8 เทคนิคการจัดห้องให้ลูก

การตกแต่งห้องให้กับลูกน้อยถือเป็นความนสนุกและความท้าทายของพ่อแม่ไม่น้อยเลยทีเดียว แน่นอนว่าเราอยากให้ห้องนี้ถูกใจลูกๆ และในขณะเดียวกันห้องนี้ก็ต้องเสริมพัฒนาการของเขา เป็นทั้งที่เล่นและที่พักผ่อน ที่ๆ เขาจะใช้เวลาเพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยความสนุกและปลอดภัย และสร้างความทรงจำดีๆ มากมาย หากใครอยากจะได้เทคนิคในการแต่งห้องให้ลูกๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ลองลดสายตาลงไปดู 8 เคล็ดลับที่ใช้ได้ผลจริงด้านล่างนี้เลย

หัวใจหลักคือความเรียบง่าย

หากเราจะสร้างห้องเด็กๆ ดีสักห้องหนึ่ง สิ่งแรกคือไม่ต้องคิดอะไรให้มันซับซ้อน หลักการน้อยแต่มากคือหัวใจของห้องนี้ อย่าลืมว่าพวกเขาคือเด็ก และพวกเขาต้องการพื้นที่สำหรับสร้างสรรค์ เล่น และปลดปล่อยจินตนาการ และในระหว่างนั้นพวกเขาก็จะได้เรียนรู้จากการลองผิดลองถูก อย่าใส่เฟอร์นิเจอร์หรือตกแต่งอะไรจนแน่นเกินไป แค่เตียงนอน ตู้เก็บของ โต๊ะ และของเล่นเยอะๆ สุดท้ายมอบที่ว่างให้เขาแล้วเขาจะเปลี่ยนมันเป็นห้องแสนสุขเอง

อยากเล่นต้องได้เล่น

เด็กและของเล่นคือสิ่งที่เกิดมาคู่กัน และหากคุณทำห้องให้เขาก็ย่อมควรให้เขาได้เล่นตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นของเล่นเสริมทักษะต่างๆ ของเล่นแขวนบนเพดานที่ดูเพลินๆ คุณอาจจะมีชิงช้าเล็กๆ สักตัวให้เขาไกวได้เพลินๆ กระโจมแบบอินเดียแดง เต็นท์เล็กๆ สำหรับนักผจญภัยตัวน้อย อาจจะมีกำแพงที่เขียนแล้วทำความสะอาดได้ง่าย กำแพงที่ปีนป่ายได้ หรืออ่างลูกบอลเล็กๆ บอกเลยว่าพวกเขารักห้องนี้แน่นอน

สร้างที่ว่างให้มากที่สุด

อย่างที่เราบอกยิ่งมีที่ว่างมากเท่าไหร่ เด็กๆ ก็จะมีพื้นที่เรียนรู้และสร้างสรรค์มากเท่านั้น ฉะนั้นคงเป็นหน้าที่เราที่จะจัดรูปแบบห้องให้ตอบโจทย์มากที่สุด คุณอาจจะใช้เตียงแบบยกสูงเพื่อเพิ่มพื้นที่ด้านล่างสำหรับวางโต๊ะนั่งเล่น หรือโต๊ะทานขนม ส่วนเตียงที่ยกสูงก็ยิ่งทำให้เด็กๆ ตื่นเต้นในการปีนป่ายอีก แต่เราไม่แนะนำให้คุณติดตั้งเฟอร์นิเจอร์แบบพับหรืออะไรที่เข้าใจยากๆ เพราะพวกเขาอาจจะยังใช้มันไม่ได้อย่างเต็มที่

เผื่อที่เก็บของให้แบบจุใจ

เด็กๆ มีของกี่ชิ้นกันนะ คำตอบคือนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นของเล่น หนังสือ ตุ๊กตา และสิ่งต่างๆ ที่เขาชอบ หากนึกดีๆ พวกเราเองก็คงมีช่วงหนึ่งที่สะสมของทุกอย่างที่ขวางหน้าเหมือนกัน และกว่าจะตัดใจทิ้งอะไรไปได้ก็ตอนโตแล้ว นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าห้องของเด็กๆ ควรมีที่เก็บของแบบเหลือกินเหลือใช้ไว้เลย เพราะของๆ เขาจะเพิ่มขึ้นทุกวันไปช่วงใหญ่ๆ เชียวล่ะ เราสามารถสร้างที่เก็บของไว้ใต้เตียง สร้างชั้นวางติดผนัง หรือมีที่เก็บของแบบเหนือหัวขึ้นไปก็ได้แต่ต้องมั่นใจในความปลอดภัยนะ

สีสันต้องสดใสสุดปัง

เด็กๆ ชอบสีสัน ฉะนั้นอย่าลังเลที่จะออกแบบธีมห้องของเขาให้มีสีที่โดดเด่นชัดเจน แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพียงแต่อย่าลืมว่าความชอบของเด็กๆ นั้นไม่อยู่นิ่ง สีที่เขาเคยโปรดปรานในวันนี้ ต่อไปอาจจะไม่ใช่แล้วก็ได้ เราจึงต้องคิดเรื่องในเรื่องการเปลี่ยนสีไว้ด้วย หรือหากไม่อยากต้องเปลี่ยนบ่อยๆ ลองแต่งห้องแบบหลากสีแต่ต้นไปเลย อย่างน้อยก็น่าจะมีสีที่ชอบให้เขาได้ชื่นใจบ้างล่ะน่า

ลวดลายต้องเข้ากัน

ในทางตรงข้ามกับการใช้สีสัน คุณอาจจะออกแบบห้องของเด็กๆ โดยใช้แค่ลวดลายเล็กๆ น้อยๆ แต่ดูเข้ากันได้ดีแทน พยายามใช้รูปแบบและพื้นผิวที่กลมกลืนกัน ไม่ทำให้มีจุดใดจุดหนึ่งของห้องแปลกแยก ภาพรวมของห้องนิยมใช้เป็นสีขาว สะอาดและบริสุทธิ์ ทำให้เราเห็นได้ด้วยว่ามีตรงไหนสกปรก และฝึกให้เขารักษาความสะอาดไปในตัว และส่วนของลวดลายตกแต่งให้ยึดหลักน้อยแต่มากเท่านั้นก็เพียงพอ

มีอะไรให้ทำจุกจิกอยู่เสมอ

เด็กๆ มักไม่อยู่นิ่งเฉย และเราก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้นด้วย พวกเขาควรได้ขยับร่างกายและฝึกทักษะกับสิ่งต่างๆ คุณอาจจะสร้างมุมทำงานเล็กๆ ไว้ เพื่อให้เขาได้ทำสิ่งต่างๆ เช่น ระบายสี ทำงานฝีมือ เขียนไดอารี่ หรือทำการบ้านอะไรเล็กๆ น้อยๆ เชื่อเถอะว่าพวกเขามีอะไรที่อยากทำมากกว่าที่เราคิดเยอะ

อย่าลืมมุมพักผ่อนสุดฟิน: สุดท้ายห้องนอนก็ต้องทำหน้าที่ของมัน นั่นคือเป็นที่สำหรับพักผ่อน ไม่ใช่แค่เตียงนอนเท่านั้น อย่าลืมจัดมุมสำหรับให้เขาได้ใช้เวลาส่วนตัวแบบสบายๆ เช่น อ่านหนังสือที่ชอบ มุมสำหรับงีบหลับฝันหวาน หรือมุมสำหรับขนมจานโปรด อาจจะที่นั่ง หรือเบาะนุ่มๆ อะไรก็ได้ที่ทำให้เจ้าตัวน้อยรู้สึกว่า เขาได้หลบออกจากความวุ่นวายในโลกนี้สักชั่วขณะหนึ่ง

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top