พาชม “Jim Thompson” ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ถักทอด้วยผ้าไหม ดีกรีระดับโลก

ตำนานผ้าไหมไทยที่ jim Thompson ทิ้งไว้ คือมรดกทางวัฒนธรรมที่ดังไกลทั่วโลก

jim thompson (จิม ทอมป์สัน) เป็นแบรนด์ผ้าไหมไทยที่มีชื่อเสียง ซึ่งก่อตั้งขึ้นในศูนย์การค้าที่โดดเด่นและมีขายตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ แบรนด์ผ้าไหมไทยแห่งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังได้การยอมรับในระดับสากลอีกด้วย โดยหลังจากเกษียณจากกองทัพ จิมก็ตัดสินใจมาตั้งรกรากในประเทศไทย หลังจากนั้นไม่นาน ได้ร่วมมือกับกลุ่มนักลงทุน เพื่อซื้อโรงแรมโอเรียนเต็ลในกรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นการร่วมลงทุนทางธุรกิจครั้งแรกในประเทศ และ กลายมาเป็นตำนานของผ้าไหมไทย jim thompson และสไตล์แฟชั่นที่เป็นเอกลักษณ์มาจนถึงปัจจุบัน 

ภาพจาก : www.thairath.co.th

ประวัตความเป็นมาของ jim Thompson ก่อนจะเป็นผู้นำแฟชั่นผ้าไหมไทย

เจมส์ แฮร์ริสัน วิลสัน ทอมป์สัน หรือที่รู้จักในชื่อ jim thompson เป็นนักธุรกิจชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียง จากการทำธุรกิจผ้าไหมในประเทศไทย ก่อตั้งบริษัทที่มีชื่อของตนเอง เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการค้าผ้าไหมแล้วได้รับความนิยมอย่างดี แต่กลับหายตัวไปอย่างลึกลับ จากโรงแรมแห่งหนึ่งในคาเมรอนไฮแลนด์ ประเทศมาเลเซีย โดยไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น โดยทอมป์สันเกิดในปี พ.ศ. 2449 ในกรีนวิลล่าของรัฐเดลาแวร์ เข้าเรียนที่โรงเรียนเซนต์ปอล และมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ระหว่างปี พ.ศ. 2467 ถึง พ.ศ. 2471 

จิมมาถึงกรุงเทพฯ เป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน พ.ศ. 2488 ในช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง ภารกิจดั้งเดิมคือการกระโดดร่ม เข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เพื่อต่อต้านกองทัพญี่ปุ่น เมื่อภารกิจเสร็จสิ้น จิมต้องรีบเดินทางไปกรุงเทพฯ และได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนเชิงกลยุทธ์ในกรุงเทพฯ ได้รับมอบหมายให้สร้างสถานทูตอเมริกันขึ้นใหม่ นอกจากนี้ ยังพัฒนาความหลงใหลในวิถีชีวิตชนบทในประเทศไทย ที่ทำให้เป็นบ้านถาวรของจิม ในปีพ.ศ. 2489 โดยเกษียณจากกองทัพ แต่ยังคงอาศัยอยู่ในประเทศไทยต่อไป แล้วเริ่มต้นเส้นทางอาชีพใหม่ ทำงานปรับปรุงโรงแรมโอเรียนเต็ล ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงเทพฯ ขณะนั้นไปพร้อม ๆ กัน 

ในระหว่างที่อยู่ในประเทศไทย จิมเดินทางไปทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพัฒนาความสนใจอย่างมากในอุตสาหกรรมทอผ้าไหมด้วยมือ ในสมัยนั้นเป็นที่ต้องการอย่างมาก เนื่องจากสถานการณ์หลังสงคราม ในขณะเดียวกัน การทอผ้าไหมแบบอุตสาหกรรม ซึ่งคุ้มค่ากว่าและมีปริมาณมากกว่าก็ได้รับความนิยมเช่นกัน กล่าวกันว่ามีช่างทอเพียงไม่กี่คนที่ยังคงเลี้ยงไหม ย้อมเส้นไหม และทอผ้าไหมไว้ใต้หลังคาของตนเอง จิมจึงนำตัวอย่างผ้าไหมแบบดั้งเดิม ไปจัดแสดงในสหรัฐอเมริกา พร้อมติดต่อ Frank Crowninshield บรรณาธิการของ Vanity Fair ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด โดยเชื่อว่าสามารถสร้างความสัมพันธ์ในอุตสาหกรรมแฟชั่นได้ 

ต่อมาได้พบกับ Edna Woolman Chase ซึ่งในที่สุดก็กลายเป็นบรรณาธิการของ Vogue เมื่อเชสเห็นผ้าไหมทอมือจากช่างทอในชนบท ก็ตกหลุมรักทันที! ภายในไม่กี่สัปดาห์ Valentina นักออกแบบแฟชั่นชื่อดัง จากนิวยอร์ก ได้นำเสนอผ้าไหมในนิตยสาร Vogue ทำให้เกิดการนำเสนอแฟชั่นผ้าไหม jim thompson ที่น่าทึ่งไปทั่วโลก

ภาพจาก : www.thairath.co.th

รีวิว ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นชื่อดัง jim thompson ปรับกลยุทธ์ เพื่อเข้าถึงผู้ซื้อมากขึ้น

jim thompson Heritage Quarter ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุด สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ปรารถนากับความงดงามของผ้าไหมคุณภาพสูงชื่อดัง มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ หรือบุคคลที่ค้นหาสินค้าและเสื้อผ้าที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ ที่นี่มีครบ! ทั้งยังสามารถเพลิดเพลินกับการเยี่ยมชมร้านอาหาร และสัมผัสกับมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าอย่างแท้จริง เรียกได้ว่าเป็นการพักผ่อนที่เติมเต็มและครบจบในที่เดียว นอกจากนี้ คุณยังจะพบกับสินค้าหลายชนิด เช่น เสื้อเชิ้ตผ้าไหม เสื้อยืด เนคไท ชุดเดรส กระโปรง เครื่องประดับ และอื่น ๆ อีกมากมาย 

ในแต่ละฤดูกาล jim thompson มาพร้อมกับคอลเลกชั่นที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ และรายละเอียดที่สวยงาม คุณสามารถเลือกชื่นชมคอลเลกชัน Exclusive ที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น รวมถึงคอลเลกชัน House on the Klong ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบ้านไทยแบบดั้งเดิมที่ตั้งอยู่ริมคลอง การออกแบบเหล่านี้มีลวดลายที่โดดเด่นและสีสันอันสดใส ซึ่งได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมบ้านไทย ที่รายล้อมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และคุณจะพบกับของตกแต่งบ้าน เช่น หมอน ปลอกหมอน ผ้าเช็ดจาน ผ้าม่าน และพรม อีกด้วย

ภาพจาก : www.thairath.co.th

เลือกซื้อครบวงจรกับแบรนด์ jim thompson เลือกได้อย่างหลากหลาย

หลังจาก jim thompson ได้การต้อนรับอย่างอบอุ่นในมหานครนิวยอร์ก ธุรกิจผ้าไหมไทยของทอมป์สันก็เจริญรุ่งเรืองอย่างมาก โดยในปี พ.ศ. 2510 ได้เปิดร้านชื่อดังแห่งแรกบนถนนสุรวงศ์ ในกรุงเทพฯ จิมยังได้รับค่าคอมมิชชั่นด้านศิลปะไทยอีกมากมาย ปัจจุบันมีการแตกไลน์สินค้าของทอมป์สันออกมาหลายแบบด้วยกัน คือ 

แฟชั่นเสื้อหญิงและชาย 

jim thompson เป็นแบรนด์ที่ภูมิใจนำเสนอเสื้อผ้าและกระเป๋าที่มีเสน่ห์ของผ้าไหมไทย การออกแบบส่วนใหญ่มีลวดลายดอกไม้ที่ละเอียดอ่อน ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ต่องานฝีมือที่พิถีพิถัน เสื้อผ้ามีความหลากหลาย เหมาะสำหรับโอกาสต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสำหรับทำงานหรือเดินเล่นในห้างสรรพสินค้า พาสัมผัสประสบการณ์คุณภาพ ระดับพรีเมียม ที่รับประกันจากผลิตภัณฑ์แท้ มีสไตล์แฟชั่นเสื้อผ้าที่เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

ภาพจาก : jimthompsonheritagequarter.com

เฟอร์นิเจอร์

การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญกำลังเกิดขึ้น แบรนด์ต่าง ๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยรู้จักความเป็นอิสระและมีเอกลักษณ์ มารวมตัวกันภายใต้ร่มธงของ jim thompson ด้วยพันธกิจอันโดดเด่น ภารกิจดังกล่าว คือ การเฉลิมฉลองความหลากหลาย ที่ไม่ธรรมดาของเนื้อผ้าไหมไทย โดยที่งานศิลปะแต่ละชิ้นบอกเล่าเรื่องราวของความหลากหลาย สะท้อนถึงความงดงามของ ความเป็นปัจเจกบุคคล และความเข้มแข็งของพลังส่วนรวม ที่ถูกผสานเข้ากับเฟอร์นิเจอร์หลายประเภท เพื่อให้เลือกซื้อไปตกแต่งบ้าน หรือห้องคอนโดของคุณได้อย่างตรงใจ 

ภาพจาก : JimThompsonHomeFurnishingsBangkokShowroom

ของตกแต่งบ้าน 

ห้อง Tropical Colonial ในร้าน ได้รับการออกแบบ เพื่อให้คุณดื่มด่ำกับความทรงจำและจิตวิญญาณของ jim thompson ถ่ายทอดแก่นแท้ของสถาปัตยกรรมโคโลเนียล พร้อมสัมผัสพิเศษที่เชื่อมโยงพื้นที่ภายในและภายนอกอย่างลงตัว รูปแบบการใช้ชีวิตนี้เหมาะกับภูมิอากาศเขตร้อนอย่างลงตัว ทั้งยังผสมผสานสีสันที่สดใส ผลงานศิลปะ เฟอร์นิเจอร์ไม้แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจง โถเซรามิก และหีบโบราณที่ได้มาจากการเดินทางในภูมิภาคเอเชีย องค์ประกอบเหล่านี้มารวมกันเพื่อเพิ่มบรรยากาศและสร้างเรื่องราวที่น่าดึงดูดยิ่งขึ้น ซึ่งคุณสามารถหาซื้อของตกแต่งบ้านทุกชนิดได้จากสไตล์นี้ 

ภาพจาก : JimThompsonHomeFurnishingsBangkokShowroom

เลือกซื้อของแต่งห้อง jim Thompson ได้ง่าย เดินทางสะดวก เพียงเลือก CULTURE CHULA

เลือกซื้อของแต่งห้องคอนโดของ jim thompson ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น เพียงเลือกซื้อคอนโด CULTURE CHULA โดย อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ ตั้งอยู่สองฝั่งถนนพระราม 4 หันหน้าไปทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้านหน้ากว้าง เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีสามย่าน เพียง 350 เมตร นอกจากนี้ ยังติดถนนสุรวงศ์เชื่อมกับถนนธนิยะ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง เพียง 290 เมตร นี่คือทำเลที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ โครงการนี้มีพื้นที่สีเขียวที่กว้างใหญ่ ตั้งอยู่ท่ามกลางพื้นของอาคารสไตล์ย้อนยุค 

ซึ่งจำเป็นต้องลดระดับบันได เพื่อให้สอดคล้องกับความสูงของถนนโดยรอบ ด้วยเหตุนี้ เมื่อมองจากด้านบน อาคารจึงเผยให้เห็นพื้นที่สีเขียวอันอุดมสมบูรณ์ ด้วยความสูง 32 ชั้น โครงสร้างนี้ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 2 ไร่ ประกอบด้วยยูนิตสไตล์ HYBRID เพดานสูงจำนวน 612 ยูนิต พร้อมด้วยพื้นที่ค้าปลีกอีก 2 แห่ง โครงการยังมีระบบที่จอดรถอัตโนมัติ 248 คัน คิดเป็น 40% ของพื้นที่ทั้งหมด รวมถึงสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า 5 สถานี นอกจากนี้ ยังมีลิฟต์ธรรมดา 4 ตัว และลิฟต์บริการ 1 ตัว ยูนิตพักอาศัยตั้งอยู่บนชั้น 7-29 แต่ละยูนิตเป็นห้องสไตล์ HYBRID มีเพดานสูงและพื้นลอย ห้องพักประเภทนี้เป็นที่ต้องการอย่างมากในย่านนี้

ดูข้อมูลโครงการเพิ่มเติม

ทุ่มเทเพื่องานฝีมือไทย จุดมุ่งหมายของ jim Thompson ก่อนหายตัวไป 

jim thompson ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อสร้างเครือข่ายช่างฝีมือที่มีทักษะ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับศิลปะการทอผ้าไหม ได้นำเสนอเทคนิคและการออกแบบที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ช่วยให้ช่างทอไทยสามารถสร้างสรรค์ผ้าไหมที่ชวนหลงใหล และดึงดูดใจชาวโลก ในปีพ.ศ. 2493 ได้ก่อตั้งบริษัทไหมไทย โดยมีคนไทยถือครองหุ้นเป็นส่วนใหญ่ วัตถุประสงค์หลักประการหนึ่งของบริษัทคือการรักษาวิถีชีวิต วัฒนธรรม และศักดิ์ศรีแบบดั้งเดิมของช่างทอผ้า รวมถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงไหมในท้องถิ่น  ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของจิม ทอมป์สัน กับโลกแห่งการออกแบบตกแต่งภายใน แฟชั่น ศิลปะการแสดง และสื่อ ทำให้เขาได้เปิดตัวสิ่งทอใหม่ ๆ ในยุโรปและอเมริกา ในไม่ช้า! ผ้าของ jim thompson จึงได้รับความสนใจจากนักออกแบบภายใน  นักออกแบบแฟชั่น และผู้สร้างเครื่องแต่งกาย สำหรับการผลิตละครเวทีและภาพยนตร์ ในทศวรรษ 1960 ผ้าไหมไทยจึงได้รับการยกย่องจากนานาชาติ ก่อให้เกิดอุตสาหกรรมหัตถกรรมอันหรูหรา ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวหลายพันครอบครัวในชนบท จินตนาการอันมีวิสัยทัศน์ของ jim thompson จึงกลายเป็นความจริง พร้อมทิ้งร่องรอยไว้บนโลกแห่งการทอผ้าไหมอย่างไม่มีวันลบเลือน

Related Posts

Leave a Comment

Categories

Recent Posts

Popular Tags

Scroll to Top