5 วิธีเซฟจิตใจในช่วงที่ต้อง Stay at Home

ในภาวะที่มีโรคระบาดอย่าง COVID-19 แบบนี้ พฤติกรรมของทุกคนไม่เว้นชาว Gen C ก็มีการปรับเปลี่ยนไปแทบจะโดยสิ้นเชิงเลยครับ เรื่องที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือการที่ต้องอยู่บ้านนานขึ้น ทั้ง Live at Home และ Work from Home ควบคู่กันไปการต้องกักตัวและใช้ชีวิตอยู่ในบ้านนานๆ แบบนี้ แน่นอนว่าส่งผลต่อสภาพจิตใจได้โดยที่เราไม่รู้ตัว ลองไปดูวิธีดูแลสภาพจิตใจให้ยังไหวอยู่ในสภาวะแบบนี้กันได้เลยครับ

5 วิธีเซฟจิตใจในช่วงที่ต้อง Stay at Home

1. พูดคุยกับเพื่อนๆ อยู่เสมอ

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม การสื่อสารกับผู้คนจึงยังเป็นเรื่องที่สำคัญอยู่เสมอ การได้พูดคุยกับเพื่อนๆ บ้างอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ก็ถือเป็นการระบายความเครียดได้ดีเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยทั่วไป ถามสารทุกข์สุขดิบ หรือแม้แต่ระบายความทุกข์ใจก็ตาม ซึ่งในยุคแบบนี้เราสามารถพูดคุยผ่านเครื่องมือสื่อสารต่างๆ ได้เพียบ ไม่เพียงแต่ได้ยินเสียง แต่กลับเห็นหน้ากันแบบเรียลไทม์ได้ด้วยต้องลองดูกันนะครับ

5 วิธีเซฟจิตใจในช่วงที่ต้อง Stay at Home

2. ไม่จมอยู่กับข่าวบนโลกออนไลน์

ชาว Gen C เข้าใจแน่นอนว่ายุคนี้ข่าวสารมาไวและไปไวแค่ไหน ไม่เพียงแต่เรื่องราวดีๆ ชวนยิ้ม แต่ยังรวมไปถึงข่าวเศรษฐกิจที่ชวนให้เครียดและข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาดที่ยิ่งฟังก็ยิ่งปวดหัว การเสพข้อมูลเหล่านี้มากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะเครียดได้ครับ ทางที่ดีควรรับข้อมูลแต่จำเป็น และจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือเท่านั้น การจำกัดเวลาหรือจำนวนครั้งที่เข้าไปเช็กข่าวสารก็เป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่ง เพื่อไม่ให้เราจมอยู่กับเรื่องเครียดๆ มากเกินไปครับ

5 วิธีเซฟจิตใจในช่วงที่ต้อง Stay at Home

3. นึกถึงสิ่งที่จะทำในวันนี้

การอยู่บ้านนานๆ วนอยู่ในสถานที่เดิมๆ แถมอยู่ในสถานการณ์ที่มีเรื่องชวนให้คิดตลอดเวลา อาจจะทำให้เราจมอยู่กับความคิดของตัวเองได้ครับ ซึ่งบางครั้งก็อาจจะมากเกินไปจนกลายเป็นฟุ้งซ่าน และทำให้เกิดความเครียดขึ้นมาได้ ทางออกง่ายๆ ลองเริ่มต้นจากการโฟกัสอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด โดยอาจจะเป็นการจดเช็กลิสต์ให้ตัวเองในทุกเช้า เพื่อเป็นการเตือนให้รู้ว่ามีสิ่งไหนที่ต้องจัดการบ้าง ก็ช่วยให้เราดึงสมาธิกลับมาอยู่กับปัจจุบันได้เช่นเดียวกัน

5 วิธีเซฟจิตใจในช่วงที่ต้อง Stay at Home

4. จัดการการนอนหลับให้ดี

ในภาวะเครียด สมองของเราจะทำงานอยู่ตลอดเวลา อาจส่งผลให้คุณเกิดอาการนอนไม่หลับ ซึ่งการพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็ทำให้เกิดอาการเครียดสะสมได้ครับ ดังนั้นการจัดการเวลานอนก็เป็นอีกเรื่องสำคัญที่ละเลยไม่ได้ ลองเริ่มด้วยการเซ็ตเวลานอนให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในช่วงเย็น ไม่เล่นโทรศัพท์ก่อนเข้านอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง และนั่งสมาธิก่อนนอนอย่างน้อย 5 นาที ก็ช่วยให้พฤติกรรมการนอนหลับของคุณดีขึ้นได้ครับ

5 วิธีเซฟจิตใจในช่วงที่ต้อง Stay at Home

5. อยู่กับสิ่งที่ทำให้มีความสุข

ปิดท้ายด้วยวิธีที่ง่ายที่สุดและเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คือ การพัก ครับ ในเวลานี้งานก็หนัก สถานการณ์ก็ตึงเครียด ดังนั้นอย่าลืมที่จะหาเวลาผ่อนคลายความเครียดและความเหนื่อยล้าครับ ลองหันไปหากิจกรรมเพิ่มความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่คุ้นเคยกันดูบ้าง อาจจะเป็นการออกกำลังกาย เล่นโยคะ ปลูกต้นไม้ หรือแม้กระทั่งเล่นเกมก็ช่วยเยียวยาได้ดีทั้งนั้น 

ไม่ยากเลยใช่มั้ยครับ อย่าลืมว่าสถานการณ์แบบนี้เป็นเพียงเรื่องชั่วคราวเท่านั้น การที่เราจะรู้สึกไม่สบายใจ หดหู่ เบื่อ หรือเป็นกังวลกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องปกติครับ แค่ต้องรู้เท่าทันความรู้สึกและตั้งสติ ใช้ชีวิตกันอย่างระมัดระวัง ที่สำคัญ หมั่นสำรวจดูแลจิตใจกันและกัน ทั้งของตัวเองและของคนใกล้ตัวอยู่เสมอด้วยนะครับ แล้วเราจะผ่านมันไปได้แน่นอนครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.nhs.uk/

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top