การซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีเป็นเรื่องดี แต่หากซื้อผิดหรือไม่เข้าใจก็อาจส่งผลเสียได้
วันนี้เราจึงไม่รอช้า นำเสนอ 4 ข้อห้าม! ที่ควรเช็กให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีมาแนะนำกัน เพราะการซื้อกองทุนอย่างเข้าใจและตรงเป้าหมายจะให้ประโยชน์สูงสุดมากกว่าครับ
อย่าซื้อ! ถ้ารายได้สุทธิ์ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องจ่ายภาษี
ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องเสียภาษี โดยเฉพาะบุคคลที่เงินได้สุทธิ์ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี อย่างบุคคลที่มีเงินเดือนไม่เกิน 26,000 ที่แม้ต้องยื่นภาษี แต่ไม่ต้องเสียภาษี ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องซื้อกองทุนหรือประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษี
แต่หากต้องการลงทุน แนะนำให้พิจารณากองทุนรวมทั่วไปดีกว่า เพราะมีความยืดหยุ่นและคล่องสภาพมากกว่า มีตัวเลือกหลากหลายกว่า และที่สำคัญจำนวนเงินยังกำหนดได้เอง
คำนวณภาษีที่ต้องจ่ายให้ดี ไม่ซื้อมากไปหรือน้อยไป
ข้อสำคัญในการซื้อลดหย่อนภาษีคือ การซื้อให้พอดีพอเหมาะ ดังนั้นการคำนวณภาษีที่ต้องจ่ายจึงสำคัญ เพราะหากซื้อน้อยไปจะเสียโอกาสในการลดหย่อน ในทางตรงข้ามหากซื้อเยอะไป เกินกว่านโยบายที่รัฐกำหนดก็ไม่สามารถนำส่วนเกินมาลดหย่อนภาษีได้ จึงกลายเป็นการซื้อเสียเปล่า
สำหรับเงื่อนไขกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีอย่าง SSF และ RMF มีเงื่อนไขดังนี้
SSF: สามารถซื้อสูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และไม่เกิน 200,000 บาท โดยเมื่อนำไปรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ (อาทิ กองทุน RMF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, กองทุนการออมแห่งชาติ ฯลฯ) ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
RMF: สามารถซื้อได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินทั้งปี และไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ ที่สำคัญเมื่อซื้อแล้วต้องซื้อต่อเนื่องอย่างน้อยปีเว้นปี โดยถือจนกว่าอายุครบ 55 ปี และถือครองไม่น้อบกว่า 5 ปีนับจากวันที่ซื้อ
ก่อนซื้อ อ่านนโยบายให้เข้าใจ อย่ามัวแต่ก้มหน้าก้มตาซื้อ!
หลายคนเลือกซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อยตามเพื่อน หรือตามคำแนะนำของพนักงานสถาบันการเงิน โดยไม่ศึกษากองทุนนั้นให้ถี่ถ้วนและลึกซึ้งดีพอ ซึ่งการทำแบบนี้ไม่แนะนำอย่างยิ่ง เนื่องจากแต่ละบุคคลมีเงื่อนไขทางการเงินที่แตกต่างกัน
ดังนั้นก่อนเลือกซื้อกองทุนไหน จึงควรอ่านเงื่อนไขและนโยบายของกองทุนนั้นๆ ให้ถี่ถ้วนและเข้าใจอย่างชัดเจน ทั้งอัตราความเสี่ยง ผลกำไรในอนาคต ฯลฯ เพื่อให้เราวางแผนและตั้งเป้าการลงทุนได้ตรงจุดและลงตัวกับเงื่อนไขทางการเงินของตัวเองได้มากที่สุด
สำรวจเงินในกระเป๋าให้ดี ถ้าซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีแล้วชักหน้าไม่ถึงหลัง แนะนำให้เสียภาษีจะดีกว่า
ข้อนี้สำคัญสำหรับใครที่กำลังพิจารณาซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี หากการซื้อกองทุนทำให้สภาพคล่องทางการเงินหายไป จนถึงขนาดชักหน้าไม่ถึงหลัง กรณีนี้แนะนำว่าให้จ่ายภาษีดีกว่า เพราะการทุ่มซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนจนต้องไปกู้เงินมาใช้จะได้ไม่คุ้มเสียครับ
รวมทั้งบุคคลที่จำเป็นต้องใช้เงินสดก้อนใหญ่เร็วๆ นี้ การเก็บเงินสดนั้นไปใช้จ่ายในส่วนที่จำเป็นจะดีกว่า นั่นเพราะอย่าลืมว่ากองทุนลดหย่อนภาษีทั้ง SSF และ RMF เป็นกองทุนระยะยาว จึงไม่ควรนำเงินร้อนออกมาใช้นั่นเอง
