NOTE:
– ปี 2018 อิทธิพลของ Live จะเพิ่มมากขึ้นและเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่สามารถเรียกยอดจาก Facebook ได้เมื่อเทียบกับการลง Video ปกติ
นับจากปีที่แล้วที่เราได้เห็นข่าวการทยอยปิดตัวลงของสื่อสิ่งพิมพ์แบรนด์ยักษ์หลายค่ายลงไปหลายแห่ง จนกระทั่งเกิดระบบการนำเสนอข้อมูลคอนเท้นท์รูปแบบใหม่ในรูปแบบออนไลน์ เกิดเป็นความก้าวหน้าที่ทำให้คนทั่วไปอยู่ใกล้และส่งสารหากันง่ายขึ้นจนกระทั่งก่อตัวเป็นเทรนด์ทางการตลาดออนไลน์ และมีแนวโน้มว่าปี 2018 จะยิ่งทรงอิทธิพล จะมีรูปแบบใดบ้าง ตามมาดูครับ
1. ให้ความสำคัญกับ Engage
Engage คืออะไร คนที่ทำดิจิตอลหลายคนยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ แต่หลังจากที่ Facebook ปรับลด Reach มาเป็นระลอก คุณคงได้ทำความเข้าใจกับมันมากขึ้น Engage คือเครื่องบ่งชี้การมีปฏิสัมพันธ์กับหน้าเพจของคุณในรูปแบบต่างๆ ทั้ง Like,comment,share หากทำคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ มีคุณภาพ ตรงกลุ่มเป้าหมาย สร้างการมีส่วนร่วม มี Engagement ให้มาก เพื่อทำให้เพจได้รับผลกระทบจากการลด Reach ให้น้อยที่สุด
2. ลอง Live ใน YouTube, Instagram, Twitter ดูบ้าง
ช่วงปลายปีที่ผ่านมา เราเห็นหลายๆแบรนด์เริ่มใช้ Live กันมากขึ้น นั่นเป็นเครื่องมือในการสร้าง engage ที่ดี แต่อย่าลืมว่าใครๆ ก็สามารถ Live ได้ จริงๆ แล้ว Live ยังมีในแพลตฟอร์มอื่น อาทิ YouTube, Instagram, Twitter ด้วยเช่นกัน เราควรจะศึกษาและทดลองประสบการณ์ใหม่ๆ
3. สร้างจุดแตกต่างของคอนเทนต์
หลายแบรนด์หันเหทิศทางการนำเสนอคอนเท้นท์ในรูปแบบใหม่เน้นไลฟ์สไตล์มากขึ้นเพื่อใช้ในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายมาสนใจ เนื่องจากคอนเท้นท์มีคุณภาพมากกว่า แต่สุดท้ายเมื่อหลายๆ แบรนด์หันมาทำแนวนี้กันมากขึ้น ทำให้เราต้องพยายามหนีความจำเจแบบเดิมๆ จนกระทั่งคนเลิกเสพคอนเทนท์ในรูปแบบคล้ายๆ กัน
4. Influencer ก็มีส่วน
จากเดิมที่สื่อมักจะใช้ดาราที่มีชื่อเสียงหรือเป็นที่นิยมในการเป็นแบรนด์เอมบาสเดอร์ให้กับแบรนด์ ในยุคที่โลกเปลี่ยนไปกลายเป็น อินฟลูเอนเซอร์หน้าใหม่เกิดขึ้นมาแทนที่ ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาแบรนด์เชิงรีวิว ทำสปอนเซอร์ ทำให้บุคคลที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์เข้ามามีบทบาทสูง เพราะสามารถโน้มน้ามหรือแสดงให้เห็นการใช้งานของผลิตภัณฑ์อย่างตรงไปตรงมา
5.Back to Basic “content is king” ใช้ได้ผลเสมอ ไม่ว่าจะแพลตฟอร์มไหน
มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เลื่อนไปทางไหน เราจะเห็น feed โฆษณาของ Facebook เต็มไปหมด แต่สุดท้ายการปรับของ Facebook ก็เป็นแง่ดี ทำให้แบรนด์ต้องกลับมาที่การพัฒนาคอนเทนต์ให้น่าสนใจ ทำ Targeting ให้ดีขึ้น ไม่ใช่แค่ทำคอนเทนต์อะไรก็ได้แล้วหวังลงโฆษณาเพื่อให้คนสนใจ
6.คนจะซื้อ Application กันมากขึ้น
ใครเป็นบ้างที่เอาแต่โหลดฟรี ไม่ยอมเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อแอปฯ แต่ถ้ารูปแบบของแอปพลิเคชั่นนั้นมันเจ๋งจริงๆ คุณจะซื้อมั้ย ปี 2018 คาดการณ์กันว่า ผู้พัฒนาแอปจะยิ่งเพิ่มลูกเล่นและฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น นั้นยิ่งเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้งานที่ชอบจนยอมจ่ายเงินซื้อ
7. Service mind สร้างประสบการณ์ที่ดีโดยการเข้าใจลูกค้าให้มากที่สุด
อย่ามัวแต่พัฒนาเทคโนโลยี เพราะคุณอาจลืมเรื่องราวดีๆอย่างการเซอร์วิสให้กับลูกค้า ในปี 2018 ถือเป็นอีก 1คีย์ที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ เพราะการให้ความสำคัญในเรื่อง Customer Centric Experience การสร้างประสบการณ์ที่ดีโดยการเข้าใจลูกค้าให้มากที่สุด ซึ่งแบรนด์หรือธุรกิจต่างๆ ต้องปรับตัวและวิ่งตามให้ทันความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงเข้าไปแก้ไขปัญหาที่เกิดอย่างทันท่วงที
8. สมาร์ทโฟนยึดครองพื้นที่จากแลปท็อปมากขึ้น
ความน่ากลัวของเรื่องนี้คือเมื่อก่อนการทำงานบนแพลตฟอร์มสมาร์ทโฟนและแลปท็อปนั้นแยกกัน แต่ปัจจุบัน ด้วยความฉลาดและความสามารถรอบตัวของสมาร์ทโฟนในยุคนี้ ทำให้เราจัดการเรื่องต่างๆ บนมือถือได้เกือบทั้งหมด โดยเฉพาะยอดการเข้าชมและทำกิจกรรมบนโลกออนไลน์ที่จะมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
Facebook: Ananda Development
Instagram: ananda_development
Youtube: Ananda Development
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก http://www.cgdigitalacademy.com, https://thestandard.co