NOTE:
– จากการคาดการณ์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพบว่า ในปี 2563 จะมีการใช้งานชิ้นส่วน RFID กว่า 5 หมื่นล้านชิ้น
– ในปี 2016 ที่ผ่านมา อินเดียถือเป็นประเทศอันดับต้นๆ ของโลกที่มีแนวโน้มในการเตรียมพร้อมที่จะใช้พลังงานทดแทนอย่างพลังงานแสงอาทิตย์
ด้วยวิถีชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน ส่งผลให้มนุษย์ชาวเมืองทั้งหลายต่างตัดสินใจเลือกอยู่อาศัยใน “คอนโดมิเนียม” แทน “การอยู่บ้าน” แบบในสมัยก่อน เนื่องด้วยข้อดีของคอนโดที่มักจะตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งความเจริญเช่น โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า รถไฟฟ้า ทางด่วน และย่านสำคัญๆ เป็นหลัก จึงทำให้เอื้อต่อวิถีชีวิตที่เร่งรีบได้มากกว่าการอยู่บ้านที่ต้องเผชิญกับปัญหารถติดและอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย
และด้วยอุปสงค์ของผู้บริโภคที่มีมากขึ้น จึงทำให้เจ้าของโครงการหลายๆเจ้าต่างแข่งขันกันสร้างคอนโดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อ ซึ่งนอกจากทำเลที่ตั้ง และชื่อเสียงของโครงการแล้วนั้น นวัตกรรมก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยทำให้คุณภาพของลูกบ้านนั้นดีขึ้น
วันนี้เราจะพาชาว Gen-C ไปอัพเดตถึงเทรนด์นวัตกรรมในอนาคตของคอนโดว่าขณะนี้และในอนาคตจะมีแนวโน้มเป็นอย่างไร และจะเกิดขึ้นได้จริงแค่ไหน ไปชมกันเลยครับ
หมดยุค Key Card แต่เปลี่ยนเป็นการใช้ RFID เข้าคอนโดแทน
ปัจจุบันคอนโดหรือหอพักหลายๆ ที่นิยมใช้ระบบ Key Card (คีย์การ์ด) ในการยืนยันตัวตนสำหรับเข้า–ออก แต่ในหลายๆ ครั้งระบบคีย์การ์ดเองก็ไม่ได้สะดวกต่อผู้ใช้สักเท่าไหร่ ยิ่งเฉพาะเวลาที่ถือของเยอะๆ แล้วต้องมาควานหาคีย์การ์ดหน้าทางเข้านับเป็นอะไรที่ยุ่งยากแบบสุดๆ
ด้วยเหตุนี้เองหลายๆ โครงการจึงเริ่มเปลี่ยนไปใช้ระบบ RFID (Radio frequency identification) ที่ทำหน้าที่คล้ายๆ กับบัตร Easy Pass ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กล่าวคือเราไม่จำเป็นที่จะต้องหยิบบัตรออกมาเพื่อแตะที่ประตูทางเข้าอีกต่อไป เพราะระบบ RFID นี้จะใช้คลื่นวิทยุในการระบุสิ่งต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ
Solar Energy พลังงานทางเลือกที่ไม่มีวันหมด
Solar Energy หรือ พลังงานแสงอาทิตย์ นับเป็นอีกหนึ่งพลังงานทางเลือกที่มีแนวโน้มเติบโตเป็นอย่างสูง เนื่องจากประเทศของเราที่มีแสงแดดแผดเผาแทบตลอดทั้งปี การติดตั้งแผงโซลาร์เพื่อนำพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องไฟฟ้าและลดการใช้พลังงานได้เป็นอย่างดี
ปัจจุบันหลายๆโครงการเริ่มนำพลังงานแสงอาทิตย์มาประยุกต์ใช้กับตัวโครงการบ้างแล้ว เช่น บริเวณทางเดินหน้าโครงการ เป็นต้น ซึ่งในอนาคตอาจพัฒนาไปถึงขั้นการกักเก็บเป็นพลังงานสำรองเพื่อทดแทนในวันที่ไฟฟ้าขัดข้องก็ย่อมเป็นไปได้
Smart Home
Smart Home เป็นแนวคิดอันชาญฉลาดอันมาจากการที่ทุกอย่างภายในบ้านสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ ผ่านการควบคุมที่ง่ายและอำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัย เช่นการสั่งการเปิด–ปิดไฟหรือแอร์ในห้องผ่านสมาร์ทโฟน ทำให้เวลาที่เดินทางมาถึงห้องก็มีอุณหภูมิที่เย็นพอดี ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีคอนโดหลายๆ ที่นำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Auto Parking ระบบจอดรถยนต์อัตโนมัติ
อันนี้มีใช้บ้างแล้วในปัจจุบันแต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่อาจกลายเป็นมาตรฐานสำหรับคอนโดทุกแห่งในอนาคต โดย Auto Parking หรือ ระบบจอดรถยนต์อัจฉริยะนั้นถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องพื้นที่จอดรถไม่เพียงพอ ซึ่งในอนาคตระบบนี้อาจถูกพัฒนาให้ชาญฉลาดและรวดเร็วมากกว่าปัจจุบันได้อย่างแน่นอน
Application เพื่อส่วนกลาง
ในยุคที่ทุกคนมีสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง จึงไม่แปลกที่จะมีการวางระบบส่วนกลางให้เข้าถึงได้ง่ายผ่านระบบ Application จากเดิมที่ต้องคอยโทรถามและติดตามความเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็น การแจ้งซ่อม, การติดต่อนิติ, การดูข่าวสารประชาสัมพันธ์ของคอนโด หรือ การชำระค่าส่วนกลาง เป็นต้น
ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
Facebook: Ananda Development
Instagram: ananda_development
Youtube: Ananda Development###
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก: www.estopolis.com