นับถอยหลังอีก 5 เดือนจะสิ้นสุดปี 2564 แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น ลองมาทบทวงเป้าหมาย “เงินออม” ที่ตั้งไว้ในปีนี้กัน หลายคนมีเป้าหมายการเงินที่เลือนราง มองไม่เห็นโอกาสที่จะไปถึงเส้นชัยที่วางไว้ แต่อย่าเพิ่งท้อ! เพราะวันนี้เรามีทริคดีๆ ของการออมเงินมาแนะนำกันครับ แค่ลองเปลี่ยนและเริ่มต้นใหม่ ถึงจะเหลือเวลาอีก 5 เดือนก็อาจเก็บเงินแสนอย่างที่ตั้งใจได้
:: ทบทวนเป้าหมายและแผนการออม
ลองย้อนกลับไปทบทวนแผนการออมที่เราวางไว้ต้นปี หากพิจารณาแล้วว่าอีก 5 เดือนหลังจากนี้เราไม่มีทางเก็บเงินได้ตามแพลน ด้วยระยะวเวลาที่น้อย รายได้ลดลง หรือรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น การทบทวนวางเป้าหมายการเงินใหม่อีกครั้งจึงเป็นการเริ่มต้นที่ดี
แนะนำให้เริ่มต้นจากการศึกษาสภาพการเงินของตัวเองด้วยการจดบันทึกค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน เพื่อวิเคราะห์ว่าใน 1 เดือนเราใช้จ่ายไปกับอะไรบ้าง มีเงินเหลือเท่าไร ฯลฯ เมื่อเราได้รายละเอียดการใช้จ่ายแล้ว บางรายการอาจสามารถตัดทิ้งเพื่อประหยัดได้ ซึ่งจุดนี้จะกลายเป็นการเพิ่มเงินออม
ขณะเดียวกันเมื่อเราทราบรายจ่ายและเงินที่เหลือในแต่ละเดือนก็สามารถวางเป้าหมายเงินออมที่เป็นไปได้อีกด้วย ดังนั้นในอีก 5 เดือนหลังจากนี้ การเก็บเงินออมให้เป็นไปตามเป้าหมายก็ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดแน่นอน
:: แยกบัญชีให้ชัดเจน สะดวกใช้ สบายเก็บ
อุปสรรคหนึ่งที่ทำให้เราออมเงินไม่สำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ อาจมาจากการจัดสรรบัญชีการเงินนั่นเอง บางคนเก็บเงินออมและเงินเดือนในบัญชีเดียวกัน ดังนั้นเพื่อให้คุณเก็บเงินออมได้อย่างใจ ควรแยกบัญชีออกเป็น 3 ประเภทด้วยกันคือ
- บัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายประจำเดือน หรือบัญชีเงินเดือนสำหรับรับเงินเดือนและค่าจ่าย อาทิ ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าอาหาร ฯลฯ สำหรับบัญชีนี้ หลังจากเงินเดือนถูกโอนเข้าบัญชีแล้ว เราควรตั้งค่าโอนเงินอัตโนมัติ เพื่อเข้าบัญชีเงินออมทันที
- บัญชีเงินออม เป็นบัญชีเพื่อเก็บเงินตามเป้าหมายที่วางไว้นั่นเอง ซึ่งบัญชีนี้สามารถเปิดเป็นบัญชีฝากประจำ เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยที่มากกว่าฝากปกติ ขณะเดียวกันควรเลือกบัญชีที่มีความคล่องตัวในการถอนด้วยเช่นกัน
- บัญชีฉุกเฉิน สำหรับกรณีเร่งด่วน อาทิ ค่ารักษาพยาบาล อุบัติเหตุ ตกงาน ฯลฯ บัญชีนี้แนะนำให้เก็บเงินในสภาพคล่องสูง หากมีเหตุฉุกเฉินสามารถถอนออกมาใช้จ่ายได้ทันที
:: เก็บเงินหลายๆ วิธี ควบคู่กันไป
หลายคนเก็บเงินด้วยวิธีการหักจากบัญชีอัตโนมัติเมื่อเงินเดือนออก แต่อย่าลืมมาลองเก็บวิธีอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้ได้เงินออมตามเป้าหมาย
- เก็บเล็กผสมน้อย ด้วยการเก็บสะสมทีละน้อย เช่น การเลือกไม่จ่ายด้วยเหรียญ เมื่อกลับถึงบ้านก็ให้หยอดเหรียญในกระปุก หรือการตั้งกฎว่าไม่ใช้จ่ายธนบัตรใบละ 50 บาท ดังนั้นเมื่อได้ธนบัตรใบละ 50 บาทก็จะเก็บไว้ ฯลฯ การเก็บเล็กผสมน้อยเหล่านี้สามารถช่วยเพิ่มพูนเงินออมได้นะครับ
- เก็บเงินโบนัส หากบริษัทของคุณมีโบนัสประจำปี คุณสามารถออมเงินโบนัส 50% ขึ้นไป หรือใครจะออมเงินโบนัส 100% ก็ได้เช่นกัน เพื่อให้ถึงเป้าหมายเร็วขึ้น เพราะเงินโบนัสคือเงินก้อนพิเศษจึงสามารถเก็บออมได้เต็มจำนวน โดยไม่กระทบกับค่าใช้จ่ายประจำนั่นเอง
สุดท้ายสิ่งที่ทำให้เป้าหมายเงินออมสำเร็จคือ การไม่สร้างหนี้ เพราะการสร้างหนี้ก็คือการเพิ่มรายจ่าย เป็นเหตุให้เงินออมน้อยลงนะครับ