นักลงทุนมือใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่แวดวงหุ้นอาจยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มลงทุนแบบไหน “Fundamental” หรือ “Technical” มีความแตกต่างกันอย่างไร?
สำหรับใครที่เป็นนักลงทุนมือใหม่อาจคุ้นหูกับคำว่า “สาย VI” หรือ “สายเทคนิค” ซึ่งทั้ง 2 สไตล์นี้ก็ต่างเป็นแนวทางที่นักลงทุนไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพหรือรายย่อยสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับตัวเองได้ โดยการลงทุนแบบ “Fundamental” หรือ “การลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน” เป็นการลงทุนในหุ้นที่มองจากปัจจัยพื้นฐานของกิจการเป็นหลัก ซึ่งต้องมีการศึกษาข้อมูลปัจจัยพื้นฐานของหุ้น เช่น งบการเงิน อัตราส่วนทางการเงิน ผลประกอบการ ฯลฯ ที่จะสะท้อนออกมาเป็นมูลค่าของหุ้นในระยะยาวร่วมด้วย
โดย Fundamental นั้นสามารถแบ่งออกได้อีกเป็น 2 กลุ่มย่อย อย่าง Value Investor นักลงทุนในหุ้นที่มีกิจการพื้นฐานดี ซึ่งส่วนใหญ่จะตัดสินใจลงทุนในหุ้นจากการประเมินมูลค่า (Valuation) และ Growth Investing นักลงทุนในหุ้นที่เติบโต ซึ่งส่วนใหญ่จะตัดสินใจลงทุนในหุ้นที่กิจการมี Growth Story ที่ชัดเจน
ส่วน “Technical” นั้นจะเป็นการลงทุนผ่านพฤติกรรมราคาของหุ้น ซึ่งจะต้องอาศัยเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่าง Indicator ในการดูทิศทางราคาของหุ้นเพื่อหาสัญญาณในการเข้าซื้อขายโดยไม่สนว่าหุ้นตัวนั้นจะมีราคาสูงหรือต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ซึ่งนักลงทุนบางคนก็อาจนำเอาการศึกษาข้อมูลปัจจัยพื้นฐานของหุ้นแบบ Fundamental มาผสมกับการใช้เครื่องมือ Indicator ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบ Technical เพื่อกำหนดจุดเข้าซื้อ จุดขาย และจุดทำกำไร โดยเราอาจเรียกนักลงทุนกลุ่มนี้ว่าเป็นสาย Hybrid ก็ย่อมได้ครับ
ดังนั้นไม่ว่าจะเลือกเป็นนักลงทุนแบบ Fundamental หรือ Technical เราก็ควรที่จะศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมให้ละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้งด้วยนะครับ
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
