สร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ หลังจากที่ สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ออกมาประกาศว่าวันที่ 11 ส.ค. 64 นี้ สถาบันฯ จะเริ่มลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากลงจากจุดเริ่มต้น 15 ล้านบาทมาอยู่ที่ 5 ล้านบาท และจะลดลงเหลือ 1 ล้านบาทในปัจจุบัน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น และเรื่องนี้กระทบเราหรือไม่ อย่างไรบ้าง?
สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) ถูกเปิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2551 หลังจากเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งแล้วมีสถาบันทางการเงินหลายแห่งปิดตัวไป หลังจากนั้นบางคนยังกลัวว่าถ้าฝากเงินไว้ในบัญชีแล้วเงินเราจะหายไปไหม ภาครัฐจึงช่วยเสริมความมั่นใจให้คนไทยด้วยการเปิดสถาบันนี้ขึ้น
หน้าที่ของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก
คุ้มครองลูกค้าของสถาบันการเงินต่างๆ ช่วยให้ได้รับเงินคืน (ตามที่กฎหมายกำหนด) เมื่อสถาบันการเงินเหล่านั้นต้องปิดกิจการลง ซึ่งเมื่อก่อนใครที่ฝากเงินบาทกับธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน และบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ รวม 35 แห่งในไทย จะได้รับความคุ้มครองในวงเงิน 5 ล้านบาท การคุ้มครองเงินฝากในสถาบันการเงิน จะไม่รวมเงินลงทุนในพันธบัตร และตราสารหนี้
กระบวนการหลักคือ สถาบันจะคุ้มครองประชาชนเมื่อสถาบันการเงินปิดตัวลง ประชาชนจะได้รับเงินคืนภายใน 30 วันโดยไม่ต้องทำอะไร ทางสถาบันฯ จะเป็นคนจ่ายคืนเงินให้ผู้ฝาก แล้วชำระบัญชี โดยเข้าไปจัดการทรัพย์สินของสถาบันการเงินที่ปิดตัว เช่น เอาทรัพย์ออกขาย ฯลฯ
ทำไมต้องลดวงเงินคุ้มครองเงินฝาก ประชาชนจะได้อะไร?
การจะขยายหรือลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากขึ้นอยู่กับนโยบายของภาครัฐ รายได้ของคนไทยและ GDP ของประเทศ ซึ่งวงเงินคุ้มครองของไทยที่ 15 ล้านบาทในอดีตถือว่าสูงที่สุดในโลก
โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ 2 เรื่องหลัก คือ
- การรักษาเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน
- การคุ้มครองผู้ฝากเงินรายย่อย ซึ่งไม่ได้เป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 และปรับลดวงเงินคุ้มครองแต่อย่างใด
“การลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากลงมาอยู่ที่ 1 ล้านบาท จะทำให้ DPA สามารถคุ้มครองคนไทยที่มีเงินฝากถึง 98.19% หรือ ประมาณ 98 จาก 100 คน จะได้รับเงินฝากคืนทันทีภายใน 30 วัน แต่ส่วนที่เหลือคือคนที่วงเงินเกิน ทางสถาบันก็จะบริหารจัดการทรัพย์สินของธนาคารนั้นๆ ให้เครียร์เงินคืนให้ในภายหลังแต่อาจจะได้ไม่ครบ ต้องดูที่ทรัพย์สินของสถาบันการเงินนั้นๆ” ซึ่งปัจจุบันเมื่อวงเงินคุ้มครองเงินฝากลดลงเหลือ 1 ล้านบาท ก็สามารถปรับเปลี่ยนแปลงเพิ่มได้อีกในอนาคต ตามมนโยบายภาครัฐ หากมีการปรับขยายขึ้น วงเงินคุ้มครองก็สามารถขยับขึ้นได้นั่นเอง
ดังนั้น ผู้ฝากเงินรายย่อยไม่ต้องตกใจ เนื่องจากการคุ้มครองวงเงินจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อสถาบันการเงินปิดกิจการ หรือโดนเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งหากดูสถานะของสถาบันการเงินในปัจจุบันมีความแข็งแกร่งค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับปี 2540
ผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ได้รับการคุ้มครอง* 5 ประเภทได้แก่
- เงินฝากกระแสรายวัน
- เงินฝากออมทรัพย์
- เงินฝากประจำ
- บัตรเงินฝาก
- ใบรับฝากเงิน
ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หหรือเงินฝากที่ไม่ได้รับการคุ้มครอง* ได้แก่
- เงินฝากประเภท เงินตราต่างประเทศ
- เงินลงทุนในตราสารต่างๆ เช่น พันธบัตร หุ้นกู้ หน่วยลงทุน SSF,RMF
- เงินฝากในสหกรณ์
- แคชเชียร์เชค ตั๋วแลกเงิน
- เงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money)
- อื่นๆ
วงเงินคุ้มครองเงินฝาก 1 ล้านบาท ครอบคลุมสถาบันการเงินทั้ง 35 แห่ง
สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) หรือ DPA คุ้มครองเงินฝากแก่ผู้ฝากทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติที่ฝากเงินเป็นสกุลเงินบาทกับสถาบันการเงินของไทยภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งประกอบด้วย
ธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศ (19 แห่ง) ได้แก่
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารเอเอ็นแซด (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย ทรัสต์ (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
- สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ (11 แห่ง)
- ธนาคารเจพีมอร์แกน เชส
- ธนาคารโอเวอร์ซี-ไชนีส แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด
- ธนาคารซิตี้แบงก์
- ธนาคารอาร์ เอช บี จำกัด
- ธนาคารแห่งอเมริกา เนชั่นแนล แอสโซซิเอชั่น
- ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด
- ธนาคารดอยซ์แบงก์
- ธนาคารมิซูโฮ จำกัด
- ธนาคารบีเอ็นพี พารีบาส์
- ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น
- ธนาคารอินเดียน โอเวอร์ซีส์
บริษัทเงินทุน (2 แห่ง)
- บริษัทเงินทุน ศรีสวัสดิ์ จำกัด (มหาชน)
- บริษัทเงินทุน แอ็ดวานซ์ จำกัด (มหาชน)
บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ (3 แห่ง)
- บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เอสเบ จำกัด
- บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ เวิลด์ จำกัด
- บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ แคปปิตอล ลิ้งค์ จำกัด
โดยบัญชีเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองต้องเป็นสกุลเงินบาทเท่านั้น ทั้งนี้ หากสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองเงินฝากถูกเพิกถอนใบอนุญาต ผู้ฝากจะได้รับเงินฝากคืนภายใน 30 วัน ตามวงเงินที่กฎหมายกำหนด
สามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการคุ้มครองเงินฝากได้ที่ www.dpa.or.th, ศูนย์บริการข้อมูลคุ้มครองเงินฝาก โทร 1158 หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ https://www.facebook.com/dpathailand