NOTE:
– จากผลการสำรวจพบว่า “เมืองยูเทรกต์” ในประเทศเนเธอร์แลนด์มีจำนวนประชาชนที่ใช้จักรยานในการเดินทางสูงถึงร้อยละ 33 ซึ่งมากกว่าประชาชนที่ใช้รถยนต์ในการเดินทางเกือบ 2 เท่า (ร้อยละ 19)
– ปัจจุบันรัฐบาลในประเทศเนเธอร์แลนด์กำลังดำเนินการก่อสร้างจุดจอดจักรยานขนาดใหญ่ ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จเนเธอร์แลนด์จะกลายเป็นประเทศที่มีจุดจอดจักรยานใหญ่ที่สุดของโลกภายใต้ความจุ 12,500 คัน
– “สตราสบูร์ก” เป็นอีกหนึ่งเมืองในประเทศฝรั่งเศสที่มีการใช้จักรยานกันจนกลายเป็นวัฒนธรรม ทั้งนี้ถนนสำหรับนักปั่นภายในเมืองสตราสบูร์กจะครอบคลุมทั้งหมด 360 เส้นทางภายใต้ความยาวกว่า 536 กิโลเมตรเลยทีเดียว
เพราะด้วยจำนวนของถนนหนทางทั้งหลายนั้นมีอยู่อย่างจำกัดซึ่งสวนทางกับปริมาณของรถยนต์ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในทุกๆปี จึงทำให้หลายๆ ประเทศต่างประสบปัญหารถติดและที่จอดรถไม่เพียงพอตามมา ทั้งนี้ประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่จึงเลือกแก้ไขปัญหาด้วยการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้ครอบคลุมรวมไปถึงสร้างจิตสำนึกในการเดินทางด้วยพาหนะอื่นๆ ที่คล่องตัวและส่งผลกระทบต่อโลกน้อยกว่าอย่าง “จักรยาน”
“เนเธอร์แลนด์” ก็ถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่หน่วยงานรัฐได้รณรงค์ให้ประชาชนทุกคนใช้ระบบขนส่งสาธารณะรวมไปถึงพาหนะที่รักษ์โลกอย่าง “จักรยาน” ดังจะเห็นได้จากจำนวนจักรยานที่จอดเรียงรายอยู่ตามอาคารบ้านเรือน ไปจนถึงการพัฒนาทางสำหรับจักรยานโดยเฉพาะที่เชื่อมต่อกับทุกตรอกซอกซอยภายในเมือง จึงทำให้คนเนเธอร์แลนด์นิยมใช้จักรยานเป็นพาหนะหลักในการเดินทางไปไหนมาไหนจนกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว
แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนในเมืองที่จะมีจักรยานดีๆ เอาไว้ขี่เสมอไป “Swapfiets” โปรเจกต์เช่าจักรยานพร้อมดูแลรักษาให้ฟรีจึงถือกำเนิดขึ้นมาจากการเล็งเห็นช่องว่างเหล่านี้ของกลุ่มนักศึกษาแห่งเมือง Delft ซึ่งพวกเขาได้ทำการรีเสิร์ชข้อมูลผู้ใช้จนพบว่าปัญหาหลักส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาเร่งรีบที่ต้องใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาโซ่ขาด ยางแบน รถจักรยานหาย ไปจนถึงไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะซื้อจักรยานดีๆ สักคัน (ส่วนใหญ่เป็นพวกนักศึกษาที่งบน้อย)
ด้วยเหตุผลเหล่านี้เองพวกเขาจึงได้ผุดโปรเจกต์ “Swapfiets” ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของบรรดาชาวเมืองที่มีปัญหา ด้วยการเปิดให้ทุกคนสามารถ “เช่า” จักรยานมาขี่ได้ในราคา 12-15 ยูโรต่อเดือน (นักศึกษาจะได้ราคาพิเศษ) โดยในการเช่าหนึ่งครั้งจะมีตัวจักรยาน กุญแจล็อค ประกันภัย และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินมาให้ ซึ่งถ้าหากเกิดเหตุด่วนอันใดไม่ว่าจะเป็น โซ่ขาด ยางรั่ว หรืออุปกรณ์อื่นๆ ชำรุด ก็เพียงโทรแจ้งทีมงานซึ่งจะเดินทางมาซ่อมหรือเปลี่ยนจักรยานใหม่ให้ทันที นับเป็นบริการที่สะดวกสบายและเหมาะกับผู้ที่มีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ตามมาได้เป็นอย่างดี
โดยหลังจากเปิดตัว “Swapfiets” ไปไม่เท่าไรก็มีจำนวนผู้ใช้งานพุ่งสูงกว่า 2,000 คน (ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักศึกษา) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ทางผู้ให้บริการก็ได้เตรียมขยายบริการ Swapfiets ไปยังเมืองอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงด้วยอีกเช่นเดียวกัน
เรียกได้ว่าเป็นโปรเจกต์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปพร้อมๆกับการรักษ์โลกได้เป็นอย่างดี เห็นอย่างนี้แล้วชาว Gen-C ที่อยากเริ่มต้นทำสิ่งดีๆ ให้กับโลกควรหันมาใช้จักรยานในการเดินทางระยะใกล้เพื่อช่วยลดการสร้างมลภาวะให้กับโลกไปพร้อมๆ กับการสร้างเสริมสร้างสุขภาพให้ตัวเรากันดีกว่าครับ
ค้นหาแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ ตรงจุด ชีวิตคนเมือง มองโลกใหม่ในอีกมิติที่คุณไม่เคยสัมผัสที่ GEN-C Urban Living Solutions
Facebook: Ananda Development
Instagram: ananda_development
Youtube: Ananda Development
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก: https://swapfiets.nl/en/
