NOTE:
– “Essential PH-1” คือสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่มีรอยแหว่งด้านบนของหน้าจอ เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 โดย “Andy Rubin” หนึ่งในอดีตผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการ Android
– จากผลสำรวจของ Canalys พบว่า “iPhone X” เป็นสมาร์ทโฟนที่ขายดีที่สุดประจำไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว โดยทำยอดขายไปทั้งสิ้นกว่า 29 ล้านเครื่อง
– “1.26 หมื่นล้านเหรียญฯ” คือจำนวนเงินลงทุนของบริษัท Samsung ในการใช้สร้างโรงงานเพื่อรองรับการผลิตหน้าจอ OLED ให้กับ iPhone X โดยเฉพาะ
หากยังคงจำกันได้เมื่อปี 2013 บริษัท Apple ได้เปิดตัวระบบรักษาความปลอดภัยรูปแบบใหม่ที่เรียกกันว่า “Fingerprint Sensor” (ระบบสแกนลายนิ้วมือ) บนสมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง iPhone 5S ก็ดูเหมือนว่าการรักษาความปลอดภัยโดยการสแกนนิ้วนั้นได้กลายเป็นมาตรฐานที่แบรนด์อื่นๆ ในท้องตลาดจะต้องใส่ในสมาร์ทโฟนมาให้ ซึ่งในปีที่ผ่านมาด้วยกระแสความแรงของ iPhone X กับหน้าจอที่มีรอยแหว่ง (รอยบาก) นี้เองก็ได้สร้างเทรนด์ใหม่ๆ ให้กับแวดวงสมาร์ทโฟนอีกครั้ง วันนี้เราจะพาชาว GenCBlog ไปดูกันว่า ณ ปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนจอแหว่งรุ่นไหนที่น่าซื้อบ้างครับ
Huawei P20 / P20 Pro
ราคาเปิดตัว: 19,990 บาท (P20) และ 27,990 บาท (P20 Pro)
เปิดตัวในบ้านเราไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับสมาร์ทโฟนสุดยอดเรือธงที่มีข่าวหลุดออกมาไม่เว้นแต่ละวันอย่าง “Huawei P20” และ “P20 Pro” ที่ครั้งนี้ยังคงชูจุดขายเหนือคู่แข่งด้วยการพัฒนาโมดูลกล้องถ่ายภาพร่วมกับแบรนด์ Leica พร้อมฆ่าสมาร์ทโฟนทุกรุ่นที่ออกมาก่อนหน้าด้วยการใส่กล้องหลังมาด้วยกันถึง 3 ตัว!!
“Huawei P20” และ “Huawei P20 Pro” จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.8 นิ้ว และ 6.1 นิ้วพร้อมจอแหว่งตามสมัยนิยม (ฝังเซนเซอร์ กล้องหน้าระบบ AI และลำโพงไว้ภายใน) แต่ทั้งนี้ด้วยความที่มีขอบหน้าจอที่บางจึงทำให้อัตราส่วนโดยรวมของหน้าจอต่อขนาดตัวเครื่องมีความกว้างสบายตาจนไม่รู้สึกว่ารอยแหว่งเป็นปัญหาต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันแต่อย่างใด (Huawei ได้ใส่ฟังก์ชั่น Hide Notch สำหรับปิดรอยแหว่งมาให้ด้วย)
และจุดเด่นที่ถ้าหากไม่พูดถึงคงไม่ได้นั่นคือกล้องหลัง Leica 3 ตัวที่มีอยู่เฉพาะใน Huawei P20 Pro ซึ่งประกอบไปด้วย เลนส์ RGB ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล, เลนส์ Monochrome ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และ เลนส์ Tele สำหรับถ่ายภาพมุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล จึงทำให้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้เก็บทุกรายละเอียดในภาพถ่ายได้อย่างคมชัดและยังสามารถซูมแบบออพติคัลจากชิ้นเลนส์โดยไม่ลดทอนความละเอียดได้มากถึง 3 เท่า นอกจากนี้ทาง Huawei ยังสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดตัวสีใหม่ Twilight ที่เป็นการไล่เฉดมิติในการเคลือบสีจนทำให้เกิดแสงสีที่ต่างกันเวลาพลิกเครื่องไปมาอีกด้วย
Vivo V9 (10,999 บ.)
ราคาเปิดตัว: 10,999 บาท
ถึงแม้จะชูจุดเด่นเรื่องกล้องหน้าที่ถ่ายเซลฟี่ได้สวยคมชัดกว่าเจ้าอื่นมาอย่างยาวนานแต่ก็ทนต้านทานกระแสจอแหว่ง ตอนนี้ไม่ไหว Vivo จึงได้ส่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด “Vivo V9” ที่มาพร้อมกับรอยแหว่งทางด้านบน (เช่นเดียวกับ P20) ที่ฝังกล้องหน้าความละเอียดสูง 24 ล้านพิกเซลพร้อมระบบ AI ช่วยถ่ายสุดอัจฉริยะเอาไว้
โดย Vivo V9 จะมาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 6.3 นิ้วแบบ FullView Display ที่ทำให้มีพื้นที่ในการแสดงผลเมื่อเทียบกับตัวเครื่องสูงถึงร้อยละ 90 อีกทั้งยังมีกล้องหลังแบบ Dual-Camera ความละเอียด 16 + 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 และด้วยความที่กล้องหน้ามีทั้งระบบ AI และความละเอียดสูงถึง 24 ล้านพิกเซล จึงทำให้ Vivo V9 มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้การสแกนใบหน้า (AI Face Access) เช่นเดียวกับแบรนด์สมาร์ทโฟนระดับเรือธงรุ่นอื่นๆ
OPPO F7
ราคาเปิดตัว: 10,990 บาท
เทรนด์หน้าจอแหว่งมาแบบนี้ มีหรือยักษ์ใหญ่แห่งวงการสมาร์ทโฟนของจีนอย่าง OPPO จะพลาด โดยได้เผยภาพบางส่วนของสมาร์ทโฟนตัวใหม่ที่มีหน้าจอแหว่งออกมาให้เหล่าสาวกได้ชมด้วยกันถึงสองรุ่นอย่าง “OPPO F7” และ “OPPO R15” (ประเทศไทยไม่ได้ทำตลาดกับตระกูล R แล้ว)
OPPO F7 จะมาพร้อมกับดีไซน์และรูปลักษณ์ตามสมัยนิยม (ตัวเครื่องบางเฉียง หน้าจอไร้ขอบ และมีรอยแหว่งด้านบน) โดยมีหน้าจอ Full HD+ กว้างถึง 6.2 นิ้ว ใช้อัตราส่วนที่แปลกหน่อยๆ 19:9 (ปัจจุบันนิยมใช้ 18:9) ซึ่งบริเวณรอยแหว่งของจอทางด้านบนนั้น OPPO ก็ได้ใส่เซ็นเซอร์และ AI ที่ช่วยในการถ่ายภาพของกล้องหน้าเอาไว้ภายใน ทั้งนี้แว่วๆ มาว่ากล้องหน้าของ OPPO F7 จะขยับเพิ่มไปเป็นความละเอียด 25 ล้านพิกเซลพร้อมใส่ลูกเล่น Realtime HDR และ AR Stickers มาให้อีกด้วย
iPhone X
ราคาเปิดตัว: 40,500 บาท
แม้จะไม่ใช่เจ้าแรกที่มีรอยแหว่ง (หรือเรียกกันว่ารอยบาก) ทางด้านบนของหน้าจอ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปิดตัวของ “iPhone X” ได้สร้างเทรนด์หน้าจอแหว่งให้กับสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆ ตามมาอีกมากมาย
ทั้งนี้เพราะ iPhone X คือสมาร์ทโฟนที่ถูกสร้างขึ้นมาเนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 10 ปีของ iPhone จึงทำให้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมจากทาง Apple ตั้งแต่การละทิ้งปุ่ม Home อันเป็นเอกลักษณ์ไปสู่การใช้จอ Touch Screen แบบ Super Retina HD ขนาด 5.8 นิ้วที่มีรอยแหว่งทางด้านบน ซึ่งทาง Apple เองก็ได้เผยสาเหตุที่ต้องเว้นแถบสีดำก็เพราะว่าได้ฝังบรรดาเซ็นเซอร์ต่างๆ อย่าง เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสง เซ็นเซอร์ตรวจจับระยะ อิลลูมิเนเตอร์มุมกว้าง อินฟาเรด ตัวฉายจุดแสง กล้องหน้า ไมโครโฟน และลำโพงเอาไว้ และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ iPhone X มีลูกเล่นเกี่ยวกับกล้องหน้าเพิ่มเข้ามามากมายไม่ว่าจะเป็นการปลดล็อคโทรศัพท์ด้วยใบหน้า (Face ID), การถ่ายภาพเซลฟี่ที่ให้แสงสีและความลึกที่สมจริงมากขึ้น (TrueDepth) รวมไปถึงการตรวจจับความเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบนใบหน้าเพื่อแปลงเป็นตัวการ์ตูน (Animoji) เป็นต้น
Essential Phone PH-1
ราคาเปิดตัว: 23,200 บาท (ปัจจุบัน 16,500 บาท)
ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่มีรอยแหว่งบนจอรุ่นแรกอย่างแท้จริงสำหรับ “Essential Phone PH-1” สมาร์ทโฟนจากบริษัทสตาร์ทอัพของ “Andy Rubin” อดีตผู้ร่วมทีมพัฒนาระบบปฏิบัติการ Android โดย Essential Phone PH-1 จะมาพร้อมกับจุดเด่นอย่างรอยแหว่งด้านบนของตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกว่าแบรนด์อื่นๆ รวมไปถึงการใช้วัสดุจำพวกเซรามิกกับตัวเครื่องก็ยิ่งทำให้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ดูหรูหราและแข็งแรงทนทานแบบสุดๆ ทั้งนี้ในปี 2018 ทางผู้ผลิตเองก็ได้เตรียมที่จะเปิดตัว Essential Phone PH-2 พร้อมปรับปรุงคุณภาพของกล้องถ่ายภาพให้สูสีกับแบรนด์สมาร์ทโฟนเรือธงอื่นๆ มากยิ่งขึ้น
เรียกได้ว่าไม่ได้จอแหว่งแค่เล่นๆ แต่มันมีเหตุผลทางด้านดีไซน์ที่มากกว่านั้น ซึ่งท้ายที่สุดแล้วก็ต้องขึ้นอยู่กับรสนิยมของผู้ใช้อย่างเราๆ ว่าสะดวกกับการใช้งานสมาร์ทโฟนแบรนด์ใดมากกว่ากันครับ
ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
Facebook: Ananda Development
Instagram: ananda_development
Youtube: Ananda Development
