NOTE:
- จากข้อมูลของ Nielsen เปิดเผยว่า คนฟังเพลงผ่านมิวสิคแอปพลิเคชั่นในปี 2559 ถึงร้อยละ 88
- McKinsey Report คาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีผู้ใช้ “มิวสิค สตรีมมิ่ง” ในเอเชียสูงราวๆ 64 ล้านคน คิดเป็นการเติบโตร้อยละ 13.5
ในยุคออนไลน์ที่อินเตอร์เน็ตเข้าถึงแทบทุกพื้นที่ในโลกแบบนี้ ทำให้เทรนด์การฟังเพลงแบบ “มิวสิค สตรีมมิ่ง” หรือการฟังออนไลน์นั้นมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นในทุกๆปี ในบ้านเราก็เช่นกันที่ค่ายเพลงหลายๆค่ายเริ่มหันมาสนใจตลาดมิวสิคสตรีมมิ่งกันมากยิ่งขึ้น จะเห็นได้จากเหล่าบรรดาแอปมิวสิคสตรีมมิ่งรายใหญ่รายเล็กที่ผุดขึ้นกันเป็นว่าเล่น โดยมีทั้งแบบให้ฟังฟรีๆ และแบบที่ต้องเสียเงินซื้อ
วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 แอปฟังเพลงที่น่าสนใจให้ชาว Gen-C ลองโหลดไปใช้กัน มีอะไรบ้างนั้นไปดูเลย
1. JOOX
ถือเป็นแอปพลิเคชั่นมิวสิคสตรีมมิ่งอันดับ 1 ของบ้านเราในขณะนี้ ด้วยข้อดีที่มีเพลงมากมายหลายสัญชาติให้เลือก รวมไปถึงสัดส่วนของบริการเพลงที่ให้ฟังฟรียังมีเยอะกว่าแบบที่ต้องเสียเงิน จึงทำให้ผู้คนส่วนใหญ่นิยมโหลดแอปนี้เป็นแอปฟังเพลงสามัญประจำเครื่องกันแทบทุกราย
จุดเด่น
มีเพลงให้เลือกในคลังมากกว่า 5 ล้านเพลงจาก 200 ค่ายชั้นนำในไทย มีการทำเพลลิสต์ตามอารมณ์ของผู้ฟังออกมาให้เลือก เช่น เพลงกะดึก , ฟังไปเดินไป หรือ เพลงฮิตติดผับ เป็นต้น
สัดส่วนของเพลงที่สามารถฟังได้ฟรียังมีปริมาณมากกว่าเพลงที่ต้องเสียเงินฟัง(เติมVip)
นอกเหนือจากการเติมเงินเพื่อเป็น Vipแล้วนั้น เราสามารถแชร์เพลงที่ฟังลงในโซเชียลเพื่อรับสิทธิ์ Vipได้ 1 วันอีกด้วย สามารถโหลดฟังแบบออฟไลน์ได้
2. Tune in Radio
เป็นอีกหนึ่งแอปฟังเพลงที่ต้องมีติดเครื่องเอาไว้สำหรับ Tune in Radio เพราะเจ้าแอปตัวนี้จะเปรียบเสมือนศูนย์กลางที่รวบรวมคลื่นวิทยุดังๆจากทั่วทุกมุมโลกเอาไว้ภายในมือเรา ใครที่ไม่อยากพลาดการอัพเดตข่าวสารหรือเทรนด์การฟังเพลงจากต่างประเทศ ต้องมีติดเครื่องเอาไว้จริงๆ
จุดเด่น
- สามารถเลือกฟังเพลงจากคลื่นวิทยุดังๆได้ทั่วทุกมุมโลก
- มีฟังก์ชั่นแนะนำคลื่นยอดฮิตของแต่ละประเทศสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะฟังคลื่นอะไรดี
- สามารถย้อนกลับไปฟังประโยคที่พลาดไปได้ถึง 10 วินาทีก่อนหน้า
- บันทึกรายการโปรดไว้ฟังทีหลังได้
3. FREEdi Player for YouTube
ถ้าคุณเป็นอีกคนที่ชอบฟังเพลงจาก YouTube จะต้องพบกับปัญหาหนึ่งคือ เมื่อเรากดล็อคหน้าจอหรือกดเมนูอื่นๆเพลงที่เราฟังใน YouTube จะหยุดเล่นโดยอัติโนมัติ เจ้าแอปFREEdi Player for YouTube ตัวนี้ก็เลยตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะมันทำให้ YouTube สามารถเล่นได้ตลอดเวลาไม่ว่าเราจะทำอะไรกับโทรศัพท์ก็ตาม
จุดเด่น
- สามารถเล่นเพลงจาก YouTubeขณะทำอย่างอื่นไปด้วยได้
- สามารถเล่นคลิปจาก YouTube ที่จัดเป็นเพลย์ลิสต์ไว้ได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด
- สามารถโหลดไว้ฟังได้แบบออฟไลน์ภายในตัวแอป
4. Fungjai
“ฟังใจ” มีที่มาจากคำว่า “fungi (ฟังไจ)” แปลว่าสิ่งมีชีวิตจำพวกเห็ด รา และยีสต์ ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ เปรียบได้กับดนตรีซึ่งมีทั้งความหลากหลายในแนวเพลงที่บางครั้งต้องตั้งใจเสาะแสวงหาและส่งต่อท่วงทำนองผ่านทางอากาศเพื่อให้เราได้รับฟัง
จุดเด่น
สามารถฟังได้ทั้งในแอปหรือฟังออนไลน์ได้บนเว็บ fungjai.com เต็มไปด้วยเพลงจากศิลปินค่ายเล็กๆที่บางทีเราอาจจะไม่รู้จักมาก่อนเพราะไม่ได้โปรโมทในระดับมหาชน มีการทำเพลลิสต์ตามอารมณ์ของผู้ฟังเช่นเดียวกันกับ JOOX เช่น เห็ดฮิตติดทางด่วน, โสดข้ามปี และ รักไม่ชัดเจน เป็นต้น อินเตอร์เฟซสวยงาม มีความแนวเหมาะกับวัยรุ่น
5. LINE Music
หลังจากที่ผลักดันให้ Line TV ติดตลาดไปเรียบร้อยแล้ว ล่าสุดแอปพลิเคชั่นแชตยอดนิยมในประเทศไทยอย่าง Line ก็มีบริการมิวสิคสตรีมมิ่งให้ฟังเช่นกัน
จุดเด่น
- มีเพลงครอบคลุมเกือบทุกค่ายชั้นนำในประเทศไทย
- ค่าบริการต่อเดือนถือว่าถูกกว่าเจ้าอื่น
- สามารถแบ่งปันเพลงที่ชอบผ่านโปรแกรม Line ได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นในห้องสนทนาหรือหน้า Timeline
ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
IG: Ananda_developement
FB: Ananda.pcl
YouTube: Ananda Development
