NOTE
– สาเหตุหนึ่งที่มินิมอลได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญีปุ่น อาจเป็นเพราะค่านิยมเรื่องของการประหยัดที่ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ประกอบกับที่อยู่อาศัยของชาวญีปุ่นมีพื้นที่ไม่มาก หากมีของเยอะ ก็จะจัดให้ลงตัวได้ยาก ดังนั้นการมีของน้อยชิ้นและมีเฉพาะที่จำเป็นจึงเป็นเรื่องดีกว่า รวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้ชาวญีปุ่นเองรู้สึกไม่มั่นคง จึงหันมาประหยัดและทำให้ชาวญีปุ่นส่วนใหญ่กลายเป็น Minimalist โดยธรรมชาติ
“Less is more” คือคำจำกัดความที่ดีที่สุดของความเป็น “Minimal” มินิมัลคือการแต่งน้อยๆ แต่ดูอิมแพคและน่าสนใจ โดยใช้สีสันเรียบๆ อาทิ สีขาว เทา ดำหรือเอิร์ธโทน
จริง ๆ แล้ว หลักการของมินิมอลคือการประหยัด การไม่มีของที่ไม่จำเป็นหรือเกินความจำเป็น ดังนั้นหากเราเจออะไรก็ตามที่โชว์ความมินิมอล แต่เพื่อเน้นการจูงใจให้ซื้อ โดยยึดเรื่องของความสวยงามเป็นหลัก นั่นคือแฟชั่นที่นำรูปแบบของมินิมอลมาเป็นจุดขาย ไม่ใช่หลักการมินิมอลจริง ๆ
มินิมอลคือการจัดการกับ “ความสำคัญ”
คือการทิ้งสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิต ในกลุ่มคนที่ยึดหลักมินิมอลแบบแน่วแน่ จะเหลือทิ้งไว้เพียงสิ่งที่สำคัญจริง ๆ เท่านั้น อย่างในการแต่งบ้านของชาวมินิมอล ของตกแต่งกระจุกกระจิกจะถูกนำออกไป เหลือไว้แต่ชิ้นใหญ่ที่ใช้จริงเท่านั้น หลักการแบบมินิมอลจะสอนให้คุณรู้จักแยกแยะว่าอะไรสำคัญ สิ่งใดคือความจำเป็น
Minimalist กับ การประหยัด
หากมองไปในเรื่องของการตกแต่งคอนโด หรือบ้านเพียงอย่างเดียว จะพบว่าการแต่งห้องสไตล์มินิมอล จะใช้ของน้อยชิ้น และจะมีเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่สำคัญเท่านั้น ยิ่งเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นได้ยิ่งดี ที่สำคัญเมื่อวางแล้วต้องดูไม่รก มีพื้นที่ว่างเยอะ ๆ การซื้อของเข้าบ้านแต่ละชิ้นจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ และต้องตัดสินใจนาน เพราะถ้าหากซื้อเข้ามาแล้วไม่ได้ใช้ ก็จะกลายเป็นสิ่งของที่วางเอาไว้รกหูรกตาขัดกับคอนเซ็ปของมินิมอลได้
สไตล์มินิมอลนำมาใช้กับการเลือกคอนโดอย่างไร
1. พื้นที่คอนโดมีขนาดลดลง
ห้องคอนโดมีขนาดเล็กลงเนื่องจากราคาที่ดินที่สูงขึ้น และค่าก่อสร้างที่แพงขึ้น แต่รายได้และกำลังจ่ายของคนทั่วไปไม่ได้ขึ้นตามมาก การจะขายห้องขนาดใหญ่ก็จะทำให้ราคาห้องแพงขึ้น ห้องจึงต้องมีขนาดเล็กลงเพื่อให้สามารถขายในราคาเดิมได้ หลักการมินิมอลจึงมาในรูปแบบของการตกแต่งคอนโด โดยเลือกเฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็น หรือเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนไปตามการใช้งานได้ เป็นต้น
2. ในด้านการลงทุน
การลงทุน โดยเฉพาะการปล่อยเช่าคอนโด ห้องขนาดไม่ใหญ่จะปล่อยง่ายที่สุด ดังนั้นการแต่งห้องก็ต้องแต่งให้ห้องไม่ดูแคบจนเกินไป ที่สำคัญต้องใช้งบให้น้อยที่สุดเพื่อให้ได้กำไรสูงสุด เพราะค่าเช่าหากเราปล่อยสูงกว่าตลาดเกินไป ก็จะหาผู้เช่ายาก สไตล์การแต่งห้องแบบมินิมอลจึงน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะนอกจากจะช่วยลดการตกแต่งที่ไม่จำเป็นแล้ว การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่แพงเกินความจำเป็นจะช่วยลดปัญหาและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ในอนาคตด้วย
ทำไมมินิมอลลิส “Minimalist” จึงดูเหมือนจะเป็นภัยเงียบทางเศรษฐกิจ
เพราะการประหยัดเกินไปก็จะส่งผลกับระบบเศรษฐกิจได้เช่นกัน ลองคิดภาพว่าทุกคนเป็นมินิมอลลิส เราจะเห็นแฟชั่นเริ่มพากันตาย เทคโนโลยีหยุดการพัฒนา เพราะพัฒนาออกมาก็ขายไม่ได้ การผลิตต่างๆ เริ่มผลิตน้อยลง การจ้างงานก็จะลดลง ผู้คนก็จะว่างงานมากขึ้น ดังนั้น ณ จุดหนี่งของการเป็นมินิมอลลิส ก็ต้องมีมุมของบริโภคนิยมควบคู่ไปด้วย เพราะอะไรที่มันสุดโต่งมักจะให้ผลลัพธ์ด้านลบที่สุดโต่งด้วยเช่นกัน
สรุปแล้ว การเป็นมินิมอลลิสที่แท้จริงนั้น…ก่อปัญหากับระบบเศรษฐกิจอย่างแน่นอน อันที่จริงแล้วการประหยัดเป็นสิ่งที่ดีแต่ถ้าพากันประหยัดจนเกินไป ไม่เป็นผลดีอย่างแน่นอน เอาเป็นว่าการเป็น Minimalist ก็ควรจะเป็นให้ถูกต้อง เลือกประหยัดในบางส่วน เลือกบริโภคนิยมในบางส่วนน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
Facebook: Ananda Development
Instagram: ananda_development
Youtube: Ananda Development
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก: https://www.estopolis.com