จากปีที่แล้วจนถึงวันนี้ “คุณต้อง Work from home” มาแล้วกี่วัน??
แม้หลายคนจะต้องทำงานอยู่บ้านมากกว่า 2-3 เดือนหรือนานกว่านั้น แต่ยังคงชะล่าใจจนกลายเป็นการละเลยถึง ‘การลงทุน’ กับการทำงานรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Work from home
โดยจากผลสำรวจ Work from home เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คนทำงานเกิดอาการ Burnout จนนำไปสู่ความเครียด ดังนั้นการลงทุนกับการ Work from home จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญ
วันนี้เราจึงมีคำแนะนำที่ช่วยให้คุณ Work from home สนุกและมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญยังคุ้มค่ามาฝากกันครับ
มุมทำงาน สำคัญที่สุด!
เพราะเริ่มแรกบ้านคือสถานที่พักผ่อน หลายบ้านจึงไม่ได้จัดให้มีมุมทำงานตั้งแต่ต้น และการต้องนั่งทำงานบนเตียง บนพื้น หรือมุมอื่นๆ โดยที่ไม่มีโต๊ะและเก้าอี้ที่เหมาะสม ทำให้การทำงานสะดุด แถมยังพ่วงมาด้วยอาการออฟฟิศซินโดรม
ดังนั้นการลงทุนอย่างแรกที่เราแนะนำจึงเป็นเรื่อง “มุมทำงาน” เพราะมุมทำงานที่เหมาะสมจะช่วยให้การทำงานที่บ้านของคุณก็สนุกและ Productive ขึ้นได้ ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ทำงาน รวมทั้งการสร้างบรรยากาศที่เหมาะกับการนั่งทำงานตลอดวัน ไม่จำเป็นต้องเป็นบรรยากาศเคร่งครึม แต่ควรเป็นบรรยากาศที่ทำให้เรามีสมาธิกับการทำงานได้ง่าย
ลงทุนกับ “อุปกรณ์และโปรแกรม” ให้เป็นผู้ช่วยคนสำคัญ
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการทำงานที่บ้านคือ “การสื่อสาร” ที่นอกจากต้องพัฒนาทักษะแล้ว การลองลงทุนกับอุปกรณ์และโปรแกรมต่างๆ ยังส่งผลให้การทำงานไหลลื่นและง่ายมากขึ้น
เช่น การลงทุนกับโปรแกรมประชุมออนไลน์ต่างๆ เพิ่มความสะดวกและง่ายให้ทุกมีตติ้ง หรือโปรแกรมจัดเก็บข้อมูลอย่าง Google Drive ที่หากลงทุนซื้อพื้นที่จัดเก็บขนาดใหญ่ การส่งต่อข้อมูลหรือเก็บผลงานจะกลายเป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น เป็นต้น
นอกจากนี้การทำงานที่บ้านมักมาพร้อมความเร่งด่วนและปราศจาก Working Time ดังนั้นจึงแนะนำให้ลงทุนกับอุปกรณ์ช่วยทำงานอย่างแท็บเล็ต หรือ iPad ฯลฯ ที่สามารถพกพาไปนอกบ้านได้สะดวก โดยที่ไม่จำเป็นต้องพกคอมพิวเตอร์โน็ตบุ๊กตลอดเวลา
อย่าหยุดที่จะลงทุนกับ “ทักษะ”
ต้องยอมรับว่า Work from home ทำให้งานที่เราเคยชินกลายเป็นงานที่ยากขึ้น ดังนั้นการลงทุนกับการพัฒนาทักษะต่างๆ จึงเป็นเรื่องจำเป็นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน Soft Skills หรือ Expert Skills
เพราะเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป การทำงานที่ปรับเปลี่ยนนี้ ทำให้องค์กรต้องการบุคลากรที่มีความสามารถมากกว่าเดิม หรือต้องการบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางไปเลย
ดังนั้นการลงทุนกับการพัฒนาตัวเองจึงจำเป็น ที่ไม่เพียงแต่ทำให้เราเก่งและเป็นบุคลากรที่องค์กรต้องการเท่านั้น แต่การลงทุนครั้งนี้ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตในระยะยาวอีกด้วย
การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดคือ “ลงทุนกับสุขภาพ”
นอกจากการลงทุนเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานที่บ้านแล้ว อีกหนึ่งการลงทุนที่คุ้มค่าคือ การลงทุนกับสุขภาพ เพราะเมื่อ Work from home หลายคนก็ลดการขยับร่างกาย รวมทั้งการออกกำลังกายด้วย จึงเป็นผลให้น้ำหนักขึ้น น้ำตาลในเลือดสูง และอื่นๆ
โดยการลงทุนกับสุขภาพ ไม่จำเป็นต้องลงทุนมากมาย แค่ ‘ลงทุนกับเวลา’ วันละ 30 นาที เปิดคลิปจาก YouTube หรือวิ่งรอบบ้าน ฯลฯ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง
หรือหากคุณขาดแรงบันดาลใจ ลองลงทุนกับอุปกรณ์ต่างๆ อาจช่วยกระตุ้นให้คุณลุกขึ้นมาออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น ทั้งรองเท้าออกกำลังกายคู่ถูกใจ ชุดออกกำลังกายสีสวย Smart watch ที่ช่วยจับอัตราการเคลื่อนไหว เป็นต้น
หากบริษัทของคุณยังคงมีนโยบาย Work from home การลงทุนทั้ง 4 ข้อข้างต้นจึงเป็นการลงทุนที่ควรค่าและแนะนำครับ
การ Work From Home อาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายแฝงที่ตามมา มาหาวิธีรับมือได้คลิกที่นี่