต์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะมีระบบล็อกชั้น
• รู้หรือไม่ว่าบ้านเราก็มี สมาคมลิฟต์แห่งประเทศไทย ที่คอยควบคุมมาตรฐานของลิฟต์และบันไดเลื่อนภายในประเทศ
เมื่อพูดถึงลิฟต์ค้าง หลายๆคนอาจขนลุกขนชันพลางนึกถึงฉากในหนังที่ทุกคนกอดกันกลมพร้อมกับลิฟต์ที่ไถลดิ่งลงสู่พื้น แต่เชื่อไหมครับว่าปัญหาลิฟต์ค้างนั้น ส่วนใหญ่น้อยรายหรือโชคร้ายสุดๆถึงจะเจอ เพราะด้วยมาตรฐานของอุปกรณ์เหล่านี้ที่มีการควบคุมและเข้มงวดในการติดตั้ง ส่งผลให้ปัญหาลิฟต์ค้างค่อยๆเลือนหายไปในปัจจุบัน
แต่ตราบใดที่โลกนี้ยังมีอาคารสูง การใช้ชีวิตโดยพึ่งพาอาศัยลิฟต์มักเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องพบเจอในชีวิตประจำวัน วันนี้เราจึงมี 5 วิธีรับมือถ้าต้องติดอยู่ในลิฟต์มาฝากชาว Gen-C กัน รู้ไว้ไม่เสียหายเมื่อเกิดเหตุขึ้นมาจะได้รับมือถูกยังไงล่ะครับ
1.สติมาปัญญาเกิด
หลายๆครั้งที่อุบัติเหตุมักบานปลายเพราะความขาดสติ กรณีลิฟต์ค้างก็เช่นกัน เมื่อรู้ตัวว่าลิฟต์ค้างสิ่งหนึ่งที่ต้องทำเลยคือการ “ตั้งสติ” แยกให้ออกก่อนว่าลิฟต์ค้างหรือลิฟต์ตก เพราะในกรณีลิฟต์ตกนั้นจะมีการไถลลงสู่พื้นด้านล่าง แต่ถ้าลิฟต์ค้างมันก็แค่ค้างเติ่งอยู่แบบนั้นไม่ได้อันตรายแต่อย่างใดครับ
• กรณีลิฟต์ตกให้กดปุ่มทุกชั้นเผื่อไฟมาลิฟต์จะได้ทำการจอดก่อนร่วงลงสู่พื้น จากนั้นหาที่ยึดให้แน่นโดยหันหลังและศรีษะแนบให้ชิดกับผนังลิฟต์พร้อมงอเข่า
• สังเกตุเลขชั้นของลิฟต์แทนการก้มหน้าก้มตาเล่นมือถือ เพราะเมื่อลิฟต์ค้างเราจะสามารถบอกพิกัดให้เจ้าหน้าที่รู้ได้ว่าลิฟต์อยู่ที่ประมาณชั้นใดจากเลขที่เห็นล่าสุด
2.กดปุ่มฉุกเฉิน
ในกรณีที่ไฟดับ ลิฟต์รุ่นใหม่ๆในปัจจุบันได้ออกแบบชุดไฟฉุกเฉินขึ้นเพื่อส่องสว่างภายในตัวลิฟต์ ให้เรากดปุ่มฉุกเฉิน(Emergency Call) ให้บุคคลภายนอกได้รับรู้ ซึ่งหลังจากที่กดเรียบร้อยแล้วก็พยายามตั้งสติรอให้คนมาช่วย
3.อากาศเป็นสิ่งจำเป็น
ปัจจุบันลิฟต์เกือบแทบทุกตัวจะมีพัดลมระบายอากาศอยู่ทางด้านบนเพื่อถ่ายเทอากาศในตัวลิฟต์ให้หมุนเวียนได้สะดวก ในกรณีที่พัดลมระบายอากาศหยุดทำงานนั้นอาจมีการคลายเสื้อผ้าออกหลวมๆเพื่อช่วยระบายอากาศอีกทางหนึ่ง
4.ห้ามนั่งหรือนอน
เป็นธรรมดาของมนุษย์ที่อาจมีการเมื่อยบ้าง แต่ถ้าหากเราติดอยู่ในลิฟต์นั้น การนั่งจะเป็นการทำให้เราสูดเอาปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีอยู่มากในบริเวณพื้น(เนื่องจากหนักกว่าอากาศ)เข้าใจจนทำให้เกิดอาการหายใจไม่เพียงพอได้ ทางที่ดีที่สุดควรยืนเอาหลังชิดผนังลิฟต์ไว้ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ
5.อย่าทำอะไรนอกเหนือจากการรอความช่วยเหลือ
หลังจากการกดปุ่ม Emergency Call แล้วก็ไม่ควรไปงัดแงะประตูเพียงเพราะหวังว่ามันจะเปิดออก มิหนำซ้ำการงัดแงะของเราอาจทำให้วงจรหรืออุปกรณ์เสียหายเพิ่มเติมจนทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานยากขึ้นก็เป็นได้ ยืนรอแบบมีสติคือสิ่งที่สมควรทำที่สุดในเวลานี้เท่านั้น
แต่เหนือสิ่งใดนั้นการไม่พาตัวเองเข้าไปสู่ความเสี่ยงย่อมเป็นการดีที่สุดครับ จำไว้ว่าหากเกิดสถานการณ์เหล่านี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ลิฟต์ได้ก็จะเป็นการดีที่สุด
• เมื่อลิฟต์บรรทุกน้ำหนักเกินหรือมีผู้คนใช้ในปริมาณมาก
• เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้
ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
Facebook: Ananda Development
Instagram: ananda_development
Youtube: Ananda Development
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก:http://www.thailandlift.org/home.php# , www.niems.go.th
ขอบคุณภาพประกอบจาก: www.pexels.com, http://nationalcc.co.uk, cdn.shutterstock.com, Pinterest.com
