การพักผ่อนนั่งสบาย ๆ บนโซฟาตัวโปรดคงเป็นสิ่งที่น่าปรารถนาที่สุดสำหรับในวันหยุด การตกแต่งห้องรับแขก หรือห้องนั่งเล่นภายในบ้านให้น่านั่ง จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้เราได้เพลิดเพลินกับการพักผ่อนมากขึ้น บทความนี้จะมาแชร์ How to แต่งห้องรับแขกให้พร้อมพักผ่อน แถมยังสามารถมีกิจกรรมสนุก ๆ ไว้รองรับทั้งเพื่อน และครอบครัวในวันหยุดได้อีกด้วย
ทริคการตกแต่งห้องรับแขกรูปแบบต่างๆ
เพราะว่าห้องรับแขกเป็นอีกจุดสำคัญของบ้าน เพราะเป็นสถานที่เรามักจะใช้พบปะผู้คน ทั้งครอบครัวที่มาเยี่ยมบ้าน เพื่อนที่มาสังสรรค์ในวันหยุด หรือเป็นสถานที่ลูกคนโปรดมาทำกิจกรรม การตกแต่งอย่างใส่ใจจะทำให้ห้องรับแขกของคุณเป็นห้องสุดเพอร์เฟคสำหรับทุกสถานการณ์ได้
- หาสไตล์ของบ้านตนเองให้เจอ การตกแต่งบ้านที่ไปในทิศทางเดียวกัน หรือการคุมธีมตกแต่งภายในบ้าน จะช่วยให้บ้านดูสวยมากขึ้น โดยอาจจะดูทั้งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต การแต่งตัวของเรา หรืออาจจะลองค้นหาข้อมูลสไตล์บ้านในฝันที่อยากให้เป็น เช่น มินิมอล ,ลอฟท์ หรือโมเดิร์น เป็นต้น จากนั้นให้นำธีมที่เราได้มาคุมโทนตกแต่งให้กับห้องรับแขกของเรา จะช่วยให้ทั้งบ้านมีความสมดุล สวยงาม ไปในทิศทางเดียวกัน
- สร้างจุดดึงดูดสายตา จุดดึงสายตา หรือ จุดโฟกัส จะทำให้ห้องรับแขกของเราน่าสนใจมากขึ้น โดยสามารถสร้างจุดโฟกัสให้กับห้องรับแขกได้โดยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง หรือจะเป็นพื้นผิววัสดุที่อยู่ในห้องก็สามารถทำได้ เช่น การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์รูปทรงโดดเด่น การใช้ภาพวาดที่มีเอกลักษณ์ตกแต่งห้อง หรือใช้ผิววัสดุต่าง ๆ เป็นตัวดึงดูดสายตา เช่น ใช้ผ้าม่านห้องรับแขกเป็นผ้ากำมะหยี่ หรือพรมเช็ดเท้าขนสัตว์ที่ดูนุ่มฟู รายละเอียดที่ช่วยดึงดูดสายตาเหล่านี้จะทำให้ห้องรับแขกของเราดูมีมิติมากขึ้น อย่างไรก็ตามเราจุดโฟกัสควรมีเพียง 1 – 3 จุดเท่านั้น เพื่อไม่ให้แต่ละส่วนของห้องรับแขกของเราแย่งกันดึงดูดสายตามากเกินไป
- เพิ่มต้นไม้สีเขียวให้กับห้องรับแขก การเติมความสดใส สบายตาด้วยต้นไม้และดอกไม้ให้ห้องนั่งเลนเป็นทางเลือกที่ดี เพราะต้นไม้สีเขียว หรือดอกไม้สีสันสดใสต่าง ๆ จะช่วยเป็นจุดพักสายตา เพิ่มความสดชื่นให้กับเรายามนั่งพักผ่อน เราอาจจะเลือกต้นไม้ใบสวย ๆ สักสองสามต้น ใส่กระถางต้นไม้ที่ีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เข้ากับโทนของบ้าน จัดวางเข้ากับมุมว่างในห้องรับแขก หรือจะจัดวางแจกันดอกไม้บนโต๊ะในห้อง ก็จะช่วยเติมเต็มห้องรับแขกของเราให้สมบูรณ์ขึ้นได้ ทั้งนี้ควรเลือกต้นไม้ที่สามารถปลูกได้บ้านได้ เพราะต้นไม้เหล่านี้จะไม่ต้องการแสงแดดจัดมาก ทนทาน ดูแลได้ไม่ยาก เหมาะกับการปลูกในที่ร่ม
- ใช้พื้นที่ให้เป็นประโยชน์ การจัดสรรพื้นที่ห้องรับแขกให้เหมาะกับการใช้งาน จะช่วยให้ห้องรับแขกของเราดูเป็นระเบียบ ทำความสะอาดง่าย โดยเฉพาะหากห้องรับแขกมีพื้นที่เป็นห้องแคบ หรือไม่ใช่ห้องรับแขกแบบปิดแต่ติดกับห้องรับแขกอื่น ๆ การจัดสัดส่วนภายในห้องรับแขกอย่างพอดีจะทำให้ดูมีพื้นที่ชัดเจนมากขึ้น เคล็ดลับคือการกำหนดเขตด้วยการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ เช่น การใช้พรมกำหนดพื้นที่ การใช้ฉาก หรือการหันโซฟาเซ็ทเข้าหากัน กั้นให้ดูมีอาณาเขตสำหรับพักผ่อนชัดเจน ซึ่งการจัดแบบนี้จะไม่ทำให้ห้องดูแคบ ห้องรับแขกจะดูโปร่งแต่มีการวางเลย์เอาท์ที่เป็นระเบียบ นอกจากนี้การเสริมด้วยชั้นวางของทั้งแนวตั้ง และแนวนอน จะทำให้ห้องรับแขกของเรามีพื้นที่ในการจัดเก็บของมากขึ้น ถือเป็นการแบ่งใช้พื้นที่ห้องรับแขกให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ไอเดียการเลือกของตกแต่งให้เหมาะกับสไตล์ห้องรับแขกของเรา
- เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่สไตล์โดดเด่น เฟอร์นิเจอร์จะเป็นตัวชูโรงให้กับห้องรับแขก ไม่ว่าจะเป็นชุดเซ็ทโซฟาขนาดใหญ่ ชั้นวางของ โต๊ะกลาง หรือคอนโซลสำหรับวางโทรทัศน์ การเลือกควรเน้นที่เข้ากับสไตล์ของบ้าน หากโทนการแต่งบ้านดูหรูหรา การเลือกชุดโซฟาที่เป็นสไตล์น่ารักอาจไม่เหมาะ ทำให้ไม่เข้ากัน ดูขัดตา ไม่เข้ากับห้องอื่น ๆ ภายในบ้าน จะเห็นได้ว่าเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่มีส่วนสำคัญในการกำหนดโทนและบรรยากาศ (Mood and Tone ) ของห้องรับแขก นอกจากจะช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูเหมาะกับการพักผ่อนแล้ว การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ๆ จำนวนไม่กี่ชิ้น จะช่วยให้ห้องรับแขกที่มีขนาดไม่กว้างมากดูน่านั่ง และใช้งานได้อย่างเต็มที่มากกว่าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็ก ๆ ที่อาจทำให้ห้องดูรก
- โปรเจคเตอร์หรือทีวีจอยักษ์ กิจกรรมหนึ่งของห้องรับแขกในวันหยุดของใครหลายคนเล่นคงหนีไม่พ้นการนอนเอนหลัง กินป๊อปคอร์นพร้อมดูหนัง ซีรีย์จากทีวีจอยักษ์ ถ้าใครงบน้อย หรืออยากได้บรรยากาศวินเทจก็สามาถใช้จอโปรเจคเตอร์ฉายเข้ากับกำแพงได้เหมือนกัน การตกแต่งด้วยทีวีจอ LED ขนาดใหญ่ กับโปรเจคเตอร์ที่สามารถฉายภาพยนตร์จอยักษ์จำลองเป็นโรงหนังขนาดย่อม นอกจากจะทำให้ห้องรับแขกเราดูไฮเทค ดูมีลูกเล่นแล้ว ยังทำให้มีกิจกรรมให้กับเพื่อน พี่น้อง ครอบครัวที่มาหาเราที่บ้านทำร่วมกันอีกด้วย
- เตาผิงไฟฟ้า การมีเตาผิงในห้องรับแขกช่วยสร้างบรรยากาศให้ห้องรับแขกดูอบอุ่น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันสำคัญต่าง ๆ เช่น ฮาโลวีน คริสมาสต์ การตกแต่งเตาผิงให้เข้ากับเทศกาลนั้น ๆ ก็ดูจะเป็นกิจกรรมแสนน่ารักที่สามารถทำร่วมกันได้ภายในครอบครัว ทำให้ห้องรับแขกของเราดูพิเศษ แถมยังเป็นมุมถ่ายรูปที่สวย ไม่เหมือนใคร เพราะเราสามารถตกแต่งได้ตามใจชอบ การเลือกใช้เตาผิงไฟฟ้าจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับห้องรับแขกมากกว่าเตาผิงที่ต้องใช้ไฟจริง อีกทั้งยังควบคุมการทำงาน และทำความสะอาดได้ง่ายกว่าด้วย
- โคมไฟสวยๆสักชิ้น แสงไฟ เป็นมากกว่าแค่แสงที่ให้ความสว่างภายในห้อง เพราะการจัดแสงเป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยสร้างบรรยากาศของห้องรับแขกให้ดูดียิ่งขึ้น เช่น ถ้าห้องรับแขกของเรามีการตกแต่งด้วยกระจกซึ่งช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามามากกว่าผนังทึบ ก็จะทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกโปร่งสบาย ถ้าหากใช้แสงนีออนสีสว่างจะทำให้ห้องรับแขกดูมีความโมเดิร์น ทันสมัย หรือถ้าใช้แสงไฟสีออกเหลืองส้ม จะทำให้ห้องรับแขกดูอบอุ่น ผ่อนคลาย นอกจากการจัดแสงที่จะเหมาะสมกับกิจกรรมภายในห้องรับแขกแล้ว การเลือกดีไซน์โคมไฟที่จะเป็นของตกแต่งภายในห้องรับแขกก็เป็นหนึ่งสิ่งที่ห้ามพลาด ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟตั้งโต๊ะ โคมไฟตั้งพื้น หรือโคมไฟติดเพดาน ก็เป็นส่วนช่วยเสริมความดูดีให้กับห้องรับแขกเราได้ และข้อสำคัญคือการเลือกหลอดไฟแบบประหยัดไฟ เช่น โคมไฟที่ใช้หลอด LED ซึ่งประหยัดไฟมากกว่าหลอดตะเกียบถึง 40%
- รูปภาพที่สื่อถึงความเป็นคุณ รูปภาพแต่ละรูปย่อมมีการสื่อความหมายที่แตกต่างกัน อาจบ่งบอกถึงตัวตนของเรา หรือเป็นการบันทึกความทรงจำที่ดีเอาไว้ การนำรูปภาพมาตกแต่งห้องรับแขกจะช่วยดึงเอาความเป็นเราเข้ามาไว้ในบ้าน ทำให้ห้องรับแขกดูมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร โดยวิธีการเลือกนั้นเราจะต้องเลือกรูปภาพให้สอดคล้องกับสไตล์การตกแต่งห้องรับแขกในบ้านเรา เพราะรูปภาพที่มีเทคนิคการวาดต่างกันก็จะให้อารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป อาทิ ภาพโทนขาวดำ จะเหมาะกับห้องนังเล่นสไตล์โมเดิร์น ส่วนภาพที่มีเป็นโทนกราฟฟิคจะเหมาะกับห้องรับแขกสไตล์ลอฟท์ เป็นต้น ไม่ใช่แค่รูปภาพ แต่รวมถึงกรอบรูปที่จะช่วยสร้างความสะดุดตาให้กับห้องรับแขก ซึ่งเราควรเลือกให้เข้ากับสไตล์ของห้องรับแขก และรูปภาพที่เรามี ทริคพื้นฐานคือการใช้กรอบรูปโทนสีขาว – สีดำ หรือกรอบรูปไม้ที่สามารถเข้ากับภาพได้หลากหลายรูปแบบ
- ชั้นวางของอเนกประสงค์ ชั้นวางของจะช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยภายในห้องรับแขก เราสามารถติดตั้งชั้นวางได้หลากหลายรูปแบบ ท้งชั้นวางของติดผนัง ชั้นวางเข้ามุม ชั้นวางแนวตั้ง หรือจะติดตั้งเป็นตู้ลิ้นชักเลยก็สวยไม่แพ้กัน โดยเน้นเลือกวัสดุให้เข้ากับการตกแต่งห้องรับแขก เช่นชั้นวางไม้ ชั้นวางอะลูมิเนียม เป็นต้น เท่านี้ก็จะได้ของตกแต่ง และตัวช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บของในห้องรับแขก ให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้นแล้ว
เพราะว่าห้องรับแขกเป็นจุดศูนย์กลางหนึ่งของบ้าน และรองรับการใช้งานของคนหลายคน ทั้งเพื่อน ญาติ พ่อแม่ พี่น้องที่แวะเวียนมาบ้าน รวมทั้งตัวเราเองที่ต้องการการพักผ่อน การตกแต่งห้องรับแขกอย่างเหมาะสมจะช่วยให้เราได้ทำกิจกรรมภายในบ้านได้อย่างคุ้มค่า และส่งเสริมความสัมพันธ์ของทุก ๆ คน อย่าลืมใส่ใจห้องรับแขกของตัวเองกันนะ
