ครึ่งปีผ่านไปแล้ว ตอนนี้คุณวางแผนเรื่องลดหย่อนภาษีแล้วหรือยังครับ? และหากคุณกำลังมองหาตัวช่วยในการลดหย่อนภาษี วันนี้ผมจะชวนไปทำความรู้จักตัวช่วยลดหย่อนภาษีตัวใหม่ที่มีชื่อว่า SSF หรือกองทุนเพื่อการออมกันครับ
:: SSF คืออะไร
SSF ย่อมาจาก Super Save Fund มีชื่อภาษาไทยว่า “กองทุนเพื่อการออม” ซึ่งเป็นกองทุนตัวใหม่ซึ่งมาทดแทนที่กองทุน LTF นั่นเอง
:: ทำไมเราต้องซื้อกองทุน SSF
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า กองทุน SSF เป็นกองทุนทดแทน LTF ที่หมดอายุไปเมื่อ 2562 ดังนั้นหน้าที่หลักๆ ของกองทุนนี้ก็เพื่อใช้ใน “ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคล” โดยเฉพาะผู้ที่มีฐานรายได้สูงนั้นเอง โดยกองทุน SSF ที่ใช้สำหรับการลดหย่อนภาษีนั้น มีเงื่อนไขดังนี้
ใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ต้องไม่เกิน 2 แสนบาท (แต่ถ้ารวมกับกองทุน RMF และกองทุนอื่นๆ ต้องไม่เกิน 5 แสนบาท)
กองทุน SSF ไม่มีเงินทุนขั้นต่ำ และไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี ที่สำคัญมีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากสามารถลงทุนได้ทุกหลักทรัพย์ จึงส่งผลดีต่อผู้ลงทุน
อีกหนึ่งเงื่อนไขของกองทุน SSF คือ คุณจะสามารถใช้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษีได้ก็ต่อเมื่อซื้อกองทุน SSF ระหว่างปี 2563 – 2567
อีกหนึ่งเหตุผลที่แนะนำกองทุน SSF คือ เป็นการออมเงินในระยะยาว และเป็นเงินเก็บในวัยเกษียณ จากวัตถุประสงค์นี้เอง ทำให้กองทุนนี้จึงมีระยะเวลาในการถือครอง 10 ปี จึงเรียกได้ว่าเป็นเงินเก็บระยะยาวเพื่ออนาคตอย่างแท้จริง
แต่ทั้งนี้หากขายกองทุนก่อนครบกำหนด จะถือว่าผิดเงื่อนไขลดหย่อนภาษี ต้องคืนเงินภาษีนะครับ
:: จะซื้อกองทุน SSF ได้ที่ไหน
การซื้อกองทุน SSF สามารถซื้อผ่านทุกธนาคาร เหมือนการซื้อกองทุน LTF หรือ RMF ได้เลยครับ ทั้งนี้ธนาคารแต่ละแบรนด์อาจมีเงื่อนไขการลงทุนหรือให้ผลตอบแทนที่ต่างกัน และช่องทางการขายอาจต่างกันด้วยครับ
สิ่งหนึ่งที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ “การลงทุนมีความเสี่ยง” ดังนั้นคุณควรทำความเข้าใจเงื่อนไขของกองทุนให้ถี่ถ้วนก่อน โดยเฉพาะเรื่องความเสี่ยงที่แนะนำว่าควรเลือกองทุนให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้
ก่อนจะจบปี 2563 อย่าลืมคำนวณรายได้และภาษีที่คาดว่าจะต้องจ่าย เพื่อวางแผนซื้อกองทุน SSF ได้อย่างทันท่วงทีนะครับ