7 หนังสงครามจากเรื่องจริง บทเรียนเมื่อเราไม่มีสันติภาพ

21 กันยายนคือวันสันติภาพโลกเพื่อกระตุ้นเตือนให้มนุษยชาติได้ยุติการใช้ความรุนแรงต่อกัน และหันหน้ามาแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยวิธีทางการทูตแทน ก่อนที่โลกเราจะเห็นคุณค่าของสันติภาพ เราได้ผ่านสงครามโลกมาถึง 2 ครั้งและมีสงครามในภูมิภาคต่างๆ อีกมากมายซึ่งทุกสงครามต่างส่งผลไม่ต่างกันคือความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินต่างๆ ลองย้อนกลับไปช่วงเวลาแห่งสงครามผ่านหนังน่าดู 7 เรื่องที่สร้างจากเหตุการณ์จริง แล้วเราจะรู้ว่าสันติภาพสำคัญเพียงใด

1917

หนังสงครามย้อนยุคของแซม เมนเดส ที่เล่าถึงการรบของกองทัพสัมพันธมิตรและฝ่ายเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 1 ในพื้นที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อทหารหนุ่มสองนายได้รับคำสั่งเสี่ยงตายให้ไปแจ้งข่าวกับกองทัพอังกฤษที่อยู่อีกฟากหนึ่งของสมรภูมิ หากพวกเขาทำไม่สำเร็จหรือไปไม่ทันเวลา ทหารนับพันตายต้องสังเวยชีวิตให้กับกลศึกจากฝั่งเยอรมัน แต่อุปสรรคคือพวกเขาต้องฝ่าสนามรบที่ดุเดือดได้ หนังใช้เทคนิค Long Take ถ่ายแบบยาวให้เราได้ติดตามเรื่องราวได้อย่างไม่มีสะดุด รวมถึงภาพและเสียงก็อยู่ระดับสุดยอด

Pearl Harbor

หนังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริงในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2  เมื่อกองทัพญี่ปุ่นได้บุกถล่มฐานทัพสหรัฐที่อ่าวเพิร์ลฮาเบอร์ ส่งผลให้กำลังพลและยุทโธปกรณ์ของสหรัฐสูญเสียไปเป็นจำนวนมาก และนั่นคือฟางเส้นสุดท้ายที่ชักนำให้สหรัฐเข้าร่วมสงคราม หนังเล่าเรื่องในแบบรักสามเส้าของสองทหารหนุ่มและพยาบาลสาว โดยมีฉากหลังเป็นไฟสงครามที่กำลังโหมกระหน่ำ ถือเป็นหนังที่มีทั้งฉากรบและฉากรักอันน่าตราตรึงใจ โดยเฉพาะฉากถล่มฐานทัพที่อลังการและสมจริงมาก

Midway

หนังสร้างจากอีก 1 ยุทธการจริงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเป็นเหตุการณ์ที่สืบเนื่องมาจาก การถล่มอ่าวเพิร์ลฮาเบอร์ โดยคราวนี้เป็นกองทัพสหรัฐที่ตอบโต้กองทัพญี่ปุ่น ยุทธการนี้เป็นการรบแบบ 360 องศาซึ่งมีการประทะกันทั้งเครื่องบิน เรือรบ และเรือดำน้ำ หนังก็ทำได้อย่างมันส์สะใจ เสมือนเราได้เข้าไปอยู่ในสถานการณ์สงครามแบบเต็มรูปแบบสมจริง แถมยังมีเอฟเฟคแบบแฟนตาซีเสริมความสนุกขึ้นอีกขึ้น ใครมองหาหนังสงครามโลกดีๆ สักเรื่อง ไม่ควรพลาด

Schindler’s List

ตำนานหนังที่สะท้อนความโหดร้ายได้ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง แม้ว่าหนังจะไม่ได้ฉายภาพการรบแบบเต็มๆ เหมือนเรื่องอื่น แต่สิ่งที่ผู้ชมจะได้รับคือ ความหดหู่และความเมตตาที่มนุษย์สามารถหยิบยื่นให้กัน เมื่อนักธุรกิจที่เคยแต่แสวงหากำไรได้หันกลับมาช่วยเหลือชีวิตของเชลยขาวยิวที่กำลังจะถูกสังหารหมู่ด้วยน้ำมือกองทัพนาซี ไม่ใช่แค่เรื่องราวเท่านั้น หนังยังถือว่าขึ้นหิ้งในการลำดับเรื่องและการถ่ายภาพจนกลายเป็นตำราให้ผู้สนใจศิลปะบนแผ่นฟิล์มได้ศึกษากันเลยทีเดียว นี่คือหนังที่คุณควรดูอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต

Dunkirk: หนังที่จากเหตุการณ์จริงในสงครามโลกครั้งที่ โดยเล่าถึงยุทธการดันเคิร์กเมื่อทหารกว่า 400,000 นายถูกปิดล้อมอยู่ที่หาดดันเคิร์ก เมืองคาเลส์ ประเทศฝรั่งเศส และในช่วงก่อนจะเพลี่ยงพล้ำนั้น ก็มีเรือของชาวบ้านจำนวนมหาศาลมาช่วยขนทหารเหล่านี้ผ่านช่องแคบอังกฤษและไปตั้งหลักใหม่ได้ ดันเคิร์กเป็นผลงานของผู้กำกับชั้นอ๋องของวงการอย่างคริสโตเฟอร์ โนแลน เล่าผ่าน 3 เส้นเรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กันในสมรภูมิก่อนจะมาบรรจบกันในท้ายที่สุด แม้ว่าหนังจะไม่มีระเบิดตูมตามมากนัก แต่ความกดดันของสงครามก็ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างทรงพลัง

Platoon

หนังสงครามในตำนานจากฝีมือของโอลิเวอร์ สโตน เล่าเรื่องราวความหดหู่ของสงครามเวียดนามออกมาได้อย่างน่าสะเทือนใจ อย่างที่เราทราบกันว่าสงครามเวียดนามคือบาดแผลที่ใหญ่หลวงในประวัติศาสตร์ของกองทัพสหรัฐ และเรื่องราวความเลวร้ายที่เกิดขึ้นก็ถูกหยิบมาเล่าอย่างไม่รู้จักจบสิ้น Platoon เน้นการเล่าเรื่องแบบสมจริง ไม่ยกย่องฝ่ายใดเป็นพระเอกหรือผู้ร้ายแต่เป็นเพราะสงครามที่ทำให้มนุษย์ต้องมาห้ำหั่นกันอย่างน่าหดหู่ สุดท้ายตัวเอกจะถูกไฟสงครามกลืนกินจิตใจไปหรือไม่ ต้องลองไปดูกัน

Hacksaw Ridge

หนังที่พาเมล กิ๊บสันให้กลับมาเป็นที่ยอมรับในวงการอีกครั้งหลังจากเงียบหายไปนาน และโปรเจ็คต์นี้ถูกพัฒนาถึง 14 ปีก่อนจะสำเร็จออกมาได้ และมันก็เป็นมาสเตอร์พีซของผู้กำกับรายนี้ไปเลยด้วย หนังเล่าเรื่องของ นายทหารผู้หนึ่งที่ได้รับเหรียญกล้าหาญจาก ประธานาธิบดีทรูแมน หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง เนื่องจากเขาเป็นทหารแนวหน้าเพียงคนเดียวที่ไม่ยอมถืออาวุธและเลือกช่วยเหลือเพื่อนทหารที่ได้รับบาดเจ็บแทน และนี่คือเรื่องราวของวีรบุรูษตัวจริงคนหนึ่งที่โลกควรได้รับรู้ ว่าเขาสามารถช่วยผู้คนมากแค่ไหนโดยไม่มีพลังพิเศษ

 

 

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top