NOTE:
– 600 คือจำนวนสตาร์ทอัพที่เพิ่มขึ้นมาในประเทศไทยช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาและมีแนวโน้มจะแตะหลักพันภายในสิ้นปีนี้
– ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าการลงทุนเกิน 1 พันล้านเหรียญฯได้อย่างประเทศแถบเพื่อนบ้านเช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม
– ภายในปี 2568 ตลาดดิจิตอลในประเทศไทยอาจมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 6.5 เท่าตัวจากการเติบโตของธุรกิจประเภทอีคอมเมิร์ซ สื่อออนไลน์ และท่องเที่ยวแบบออนไลน์
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายุคนี้ใครๆก็อยากที่จะเป็นเจ้านายตัวเองกันแทบทั้งนั้น ดังจะเห็นได้จากการเติบโตของกลุ่มสตาร์ทอัพที่เพิ่มขึ้นจากหลักร้อยมาสู่หลักพันในปีนี้ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นก็มีทั้งรายที่ประสบความสำเร็จและรายที่ล้มเหลวปะปนกันไป วันนี้เราจึงนำ 5 สตาร์ทอัพหน้าใหม่ของไทย ที่มีแนวโน้มสดใสในอนาคตอย่างแน่นอนมาฝากชาว Gen-C กัน เผื่อใครก็ตามที่มีความฝันแล้วอยากทำตามฝันของตนเอง การศึกษาข้อมูลจากเหล่าสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างแน่นอนครับ
1. TakeMeTour จัดกลุ่มเที่ยวกันเองแบบชิลๆ
ถือเป็นกลุ่มสตาร์ทอัพหน้าใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมาไม่กี่ปีแต่มีกระแสตอบรับจากผู้ใช้ที่ดีเยี่ยมอย่าง TakeMeTour สื่อกลางในการรวบรวมนักท่องเที่ยวและคนนำเที่ยวที่มีความสนใจในสถานที่เดียวกัน มาพบปะ พูดคุย และนัดกันไปเที่ยวในแบบกลุ่มเล็กๆโดยที่ไม่ต้องง้อกรุ๊ปทัวร์ใหญ่ๆได้ เพราะไลฟสไตล์ของคนรุ่นใหม่นั้นชื่นชอบความท้าทายและไม่ต้องการอะไรที่เป็นพิธีรีตองมากนัก การจัดกลุ่มเที่ยวกันเอง นอกจากจะเป็นการพบปะผู้ที่มีความช่อบในแบบเดียวกันแล้ว ยังก่อให้เกิดมิตรภาพและประสบการณ์ในการพบเจอสถานที่ใหม่ๆที่ไม่เคยได้ไปสัมผัสอีกด้วย
2. Claim Di เคลมดิ่ เคลมไวไม่ต้องรอประกัน
เคยไหมที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนแต่ละครั้งจะต้องรอประกันมาเคลมอยู่นานแสนนาน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ Claim Di แอปพลิเคชั่นช่วยอำนวยความสะดวกกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินได้รับการติดต่อจากประกันภัยเจ้าใหญ่ๆนับสิบรายในการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ โดยหลักการใช้งานก็ง่ายๆเพียงแค่ติดตั้งแอปพลิเคชั่นลงบนสมาร์ทโฟน จากนั้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนก็สามารถ Shake โทรศัพท์ร่วมกับคู่กรณีเพื่อขอการอนุมัติ หรือถ้าไม่มีคู่กรณีก็สามารถถ่ายรูปความเสียหายเพื่อขออนุมัติการเคลมประกันจากบริษัทประกันภัยได้ในทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลารอเจ้าหน้าที่ให้หงุดหงิดใจ
3. FlowAccount ระบบทำบัญชีออนไลน์แม้เป็นมือใหม่ก็เข้าใจได้ง่าย
FlowAccount เป็นกลุ่มสตาร์ทอัพที่น่าจับตามองอีกหนึ่งเจ้าของไทย เพราะแน่นอนว่าเรื่องของบัญชีนั้นย่อมเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจทุกประเภทไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถทำบัญชีได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว FlowAccount จึงเป็นสื่อกลางที่จะมาช่วยเหล่าบรรดาสตาร์ทอัพที่อาจจะยังไม่มีงบสำหรับจ้างเจ้าหน้าที่บัญชี ให้สามารถจัดการเตรียมเอกสาร เสนอราคา วางบิล ได้อย่างง่ายดายและถูกต้องผ่านระบบออนไลน์
4. EpiBone เมื่ออนาคตเราสามารถสร้างกระดูกจากสเต็มเซลล์ของตัวเองได้
ถึงแม้จะดูอินเตอร์แต่ EpiBone สตาร์ทอัพแนว Biotech ที่ทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องการนำสเต็มเซลล์ของตัวเรามาสร้างกระดูกใหม่เพื่อทดแทนในส่วนที่เสียหายไปนั้นก็ก่อตั้งขึ้นโดยคนไทยอย่าง ดร. สารินทร์ ภูมิรัตน ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Bio-Medical Engineering จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ซึ่งถ้าหากงานวิจัยชิ้นนี้สำเร็จ แน่นอนว่าในอนาคตเราไม่จำเป็นที่ต้องใช้เหล็กหรือวัสดุอื่นๆในการดามกระดูกที่หักอีกต่อไป โดยแว่วๆมาว่าตอนนี้ EpiBone นั้นได้รับเงินลงทุนจาก BreakoutLab ที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal อีกด้วย
5. Local Alike เมื่อการท่องเที่ยวกลายเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือชุมชน
เป็นอีกหนึ่งสตาร์ทอัพมาแรงที่เพิ่งกวาดเงินรางวัลกว่า 11 ล้านบาทจากเวที Booking.com Booster ไปครองเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สำหรับ Local Alike สตาร์ทอัพที่มีแนวความคิดในการเปลี่ยนการท่องเที่ยวแบบธรรมดาๆให้กลายเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือชุมชน โดย Local Alike จะเน้นไปที่การขายทัวร์แบบลงพื้นที่ชุมชนเพื่อให้ชาวบ้านและผู้คนในชุมชนได้มีส่วนร่วมมากที่สุดโดยกำไรที่ได้จะกลับคืนสู่ชุมชนเป็นส่วนใหญ่และนักลงทุนเป็นส่วนรองเพียงเท่านั้น
ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
Facebook: Ananda Development
Instagram: ananda_development
Youtube: Ananda Development
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก: http://www.ahead.asia