รีวิว “โจ๊กสามย่าน อุดมสุข” ตำนานความอร่อย ที่คุณต้องลองซักครั้ง

โจ๊กสามย่าน แห่งอุดมสุข หนึ่งในตำนานความอร่อยที่ยังคงเสิร์ฟเมนูร้อน ๆ ให้ทุกคนได้ลิ้มรสมายาวนานกว่า 70 ปี แม้ว่าในกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยร้านอาหารหลายแห่ง โจ๊กสามย่านเป็นหนึ่งในที่นี่ที่คุณไม่ควรพลาด ในกลางเมืองนี้คุณจะพบกับร้านโจ๊กย่านดังที่รู้จักกันเป็นอย่างดีจากคนที่อาศัยอยู่ในชุมชน ด้วยความอร่อยและราคาที่คุ้มค่ามาก ๆ อยู่ โดยไม่กี่เส้นทางเดินจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อุดมสุข ก็สามารถแวะมายังร้านนี้ได้สะดวกสบาย หรือคนที่อาศัยอยู่คอนโดใกล้เคียงอย่าง คอนโด เอลลิโอ เดล เนสท์  หรือที่หอพักอื่นก็สามารถมาฝากท้องที่นี่ได้ รับรองว่าไม่ผิดหวัง รสชาติอร่อยคงที่มาตลอดหลายสิบปี

ประวัติความเป็นมาที่ทำให้โจ๊กสามย่าน อุดมสุขมีชื่อเสียงมานานกว่า 70 ปี

ต้นกำเนิดของโจ๊กมีชื่อเสียงมายาวนานมากกว่า 2,000 ปี เป็นที่นิยมในชาวจีน และเป็นหนึ่งในตำรับอาหารที่ถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ ถึงขั้นที่มีการตั้งมาตรฐานของเมนูนี้เอาไว้ว่า คุณภาพที่ดีจะต้องสามารถปักตะเกียบลงไปบนข้าวที่เคี่ยวกับน้ำได้โดยไม่ล้ม นั่นคือการได้ความข้นที่พอดี 

ในปัจจุบันร้านอาหาร สามย่านที่เหล่าพนักงาน เด็กนักเรียน นักศึกษา แวะมาฝากท้องกันทั้งช่วงเช้าและเย็น ก็เห็นจะหนีไม่พ้น “โจ๊กสามย่าน อุดมสุข” ที่ขึ้นชื่อลือชาในด้านรสชาติ ความประณีตในการทำ และเป็นเจ้าแรกต้นตำรับ แม้ว่าผู้คนในยุคนี้จะไม่ได้เห็นภาพบรรยากาศเดิม ๆ ของร้าน แต่บอกเลยว่า “เจ๊หย่ง” หรือคุณวรวรรณ จงสุขสันติกุล วัย 67 ปี เป็นทายาทรุ่นที่ 3 ก็สามารถพาย้อนประวัติเล่าความเป็นมาของร้านได้อย่างชัดเจนในภาพความทรงจำ

ย้อนกลับไปสมัยก่อนร้านโจ๊กแห่งนี้มีชื่อเรียกว่า “ลี้เคียงไถ่” ซึ่งเป็นชื่อแซ่และชื่อของอากง ป้ายร้านถูกเขียนขึ้นด้วยภาษาไทยและภาษาจีน ทำให้ได้บรรยากาศที่ดูมีมนต์ขลัง แน่นอนว่าในยุคนั้นโจ๊กยังไม่ได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย แถมยังไม่ค่อยรู้จักหน้าตาของเมนูนี้ ทว่าด้วยความอร่อยที่ถูกกล่าวขาน ทำให้ลูกค้าพูดถึงกันแบบปากต่อปาก และมักจะรวมตัวชวนกันไปกิน ด้วยการเรียกสั้น ๆ ว่า “โจ๊กสามย่าน” ก็เป็นที่รู้กันแล้วว่าอยู่ที่ไหน เมื่อชื่ออาหารกับทำเลที่ตั้งที่ลูกค้าจำง่าย จึงกลายเป็นชื่อร้านที่ใช้อยู่มาจนถึงปัจจุบัน

ร้านลี้เคียงไถ่ในยุคนั้นไม่ได้ขายแค่โจ๊ก แต่มีทั้งกาแฟ, น้ำแข็งไส และมีก๋วยเตี๋ยวขายอีกด้วย ลักษณะที่ตั้งของร้านอยู่ติดกับคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ปลูกสร้างด้วยเรือนไม้ดูคลาสสิค ก่อนจะถูกรื้อ และได้เปลี่ยนเป็นร้านที่อยู่ในตึกคูหาสี่ชั้นของจุฬาฯ แทน 

สมัยนั้นอากงจะเป็นคนทำโจ๊ก ใส่แค่หม้อเล็ก ๆ ขาย จนกระทั่งมีชื่อเสียงก็เพิ่มขนาดหม้อให้ใหญ่ขึ้น ในที่สุดก็กลายเป็นโจ๊กถังสแตนเลส เพราะขายดิบขายดี ให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นในทุกวัน 

ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ การสืบทอดขั้นตอนการทำโจ๊กที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย กลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะมีทั้งการดูไฟ การเคี่ยวไม่ให้ข้าวจมถังหรือติดก้นถังจนไหม้ แม้แต่หมูสับปั้นก้อนก็ยังต้องถูกถ่ายทอดวิชาที่ทำให้โจ๊กแห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบที่ใครมากินแล้วก็ต้องรู้สึกถึงความอร่อยที่แตกต่างจากร้านทั่ว ๆ ไป

จุดเด่นความอร่อยของโจ๊กสามย่าน

ใครที่อยากรู้จุดเด่นของโจ๊กในโซนสามย่านแห่งนี้ เราลองมาทำความรู้จักกับจุดเด่นที่น่าลิ้มลอง เพราะเป็นหัวใจความอร่อยที่ทำให้ร้านนี้ยังคงเป็นตำนานอันแข็งแกร่ง ลูกค้าติดใจในรสชาติมาจนถึงทุกวันนี้

1.เทคนิคการต้มข้าวที่พิถีพิถัน

จากการถ่ายทอดวิชาจากอากงมาถึงเจ๊หย่ง เจ้าของร้านรุ่นปัจจุบัน มัดใจลูกค้าได้ด้วยสูตรการต้มข้าวของอากง ข้าวที่ได้จะมีความนิ่ม แต่ไม่เละ เป็นเม็ดสวยให้ได้สัมผัสของข้าวที่ไม่ข้นเหนียวจนกลายเป็นน้ำ แถมยังซื้อกลับไปกินที่บ้านได้แบบไม่จับตัวเป็นก้อน เทคนิคการต้มข้าวจึงสำคัญ ต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญสูง ทุกครั้งที่ต้มจะต้องตักขึ้นมาดูว่าได้ที่หรือยัง ก่อนจะพัก ให้เม็ดข้าวบาน ก็จะฟูสวยเต็มหม้อต้ม แต่เม็ดข้าวไม่เละนั่นเอง

2.เครื่องโจ๊กที่อร่อยและมีให้เลือกเยอะ

รสชาติความอร่อยของโจ๊กสามย่าน ไม่ได้มาจากการใช้ผงปรุงรสใด ๆ การต้มข้าวมาจากน้ำธรรมดา แต่ที่เด็ดอยู่ที่รสชาติหวานจากหมูบ๊ะฉ่อ และน้ำต้มกระดูกหมูแท้ ๆ ที่ใส่ลงไป ที่นี่มีหมูสับก้อนโตเต็มคำ นุ่มอร่อย และมีความหอมเป็นเอกลักษณ์ แถมยังมีเครื่องในหมูให้เลือกใส่ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ไส้, กระเพาะ, ตับ ที่มีขั้นตอนการทำที่สะอาด รับรองเลยว่ากลิ่นไม่เหม็น ไม่เหนียว และไม่คาว กินคู่กับโจ๊กได้อย่างลงตัว

3.กินที่บ้านหรือกินที่ร้านก็รับประกันโจ๊กไม่คืนตัว

เราอาจเคยเห็นโจ๊กที่ซื้อกลับบ้านแล้วทิ้งไว้สักพัก จะแบ่งชั้นข้าวและน้ำออกจากกัน แต่สำหรับที่นี่การันตีเลยว่า แม้ว่าจะซื้อกลับก็ยังอร่อยเหมือนนั่งกินที่ร้าน แถมไม่คืนตัวเป็นน้ำ แม้จะนำเข้าตู้เย็นแล้วเอาออกมาอุ่นใหม่ ทำให้ยังคงรสชาติความอร่อยเอาไว้ได้เป็นอย่างดี

4.เน้นวัตถุดิบสดใหม่อยู่เสมอ

ความสดใหม่และมีคุณภาพคืออีกหนึ่งในหัวใจสำคัญที่ร้านโจ๊กสามย่าน อุดมสุขใส่ใจ เพราะยิ่งของดี สด และใหม่ ถูกนำมาใช้เป็นวัตถุดิบ เจ๊หย่งบอกเลยว่า จะช่วยยกระดับรสชาติให้เมนูอาหารได้

5.หมูบ๊ะฉ่อต้นตำรับที่สืบทอดมาจากอากง

ที่ร้านไม่ได้ใช้หมูบ๊ะฉ่อสำเร็จรูปจากท้องตลาด แต่ทำเองทุกกระบวนการ ตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกวัตถุดิบ ซึ่งที่นี่จะเลือกใช้ส่วนเนื้อหมูขาหน้า เอามาล้างทำความสะอาดก่อนนำไปบด จากนั้นจะนำไปผสมกับหมูบด แล้วปรุงรสอีกทีด้วยพริกไทย ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลอีกเล็กน้อย เพียงแค่นี้ก็จะได้บ๊ะฉ่อที่นุ่มหนึบ ไม่เลี่ยนมัน รสชาติดี กัดเข้าไปคำแรกก็รู้ได้เลยถึงคุณภาพที่ไม่เหมือนใคร

ทำเลที่ตั้งของร้านโจ๊กชื่อดังแห่งอุดมสุข และวิธีเดินทาง

โจ๊กสามย่านตั้งอยู่บนเส้นถนนอุดมสุข ซอย 9 เลี้ยวเข้าซอยมานิดเดียวก็ถึงที่หมาย มองเห็นด้านหน้าปากซอยจะมีเซเว่นอยู่ เปิดให้บริการตั้งแต่รอบเช้า ตั้งแต่ตี 5 ไปจนถึง 9 โมงเช้า ส่วนรอบเย็นจะเริ่มตั้งแต่ 16.00 น. – 20.00 น. ใครอยากมาก็แวะมาได้ไม่ต้องกลัวว่าร้านหยุด เพราะที่นี่เปิดบริการทุกวันแบบ หรือถ้าไม่มั่นใจก็โทรสอบถามหรือสั่งอาหารล่วงหน้าก่อนได้ที่เบอร์โทร 081-350-6671

การเดินทางมากินโจ๊กร้านดั้งเดิมแห่งสามย่าน ทำได้ไม่ยาก เพราะสามารถใช้บริการรถไฟฟ้า BTS มาถึงที่นี่ได้อย่างสะดวกสบาย ลงที่สถานีอุดมสุข ไม่ต้องขับรถส่วนตัวมาให้หาที่จอดยากลำบาก ส่วนใครที่อยู่ไม่ไกล ในระยะไม่เกิน 1 กิโลเมตร ลองพิมพ์ค้นหาใน Google คำว่า “ร้านโจ๊กใกล้ฉัน” รับรองว่าเจอที่นี่ได้ไม่ยาก 

ยิ่งใครอาศัยอยู่ตรงคอนโด เอลลิโอ เดล เนสท์ ด้วยแล้ว จะแวะมากินทุกวันก็ยังได้ เพราะเดินทางแค่ 1 นาทีก็มาฝากท้องอิ่มอร่อย ด้วยระยะทางห่างกันเพียง 300 เมตรเท่านั้น สะดวกสบายทั้งช่วงเช้าและเย็นหากเอ่ยถึงร้านอาหาร สามย่าน ที่นี่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในแหล่งร้านในตำนานที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แม้ว่าจะไม่ได้มีเมนูหลากหลายให้เลือก ทว่าสำหรับโจ๊กสามย่าน แห่งซอยอุดมสุข ก็ทำให้ใครที่แวะเวียนมากินต้องย้อนกลับมาซ้ำ เพราะไปกินที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าที่นี่

เครดิตรูปภาพจาก: wongnai.com

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top