คอนโด Low Rise VS คอนโด High Rise เลือกแบบที่ใช่สำหรับคุณ?

การเลือกซื้อคอนโดคุณภาพ ที่ไม่ว่าจะเป็นการอยู่อาศัยหรือการปล่อยเช่า จำเป็นอย่างมากที่จะต้องรู้รายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับคอนโดที่คุณสนใจ หนึ่งในนั้นคือรายละเอียดเกี่ยวกับ คอนโด Low Rise และ High Rise ที่จะทำให้คุณสามารถเลือกห้องได้ตรงไลฟ์สไตล์และอยู่ในทิศทางที่เหมาะสม ได้มุมมองของห้องที่จะทำให้คุณอยู่ได้อย่างมีความสุขมากขึ้น  ดังนั้นความแตกต่างของคอนโดแบบ Low Rise และ High Rise จึงค่อนข้างชัดเจน

ทำความรู้จัก คอนโด Low Rise และ High Rise ให้ชัดเจน

การจะเลือกซื้อหรือเช่าคอนโดมิเนียม จำเป็นต้องรู้ถึงความเป็น คอนโด Low Rise และ High Rise ที่จะมีความสูงแตกต่างกัน พร้อมไปด้วยรายละเอียดเกี่ยวกับทิศทางของห้อง, มุมมองของคอนโด และวิวในแบบมุมกว้าง รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ของการอยู่อาศัยต่อชั้นที่จะมียูนิตแตกต่างกันไป ดังนั้นจึงขอแนะนำรายละเอียดเกี่ยวกับ Low Rise และ High Rise ที่คุณต้องการซื้อหรือเช่าห้องคอนโดควรรู้ ดังนี้

1.  คอนโด Low Rise

โครงการคอนโดแบบ Low Rise จะมีรูปแบบของอาคารที่ไม่สูงมากและจะมีความสูงไม่เกินไปกว่า 8-9 ชั้น โดยคอนโดในประเภทนี้จะเน้นเรื่องงานออกแบบที่มีความสวยโดดเด่น มีรายละเอียดหลาย ๆ ส่วนที่ดีเยี่ยม ทั้งยังมีการสร้างเป็นหลายอาคารเชื่อมต่อกันหรืออาจจะเป็นอาคารแยกออก แต่โดยส่วนใหญ่แล้วโครงการ คอนโด Low Rise จะไม่ค่อยสร้างเพียงแค่อาคารเดียว แต่จะเป็นการสร้างหลายอาคารที่อยู่บนที่ดินเดียวกัน นอกจากนี้ยังอาจมีการแยกอาคารจอดรถกับโซนส่วนกลางออกไป แต่จะไม่ไกลกันมากนักเพื่อทำให้เกิดความสะดวกมากขึ้นอีกด้วย

ข้อดี

  • ได้บรรยากาศของวิวคอนโดที่มีลักษณะคล้ายกับชุมชน เพราะจะมีการสร้างสภาพแวดล้อมให้ออกมาเหมือนอยู่อาศัยกับเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกัน เพราะจะมีการสร้างอาคารหลายอาคารรายล้อมกัน
  • งานสถาปัตยกรรมและโครงสร้างของคอนโดแบบ Low Rise จะมีความสวยที่ดูใช้ได้เลยทีเดียว
  • เมื่ออาคารที่ไม่สูงและเป็นแบบ Low Rise จึงทำให้การขึ้น-ลงคอนโด ไม่ทำให้รู้สึกเหนื่อยมากเกินไป
  • โครงการคอนโดแบบ Low Rise จะเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยชอบอาคารสูงมากนัก และไม่ได้เน้นเรื่องของวิวภายนอกอาคารเท่าที่ควร
  • คอนโดแบบ Low Rise ให้ความเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะในแต่ละชั้นจะมียูนิตที่น้อย

ข้อเสีย

  • ถ้ามีอาคารที่ซ้อนกันมากเกินไป อาจทำให้ผู้อยู่อาศัยเกิดความยากลำบากพอสมควร
  • ถ้าคอนโดแบบ Low Rise ไปอยู่ในโซนที่มีคอนโด High Rise หรือมีที่อยู่อาศัยจำนวนมาก อาจถูกปิดบังทัศนียภาพ แสงแดด หรืออยู่ในทิศทางที่ไม่เหมาะสมได้
  • บางโครงการ คอนโด Low Rise จะมีที่จอดรถแยกออกจากตัวอาคาร ซึ่งอาจจะทำให้ต้องเดินไกลได้
  • ส่วนกลางของคอนโดแบบ Low Rise มักจะมีกิจกรรมที่ค่อนข้างน้อย เพราะด้วยข้อจำกัดของพื้นที่
  • คอนโดแบบ Low Rise ตั้งอยู่ทำเลภายในซอย เพราะมีข้อจำกัดด้านกฎหมายทางเข้า-ออก ดังนั้นจึงอาจทำให้ใครหลาย ๆ คนรู้สึกไม่สะดวกได้
  • การเติบโตของราคา คอนโด Low Rise ในอนาคตจะมีน้อยมาก

2.คอนโด High Rise

โครงการคอนโด High Rise คือ รูปแบบของอาคารสูงที่จะมีช่วงความสูงตั้งแต่ 23 เมตรขึ้นไป โดยจะวัดความสูงของอาคารตั้งแต่ระดับพื้นดินไปสู่ดาดฟ้า ตัวอาคารมักจะมีการทำขึ้นมาอย่างโดดเด่น เพื่อทำให้ดึงดูดสายตาของผู้ซื้อ เนื่องมาจากคอนโดแบบ High Rise จะตั้งเด่นตระหง่านบนพื้นที่มากพอสมควร โดยคอนโดแบบ High Rise จะมีชั้นตั้งแต่ 20 ชั้นขึ้นไป การสร้างจะเน้นจุดที่ทำให้คอนโดมีความเด่น สง่างาม และไม่มีคอนโดของแบรนด์อื่นมาบดบังทัศนียภาพ เพื่อทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รับวิวหรือมุมมองที่ดีที่สุด นอกจากนี้เรื่องของราคายิ่งคุณเลือกห้องที่อยู่สูงมากเท่าไหร่ ราคาก็จะสูงมากเท่านั้น พร้อมการทำให้ดีไซน์ของคอนโดมีความแปลกใหม่ เพื่อทำให้กลายเป็น Landmark สำคัญ

ข้อดี

  • โครงการคอนโดแบบ High Rise กลายเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของผู้ที่ต้องการซื้อหรือเช่าคอนโด เพราะ อาคารที่มีความโดดเด่นและการได้วิวมุมสูง
  • ห้องที่อยู่ชั้นบนจะสามารถเลือกทิศทางได้อย่างเป็นอิสระ พร้อมได้รับวิวที่ดีเยี่ยม
  • ความนิยมของโครงการคอนโด High Rise ทำให้นักลงทุนประเภทปล่อยเช่า, เก็งกำไรเพื่อขาย และการซื้อ-ขายใบจอง ให้ความสนใจคอนโดในประเภทนี้มากพอสมควร
  • คอนโด High Rise เมื่อเปิดตัวบนทำเลศักยภาพ มักจะมีการจองที่หมดค่อนข้างเร็ว
  • การเดินทางของโครงการคอนโดประเภทนี้ มักจะมีความสะดวก เพราะจะสร้างติดกับถนนใหญ่ได้โดยไม่มีปัญหาข้อกฎหมายใด ๆ จึงไปอยู่ในจุดที่เป็นถนนสายหลัก หรือติดกับสถานีรถไฟฟ้า
  • การสร้างโครงการแบบ High Rise จำเป็นต้องให้ Developer หรือนักพัฒนาอสังหาฯ ดูทำเลและปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ให้ดีก่อน จึงจะมีการขึ้นโครงการได้ ผู้ที่อยู่อาศัยจึงสามารถไว้วางใจได้ว่าจะอยู่อย่างสะดวกสบาย
  • ห้องคอนโดแบบ High Rise มีอากาศถ่ายเทสะดวกและมองหามุมมองของห้องหรือทิศทางที่เหมาะสม ได้ง่ายกว่า คอนโด Low Rise
  • จุดขายของโครงการ High Rise คือ การตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นวิวริมแม่น้ำ, วิวริมทะเล หรือการอยู่ในจุดใจกลางเมืองที่เป็นสไตล์แบบ CBD
  • ห้องคอนโด High Rise ที่อยู่ชั้นบนสุดจะให้บรรยากาศที่เงียบสงบ และมีโซนส่วนกลางที่จะทำให้คุณใช้ชีวิตไปกับวิวมุมสูงได้อย่างดีเยี่ยม

ข้อเสีย

  • คอนโด High Rise จะมีปัจจัยด้านลบ เรื่องของการหารค่าธรรมเนียมส่วนกลางของจำนวนยูนิตภายในโครงการ ดังนั้นจึงทำให้แต่ละชั้นมีจำนวนผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก
  • การจัดเต็มแต่ละชั้นให้มียูนิตสูง จะทำให้การอยู่อึดอัด รู้สึกไม่สบายใจ หรือรู้สึกวุ่นวายได้
  • โครงการคอนโดแบบ High Rise จะมีจำนวนของผู้อยู่อาศัยตั้งแต่ 400-1,000 ยูนิต ดังนั้นการใช้พื้นที่ส่วนกลางจึงอาจทำให้ใครหลาย ๆ คนรู้สึกไม่เป็นส่วนตัว รวมไปถึงการใช้งานลิฟท์โดยสาร จำนวนยูนิตที่มีมากของแต่ละชั้นอาจทำให้การอยู่อาศัยต้องทนต่อเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้านและอาจจะมีกลิ่นการทำอาหารรบกวนได้
  • หนึ่งในข้อเสียสำคัญของ High Rise คือ ราคาของแต่ละห้องมักจะค่อนข้างแพง แม้ว่าตารางเมตรจะน้อย แต่ คอนโด Low Rise กลับจะมีราคาที่ถูกกว่ามาก
  • คอนโด High Rise มีปัญหาในเรื่องของการปล่อยให้เช่า ดังนั้นผู้ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยอาจรู้สึกไม่เป็นส่วนตัว รวมไปถึงการลักลอบปล่อยเช่าแบบรายวันของผู้ซื้อด้วยกันเอง ที่อาจจะนำพาความไม่ปลอดภัยเข้ามาภายในคอนโดได้
  • การจัดทำคอนโดแบบ High Rise จะต้องเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาของโครงสร้างเสียหายภายในอนาคต ซึ่งถ้าเลือกใช้วัสดุไม่ดีหรือมีโครงสร้างที่ไม่แข็งแรง อาจก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมกับผู้ที่อยู่อาศัยและชุมชนใกล้เคียงได้อย่างน่ากลัวเลยทีเดียว

ความแตกต่างของ คอนโด Low Rise และ High Rise

เมื่อคุณเริ่มสนใจที่จะซื้อคอนโดหรือเช่า จำเป็นต้องรู้ความแตกต่างของ คอนโด Low Rise และ High Rise ให้ชัดเจน เพื่อทำให้คุณสามารถเข้าอยู่ได้อย่างสบายใจมากยิ่งขึ้น โดยความแตกต่างของคอนโดทั้ง 2 รูปแบบ คือ

  • ทำเลของคอนโด High Rise จะมีจุดเด่นมากกว่า คอนโด Low Rise เพราะความสูงที่มีมากกว่า
  • ทำเลของคอนโด High Rise จะเหนือกว่า คอนโด Low Rise เนื่องมาจากข้อกฎหมายทางเข้า-ออกที่ Low Rise จะถูกจำกัดมากกว่า
  • คอนโด High Rise จะอยู่ในทำเลที่ดี เช่น ติดถนนใหญ่, อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า, อยู่ใจกลางเมืองในโซนที่ให้ความสะดวกสบายสูง แต่โครงการ Low Rise จะอยู่ในซอย จึงทำให้การเดินทางและการใช้ชีวิตอาจยากลำบากกว่า
  • ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ชอบความสูง ไม่สนใจบรรยากาศรอบด้านและต้องการความปลอดภัยของอาคารที่มั่นใจได้สูงกว่า คอนโด Low Rise จะเหมาะกับคุณมากกว่า High Rise
  • คอนโด High Rise จะมีพื้นที่ส่วนกลางมากกว่า คอนโด Low Rise พร้อมการมีสวนสีเขียวและโซนทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจกว่าอีกด้วย
  • โครงการคอนโดแบบ High Rise จะมีเรื่องของราคาที่สัมพันธ์กับความสูงของตัวอาคาร ยิ่งสูงมาก ราคาห้องก็จะยิ่งสูงตามไปด้วย ในขณะที่โครงการแบบ Low Rise จะราคาคงที่มากกว่า
  • ราคาขายในอนาคตของคอนโด High Rise จะดีกว่า Low Rise ที่มีขีดจำกัดทั้งเรื่องของทำเลและทัศนียภาพ  รวมไปถึงจำนวนชั้นที่น้อยกว่า คอนโดLow Rise จึงมีอัตราการเติบโตของราคาในอนาคตต่ำกว่าคอนโดแบบ High Rise มากพอสมควร
  • คอนโด High Rise จะมีโซนส่วนกลางสำหรับการออกกำลังกาย เช่น ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, Jokking Track, สนามบาสหรือสนามบอลที่มากกว่าคอนโดแบบ Low Rise
  • การอยู่ต่อชั้นภายในโครงการ Low Rise จะโปร่งสบายกว่าโครงการ High Rise เพราะจำนวนห้องจะน้อยกว่า
  • พื้นที่การอยู่อาศัยของโครงการคอนโด High Rise จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า มีจำนวนยูนิตหรือผู้อยู่อาศัยมากกว่า
  • ถ้าพูดถึงทางเลือกของคอนโดที่อยู่สบาย ไม่แออัด มีความเป็นส่วนตัว คอนโดแบบ Low Rise จะมีศักยภาพมากกว่า
  • คอนโดแบบ High Rise จะมีปัญหาเรื่องการลักลอบปล่อยเช่าแบบรายวันจากผู้ซื้อ รวมไปถึงแอพพลิเคชั่นให้เช่าต่าง ๆ จึงทำให้เกิดเป็นปัญหาภายในที่แม้ว่านิติบุคคลจะเข้มงวดมากแค่ไหน แต่ก็ยังมีผู้ที่ลักลอบทำได้เสมอ แต่โครงการแบบ Low Rise จะมีปัญหาเหล่านี้น้อยกว่ามาก
  • โครงการคอนโด High Rise จะมีเรื่องของโปรโมชั่นจากทางผู้สร้างหรือ Developer ที่มีความหลากหลายและให้ความคุ้มค่ามากกว่า คอนโด Low Rise
  • คอนโด High Rise มักมีปัญหาเรื่องการอยู่อาศัยต่อชั้นที่มากเกินไป จึงทำให้ต้องพบกับทั้งความวุ่นวาย, ความไม่เป็นส่วนตัว, ปัญหาเรื่องเสียงดัง หรือแม้แต่กลิ่นรบกวนจากเพื่อนบ้าน
  • ข้อบังคับ FAR ที่เกี่ยวกับสัดส่วนของพื้นที่ จะค่อนข้างส่งผลเสียต่อคอนโดแบบ Low Rise จึงทำให้ไม่สามารถพัฒนาอาคารให้ใหญ่ขึ้นได้
  • ระยะความกว้างของหน้าแปลงที่ดิน ถ้าแคบกว่า 12 เมตร หรือถนนสาธารณะมีที่ดินกว้างน้อยกว่า 10 เมตรจะไม่สามารถสร้างโครงการแบบ High Rise ได้

การเลือกคอนโดที่ไม่ว่าจะเป็นการอยู่อาศัยเองหรือการปล่อยเช่า คุณควรศึกษาข้อมูลให้ดีในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะเรื่องการเลือก คอนโด Low Rise และ High Rise ที่จะมีรายละเอียดความแตกต่างกันที่ชัดเจน เพื่อทำให้คุณได้คอนโดที่ตรงความต้องการมากที่สุด นอกจากนี้ควรตรวจสอบในเรื่องของโซนส่วนกลาง ความแข็งแรงของโครงการ และเรื่องราวต่าง ๆ ที่จะทำให้คุณรู้สึกถึงความปลอดภัยเมื่อเข้าอยู่อาศัยจริง นอกจากนี้คอนโดทั้ง 2 รูปแบบ ยังมีความต่างกันในเรื่องของทำเล, พื้นที่ส่วนกลางราคา และความเป็นส่วนตัวในการใช้ชีวิต ที่คุณจะสามารถนำมาเปรียบเทียบ เพื่อมองหาคอนโดที่ตรงต่อความต้องการของคุณได้มากที่สุด ดังนั้นจึงถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะจะบ่งบอกถึงความเป็นสังคมคุณภาพที่คุณจะต้องเจอในอนาคต

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top