NOTE:
– มูลค่าของที่ดินบริเวณแนวรถไฟฟ้านั้นมีอัตราที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าร้อยละ 5 – 10ต่อปี
– ภายหลังจากการเปิดให้บริการ “โครงการรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงเตาปูน – บางซื่อ” ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พบว่ามีผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 50 หรือราวๆ 47,000 คนต่อวัน
– จากผลสำรวจของ BTSC พบว่าในปัจจุบันมีผู้ใช้งานรถไฟฟ้า BTS ราวๆ 8 แสนเที่ยวคน/วันธรรมดา และ 9 แสนเที่ยวคน/ในช่วงวันศุกร์ต้นเดือน ซึ่งอาจทะลุถึง 1.5 ล้านคน/วัน ในอีก 4 ปีข้างหน้า
ปฏิเสธไม่ได้ว่า “คอนโดใกล้รถไฟฟ้า” ถือเป็นหนึ่งในอสังหาฯที่มีแนวโน้มในการเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะด้วยวิถีชีวิตของผู้คนยุคนี้ที่เปลี่ยนไป รวมไปถึงการกระจายตัวของความเจริญจากเมืองหลวงสู่พื้นที่รอบนอกอันเนื่องมาจากการพัฒนาเส้นทางคมนาคมที่มีมากขึ้น จึงทำให้บรรดาเจ้าของโครงการหลายๆเจ้านิยมชูจุดเด่นเรื่องทำเลติดรถไฟฟ้าอันแสนสะดวกสบายมาเป็นจุดขาย จนทำให้คอนโดติดรถไฟฟ้าสมัยนี้ sold out ยกเฟสกันแทบทุกครั้ง
และด้วยความที่คอนโดถือเป็นอสังหาฯที่ค่อนข้างมีราคาสูงแต่ก็ยังมี คอนโดรถไฟฟ้าราคาไม่เกิน 3 ล้าน อยู่ไม่น้อย การตัดสินใจซื้อในแต่ละครั้งจึงจำเป็นที่จะต้องมีการประเมินความคุ้มค่าเพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ยิ่งโดยเฉพาะเหล่านักลงทุนที่มีการทำกำไรกับธุรกิจอสังหาฯประเภทคอนโดแล้ว จะต้องมีการศึกษารายละเอียดต่างๆให้รอบคอบอย่างถี่ถ้วนเพื่อให้คอนโดที่ซื้อเกิดกำไรสูงสุด ซึ่งในวันนี้เราได้นำเทคนิคการเลือกซื้อคอนโดใกล้รถไฟฟ้าอย่างไรให้ได้กำไรในระยะยาวมาฝากกัน ไม่ว่าชาวคอนโด Gen-C จะเป็นผู้ซื้อประเภทไหนก็สามารถนำประโยชน์จากบทความนี้ไปใช้ได้อย่างแน่นอนครับ
1.เลือกทำเลที่ตั้ง
หลายๆคนอาจหลงคารมไปกับคำว่า “คอนโดทำเลติดรถไฟฟ้า” แต่ถ้าหากลองพิจารณาดีๆแล้วเราจะเห็นถึงความแตกต่างของรถไฟฟ้าแต่ละสถานีอยู่พอสมควร โดยสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อในการเปลี่ยนเส้นทางไปยังรถไฟฟ้าสถานีอื่นๆได้อย่าง สถานีสยาม สถานีบางหว้า สถานีหมอชิต (เชื่อมต่อ MRT) และสถานีอโศก (เชื่อมต่อ MRT) นั้น จะมีความพลุกพล่านของผู้คนจนทำให้เกิดความเจริญของเศรษฐกิจโดยรอบ ซึ่งทำให้เราสามารถสร้างกำไรในยามที่ขายต่อได้ดีกว่าครับ
แต่ถ้าหากสู้ราคาคอนโดทำเลทองเหล่านั้นไม่ไหว การมองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้าที่มีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเช่น ใกล้ห้างสรรพสินค้า ใกล้โรงพยาบาล หรือใกล้สถานศึกษา ก็ย่อมเป็นอีกหนึ่งการสร้างคุณค่าให้กับอสังหาฯของเราในยามที่จะขายต่อเพื่อสร้างกำไรอีกเช่นเดียวกัน
2.เลือกชั้นและห้องให้ถูกจุด
เมื่อเลือกทำเลที่ถูกใจได้แล้ว การเลือกชั้นของห้องก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เราสามารถทำกำไรจากคอนโดได้อีกทาง โดยห้องที่ขายต่อได้ง่ายส่วนใหญ่มักจะเป็นห้องที่ไม่มีวิวบล็อค (วิวบล็อคคือห้องที่ถูกบดบังทัศนียภาพจากอาคาร ต้นไม้ ทางด่วน ฯลฯ) สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกได้โดยรอบ รองลงมาก็จะเป็นห้องที่มีทิศทางของลมและแสงแดดที่ดี ไม่ร้อนอบอ้าวจนเกินไป (ควรหลีกเลี่ยงห้องที่ติดกับฝั่งทิศตะวันตกเพราะจะร้อนมากๆ)
3.เลือกห้องที่มีความ Unique
การจะทำกำไรในระยาวนั้น ควรเริ่มต้นจากการมองหาห้องที่มีความเป็น Unique ตั้งแต่ช่วงจอง ไม่ว่าจะเป็น มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่ม มีระเบียงที่กว้างขึ้น มีหน้าต่างเพิ่มเนื่องจากอยู่ริมสุด อยู่ใกล้บันไดหนีไฟ สามารถเดินไปสระว่ายน้ำได้อย่างสะดวก ฯลฯ ซึ่งห้องที่มีคุณลักษณะพิเศษเหล่านี้จะเป็นที่ต้องการของผู้ซื้ออย่างแน่นอนครับ
4.เลือกแบรนด์
เชื่อหรือไม่ว่าแบรนด์ของคอนโดก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่ต่างคำนึงถึงอยู่ไม่น้อย เพราะดีเวลลอปเปอร์แต่ละเจ้าก็มีจุดเด่นและจุดขายที่แตกต่างกันไป ซึ่งชาว Gen-C ควรเลือกซื้อคอนโดกับดีเวลลอปเปอร์ที่ไว้ใจได้ มีมาตรฐานในการเลือกใช้วัสดุ รวมไปถึงมีการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆที่เอื้อประโยชน์ต่อผู้อยู่อาศัยอยู่เสมอ จึงจะทำให้คอนโดของเราสามารถขายต่อและทำกำไรได้ในระยะยาวนั่นเองครับ
5. เลือกที่งบประมาณ
ข้อสุดท้ายคือการเลือกคอนโดใกล้รถไฟฟ้าที่งบประมาณของเราถึงและคิดว่าไม่แพงจนเกินไปถ้าหากจะขายต่อ เพราะคอนโดที่มีราคาสูงเกินไปอาจทำให้เราต้องตั้งหน้าตั้งตาผ่อนจนไม่มีเงินเหลือไว้ใช้ทำอย่างอื่นที่สร้างความสุขให้แก่ชีวิต และยิ่งถ้าหากคิดถึงการปล่อยเช่าหรือขายต่อในอนาคต พวกคอนโดที่มีราคาสูงมากๆถ้าตัวห้องและทำเลที่ตั้งไม่เป็นที่ต้องการของตลาดจริงๆก็อาจเสี่ยงต่อการขาดทุนได้อย่างแน่นอน
ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
Facebook: Ananda Development
Instagram: ananda_development
Youtube: Ananda Development