หลังจากที่ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก ‘Facebook’ เป็น ‘Meta’ ก็ทำให้ทั่วโลกต่างตื่นตัวกับกระแสของยุค ‘Metaverse’ ที่กำลังจะมาถึง โดยคำว่า Metaverse นั้นเกิดจากการผสมกันของคำว่า Meta ที่แปลว่า เหนือกว่า,ยิ่งกว่า,ล้ำไปอีกขั้น กับคำว่า Universe ที่มีความหมายว่า จักรวาล ก่อให้เกิดเป็นคำใหม่ที่ใช้เรียกโลกเหนือจินตนาการที่อยู่ล้ำไปอีกขั้น ซึ่งรวมแล้วจึงหมายถึงเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่สามารถเชื่อมโยงผู้คนให้สามารถสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันได้อย่างไร้ขอบเขตและข้อจำกัด
ปัจจุบันหลาย ๆ แห่งเริ่มนำเอาเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ทำให้เราสามารถเข้าใกล้โลก Metaverse มาใช้กันเพิ่มมากขึ้น เช่น เทคโนโลยี VR (Virtual Reality) ที่เป็นการจำลองสภาพแวดล้อมเหมือนจริงบนโลกเสมือน หรือ เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ที่เป็นการผสมผสานโลกเสมือนและโลกแห่งความจริงเข้าด้วยกัน
และเมื่อเข้าสู่ยุค Metaverse อย่างเต็มรูปแบบแล้ว ในอนาคตข้างหน้าเราจะสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างไร้ข้อจำกัด เช่น การรับชมคอนเสิร์ตที่ให้ประสบการณ์ใกล้เคียงของจริงโดยที่ไม่ต้องเดินทางไปยังสถานที่นั้นจริง ๆ การท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก การประชุมงานและทำงานกันในโลกเสมือนจริง รวมไปถึงการซื้อสินค้าที่เราสามารถหยิบจับหรือลองสินค้าบนโลกเสมือนได้โดยไม่ต้องไปที่หน้าร้านนั่นเองครับ