เริ่มต้นเดือนแรกของปีด้วยการปรับแผนการเงินแบบเศรษฐี เริ่มต้นง่ายด้วยตัวเอง

ใช้โอกาสช่วงปีใหม่มาเริ่มต้นวางแผนการเงินให้รัดกุม เพื่อพิชิตเป้าหมายเศรษฐีในอนาคตกันครับ โดยวันนี้เรามีทริคดีๆ ของการคิดและการบริหารเงินแบบเศรษฐีมาแนะนำ เพราะเราเชื่อว่าทุกคนสามารถเรียนรู้ที่จะบริหารเงินได้ และถ้าคุณบริหารเงินอย่างถูกต้อง เส้นทางเศรษฐีในอนาคตก็เป็นจริงได้ครับ

  1. มองผลระยะยาวเข้าไว้

คนที่ประสบความสำเร็จเรื่องการเงินนั้น มักมีสายตาที่มองเห็นผลตอบแทนระยะยาวและระยะไกลอยู่เสมอ โดยพวกเขาจะไม่ค่อยใช้จ่ายหรือลงทุนกับสิ่งที่ไม่เพิ่มรายได้ อีกทั้งพวกเขามักมีแนวคิดเรื่องการเงินแบบระยะยาว หรือวางแผนการเงินเป็นปีๆ หรือ 10 ปี 

ดังนั้นการเริ่มต้นวางแผนทางการเงินตั้งแต่วันนี้ ทั้งวางแผนลดหย่อนภาษี วางแผนเงินออม หรือแม้กระทั่งแผนเกษียณอายุอีก 30 ปีข้างหน้า ฯลฯ จึงเป็นจุดสตาร์ทที่ดีนั่นเอง

  1. สอดส่องโอกาสและรีบคว้าไว้

โอกาสไม่ได้มีมาบ่อยๆ แต่ถ้าเราหมั่นสอดส่องและศึกษาอยู่เสมอ โอกาสทางการเงินก็อยู่ไม่ไกลนะครับ ดังนั้นอย่ามัวแต่รอให้โอกาสเข้ามา แต่จงเป็นคนหาโอกาสให้ตัวเองและรีบคว้าโอกาสนั้นไว้จะดีกว่า 

เริ่มต้นด้วยการศึกษาเรื่องการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนกับกองทุน หุ้น หรือการลงทุนกับความรู้ เพื่อสร้างอาชีพที่สอง เพิ่มรายได้ให้มากขึ้น ฯลฯ อาจจะเริ่มจากการศึกษาด้วยตัวเอง หรือจะลงคอร์สเรียนสั้นๆ ก็ไม่ว่ากัน เพราะคนที่ประสบความสำเร็จมักเรียนรู้อยู่เสมอ

  1. ใช้ “เงิน” หา “เงิน”

หรือที่เรียกว่า “เงินต่อเงิน” นั่นคือการให้เงินทำงานแทนเรานั่นเอง โดยสามารถเริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายว่าในปีนี้คุณต้องการมีเงินเท่าไร แล้วค่อยศึกษาว่าจะลงทุนอย่างไร เพื่อให้เงินในบัญชีไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ 

ดังนั้นย้อนกลับไป ‘ทริคที่ 2 สอดส่องโอกาสและรีบคว้าไว้’ จึงสำคัญ เพราะการศึกษาเรื่องการลงทุนจะทำให้คุณสามารถใช้เงินหาเงินได้นั่นเอง

TIPS : เงินออมเผื่อฉุกเฉินก็สำคัญ

นอกจากการวางแผนทางการเงิน เพื่อเพิ่มยอดเงินในบัญชีอย่างที่แนะนำข้างต้นแล้ว อย่าลืมเก็บออมเงิน กรณีเผื่อฉุกเฉินกันด้วยนะครับ 

โดยเงินสำรองนี้ส่วนใหญ่จะเป็น “เงินสำรองที่เก็บในรูปแบบของทรัพย์สินที่มีสภาพคล่องสูง” ทั้งเงินสด เงินฝากธนาคาร หรือกองทุนรวมต่างๆ ที่ฝากถอนได้ง่าย โดยแนะนำว่าควรมีอยู่ 3-6 เท่าของรายจ่ายในแต่ละเดือน 

นอกจากนี้อย่าลืม “ทบทวนรายจ่าย” ที่ผ่านมาในแต่ละเดือนกันด้วย โดยลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นและปรับให้เป็นเงินออมหรือเงินลงทุน เพียงเท่านี้คุณก็จะมีเงินต้นสำหรับการลงทุนที่มากขึ้นครับ

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top